โดย อ.กรหริศ บัวสรวง
เอกภาพของศาสตร์แห่งการพยากรณ์
คนส่วนมากมักมีความเชื่อหรือความเข้าใจในเรื่องของการพยากรณ์ว่าแต่ละศาสตร์ มีความแตกต่างกันสิ้นเชิง นั่นคือ สิ่งที่เราคิดไปเองเพราะเห็นว่าศาสตร์แต่ละแขนงมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น หัตถศาสตร์ หรือลายมือ โหราศาสตร์ไทยโหราศาตร์ยูเรเนียน โหราศาสตร์ภารตะ เลข7 ตัว ไย่ซิปซี และอื่นๆ ...
แท้ที่จริงแล้วศาสตร์ต่างๆจึงมีอยู่รวมกันเสมอ ตัวอย่างเช่น หัตถศาสตร์ เมื่อหงายฝ่ามือออกมาเราก็จะมีเนินพฤหัส เนินเสาร์ เนินอาทิตย์ เนินพุธ เนินศุกร์ เนินอังคารสูง เนินอังคารต่ำ ซึ่งเป็นชื่อของดวงดาวในทางโหราศาสตร์ทั้งนั้น อิทธิพลของเนินจะสัมพันธ์กับเส้นบนฝ่ามือที่เป็นหลักๆ คือ เส้นชีวิต เส้นสมอง เส้นหัวใจ และรูปร่างของมือ ถ้าเปรียบเทียบกับโหราศาสตร์ จะเห็นได้ว่าไม่ต่างกันมากนัก กล่าวคือ เส้นที่ปรากฏไม่ว่าจะเป็นเส้นหลักหรือเส้นรอง ก็คือวิถีการโคจรของดวงดาวที่หยุดนิ่งแล้วในดวงเดิมและดาวที่กำลังโคจรเป็นดวงปัจจุบัน เส้นที่ปรากฏใหม่ๆบนเนินต่างก็เปรียบได้กับดาวจร...
สำหรับเลข 7 ตัว คือการนำ วัน เดือน ปี เกิดมารวมกันเข้าให้เป็นตัวเลขอีกจำนวนหนึ่งแล้วใช้ตัวเลขที่มีอยู่เจ็ดตัวนั้น เป็นดาวตามหลักโหราศาสตร์ เช่น เลข 1 คือดาวอาทิตย์ เลข 6 คือ ดาวศุกร์ เป็นต้น แต่คำพยากรณ์จะถูกกำหนดด้วยมาตรฐานต่างๆเรียงกันไปแล้วอ่านโยงสัมพันธ์กัน สำหรับไพ่ยิปซียิ่งเห็นชัดเจนว่าตัวเลขที่ปรากฏบนไพ่ชุดหลัก (Major Acana) จำนวน 22 ใบ นั่นคือ ดาวในทางโหราศาสตร์นั่นเอง สามารถนำไปทำนายร่วมกับวิธีการอื่นๆ นอกเหนือไปจากการอ่านไพ่ด้วยวิธีธรรมดา ยกตัวอย่าง คนเกิดวันที่ 19 สามารถนำเอาความหมายไพ่ The Sun มาทำนายความเป็นไปของชีวิตได้ทันที และเมื่อนำ 1+9 จะเป็น 10 ก็นำไพ่ The Wheel of Fortune มาทำนาย เมื่อนำ 1+0 จะได้ 1 นำเอาไพ่ The Magician มาทำนายชะตาชีวิตได้ อย่างแม่นยำ หรือถ้าถอดรหัสชื่อตามหลักเลขศาสตร์ออกมาได้เลขอะไร ก็สามารถนำความหมายของไพ่ยิปซี (Tarot Card) มาทำนายได้ว่า ชื่อนี้จะส่งผลกับชีวิตในด้านใดบ้าง หลักดังกล่าวนี้คือ ความสัมพันธ์ของดวงดาวที่ใช้อยู่คือ ดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ ดาวเสาร์ ดาวราหู ดาวเกตุ และดาวมฤตยู ซึ่งมีปรากฏครบครันบนไพ่ยิปซีโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้วิธีการเรียงไพ่ยิปซีในแนวแบบราศีจักรโดยวางลัคนา ใช้เรือนใช้ภพแบบเดียวกันจะเห็นได้ชัดเจนว่าไพ่ยิปซีสามารถทำนายโดยระบบของดวงดาวได้อย่างแม่นยำ และมีผลออกมาเหมือนโหราศาสตร์ไทย...
