รถตัดไม้ (Harvester) เป็นเครื่องจักรกลที่สามารถตัดล้มไม้ ลิดกิ่งและตัดทอนไม้ตามขนาดที่ต้องการได้ โดยจะตัดต้นไม้ทีละต้น รถตัดไม้ Harvester ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนฐานของรถ และส่วนหัวตัดไม้
ส่วนฐานของรถ Harvester มี 2 แบบแบ่งตามการเคลื่อนที่ของรถ คือ แบบล้อยาง และแบบล้อตีนตะขาบ ส่วนหัวตัดไม้แบ่งตามการเคลื่อนที่บนท่อนไม้ได้ 2 แบบ คือ การเคลื่อนที่แบบ Roller (Roller feed) และการเคลื่อนที่แบบ Stroke (Stroke feed) องค์ประกอบหลักของหัวตัดไม้มีดังต่อไปนี้
เลื่อยยนต์ (chain saw) เลื่อยยนต์ที่ใช้กับรถตัดไม้ ต้นกำลังเป็นแบบไฮดรอลิกซึ่งมีกำลังมากกว่าเลื่อยยนต์แบบใช้มือถือ
ใบมีดลิดกิ่ง (delimbing knives) เป็นเหล็กโค้งที่แนบขนานไปกับลำต้นอาจมีมากกว่าหนึ่งตำแหน่ง เช่น ใบมีดลิดกิ่งด้านหน้า ใบมีดลิดกิ่งด้านข้าง เป็นต้น ซึ่งจะลิดกิ่งขนาดเล็กออกจากลำต้นในระหว่างที่มีการเคลื่อนไม้เพื่อตัดทอน รวมถึงอาจลอกเปลือกไม้ออกได้บ้างบางส่วน
ส่วนเคลื่อนไม้ (feeding) เป็นส่วนที่ขับเคลื่อนหัวตัดไม้ไปตามความยาวของท่อนไม้เพื่อให้ส่วนวัดความยาวและลิดกิ่งได้ดำเนินงาน การเคลื่อนไม้มี 2 วิธี คือ เคลื่อนไม้แบบลูกกลิ้ง (Roller feed) คือใช้ลูกกลิ้งขนาดใหญ่สองลูกคีบท่อนไม้ช่วยในเคลื่อนที่ของหัวตัดไม้ และเคลื่อนไม้แบบคืบ (Stroke feed) วิธีนี้ใช้แขนจับท่อนไม้แล้วเคลื่อนหัวตัดไม้แบบคืบ โดยจับและปล่อยไม้เป็นจังหวะไปตามความยาวของท่อนไม้
เซนเซอร์วัดความโต (diameter sensors) หัวตัดไม้สามารถวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนไม้จากเซนเซอร์ สามารถคำนวณหาปริมาตรไม้ที่ล้มได้เมื่อนำข้อมูลความยาวมาคำนวณด้วยกัน
วงล้อวัดความยาว (measuring wheel) วงล้อขนาดเล็กใช้วัดความยาวของท่อนไม้เพื่อกำหนดจุดที่จะตัดทอนไม้ตามโปรแกรมที่ผู้ควบคุมกำหนดไว้
รถตัดไม้ Harvester นิยมใช้คู่กับรถขนส่งไม้ Forwarder ในวิธีการทำไม้แบบ CTL (Cut-to-Length method) การใช้รถตัดไม้ Harvester ทำให้งานล้มไม้ ตัดทอนทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย แต่รถตัดไม้ก็มีข้อจำกัดตามลักษณะทางกายภาพของรถตัดไม้ นั่นคือ
- ความลาดชันของพื้นที่ (slope) รถตัดไม้ที่มีฐานเป็นล้อตีนตะขาบจะสามารถทำงานได้บนพื้นที่ที่มีความลาดชันถึง 55% ในขณะที่รถตัดไม้ฐานล้อยางจะจำกัดที่ความลาดชันไม่เกิน 40%
- ขนาดของต้นไม้ (Tree size) ขนาดของต้นไม้ที่รถตัดไม้ทำงานได้ถูกจำกัดด้วยหัวตัดไม้และน้ำหนักของตัวรถ หากไม้มีขนาดใหญ่มากหัวตัดไม้จะจับไม้ไม่ได้ และน้ำหนักไม้จะมากซึ่งจะส่งผลต่อการทรงตัวของรถตัดไม้
- รูปร่างของต้นไม้ (Tree form) รถตัดไม้ทำงานได้ดีกับไม้ที่มีลักษณะเปลาตรง หากต้นไม้มีการแตกกิ่งขนาดใหญ่จำนวนมากอาจมีอันตรายในการจับไม้และยากในการลิดกิ่งตัดทอน
การใช้งานรถตัดไม้ Harvester ในบางครั้งจะใช้เพียงการลิดกิ่งตัดทอนไม้บริเวณจุดรวมกองไม้ ไม่ได้เข้าไปตัดล้มไม้ จึงอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Processor ซึ่งเรียกตามลักษณะการใช้งาน
ในประเทศไทยเริ่มนำรถตัดไม้ Harvester มาใช้ในการทำไม้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการล้มไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งรถตัดไม้ที่พบจะมีขนาดเล็กกว่าในต่างประเทศ ตัวฐานรถเป็นฐานรถขุด (Excavator) ขนาดกลาง น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน ล้อตีนตะขาบ เช่น Komatsu PC 70 และหัวตัดไม้เป็นหัวขนาดเล็กมีน้ำหนักเบาเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ หัวตัดไม้ที่พบในประเทศไทยตอนนี้คือ KESLA 18RHS-II เคลื่อนไม้แบบลูกกลิ้ง (Roller feed) ข้อจำกัดที่พบในการใช้งานรถตัดไม้ Harvester ในประเทศไทยคือโปรแกรมที่มาพร้อมหัวตัดไม้ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเนื่องจากยังขาดข้อมูลสำหรับชนิดไม้ในประเทศไทยจึงทำให้ยังไม่สามารถคำนวณปริมาตรไม้ที่ล้มได้ ทำได้เพียงนับจำนวนต้นที่ล้มเท่านั้น นอกจากนี้การล้มไม้ด้วยรถตัดไม้ Harvester นี้ทำให้การล้มไม้ลิดกิ่งตัดทอนไม้ยูคาลิปตัสทำได้รวดเร็วขึ้นซึ่งส่งผลให้มีปริมาณไม้จำนวนมากรอการขนส่งออกจากแปลง ขั้นตอนการนำไม้ออกจึงควรพัฒนาให้มีผลิตภาพการทำงานที่สูงขึ้นเพื่อลดปัญหาดังกล่าว โดยรถขนไม้ Forwarder ที่สามารถคีบไม้และขนส่งไม้ออกจากแปลง เป็นเครื่องจักรกลที่หลายประเทศนิยมใช้ควบคู่กันกับรถตัดไม้ Harvester.
ตัวอย่างการทำงานของ Harvester แบบ Roller feed
ตัวอย่างการทำงานของ Harvester แบบ Stroke feed
การฝึกล้มไม้ด้วยHarvester กับเครื่อง simulator
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=555044959575348&id=101908174889031