ความสัมพันธ์ของศาสตร์ต่างๆแม้จะเป็นโหราศาสตร์หรือศาสตร์แห่งการพยากรณ์ของชาติต่างๆก็จะเป็นไปในแบบเดียวกัน เช่น การดูดวงแลลบนักษัตรใช้ปีต่างๆ เช่น ชวด ฉลู ขาล เถาะ ถ้านับปีชวดเป็น 1 นับฉลูเป็น 2 นับขาลเป็น 3 นับเถาะเป็น 4 แล้วแทนความหมายของดาวต่างๆ นั้นลงไปอย่างละเอียด ก็จะเห็นได้ว่าคนเกิดปีชวดจะมีลักษณะนิสัยและความเป็นไปในชีวิตเหมือนดาวอาทิตย์ หรือเช่นเกิดปีขาลซึ่งเป็นเสือเป็นดาวอังคารก็มีนิสัยเหมือนดาวอังคาร คือ มีความกล้าหาญ รักการต่อสู้ เป็นต้น ...
วิลเลียม จอห์น วอร์เนอร์ (William John Warner)
...ไคโร...
ดังนั้นการที่เราเรียนรู้ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งจนเข้าใจและแตกฉานถ่อนแท้ระดับเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว เมื่อไปเรียนรู้ศาสตร์อื่นๆ ก็สามารถจับหลักได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มพูนศักยภาพในการทำนายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ผู้เขียนได้ค้นคว้าและหาสถิติต่างๆมาเป็นเวลานานจนค้นพบว่าศาสตร์ทุกศาสตร์สามารถรวมกันได้อย่างเป็นเอกภาพ ไม่ว่าจะนำไปทำนายเหตุการณ์ของชีวิตหรือสิ่งต่างๆที่เราเกี่ยวข้องอยู่ เช่น บ้านเลขที่ บัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ ทะเบียนรถยนต์ยานพาหนะ วันเกิด เดือนเกิด และปีพ.ศที่เกิด โดยแปลงตัวเลขเหล่านั้นให้เป็นดาว ซึ่งจะเป็นทั้งดาวเทียมและดาวแท้...
ยกตัวอย่างเรื่องของชื่อ เช่นชื่อ นรินทร์ นามสกุลแก้วก่ำ ถอดรหัสตามแบบเลขศาสตร์ ได้ 5 4 5 1 4 9 และ 2 1 2 6 1 1 1 ตัวเลขที่ได้นี้คือดาวเทียมหรือดาวปลอม ซึ่งเมื่อรวมกันจะได้ 28 และ 14 จะเห็นได้ว่า 28 เป็นดาวจันทร์และดาวราหู อันจะทำให้เจ้าของชื่อนี้มีชีวิตที่ตกอับ มืดมน มีแต่ความผิดหวังมีหนี้สิน กำพร้า หรือถ้าแต่งงานก็จะหย่าร้าง ส่วนเลข 14 จะมาช่วยเสริมเลขที่ไม่ดีอย่าง 28 แต่เมื่อนำเลขทั้งสองมารวมจะได้ 42 ซึ่งมีผลทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จและมีผู้สนับสนุนช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา เลข 4 และ 2 เป็นดาวคู่มิตร ทั้งหมดนี้คือดาวเทียม แต่ถ้าเราถอดรหัสด้วยอักษร ให้เป็นดาวแท้จะได้ 7 8 1 7 7 8 คือ “น” เป็นอักษรวรรค ดาวเสาร์ “ร” เป็นอักษรวรรคดาวราหู สระเป็นอักษรของดาวอาทิตย์ “น” เป็นอักษรวรรค ดาวเสาร์ “ท” เป็นอักษรวรรคของดาวเสาร์ “ร” เป็นอักษรวรรคของดาวราหู จะเห็นว่าชื่อนรินทร์เต็มไปด้วยดาวบาปเคราะห์ทั้งหมด ดังนั้นเลข 42 ที่บวกได้และทำนายว่าดีนั้นเป็นเรื่องดีแบบผิวเผิน ชีวิตของคนชื่อนี้จะลำบากเต็มไปด้วยดวามทุกข์ ต้องตกงาน ต้องกำพร้า และมีปัญหาด้านสุขภาพ เรื่องของชื่อจริงมีบทบาทและความสำคัญต่อชะตาชีวิตเป็นอย่างมาก ดวงจะยิ่งตกมากขึ้น ถ้าการโครจรของดวงดาวมาอยู่ในตำแหน่งให้โทษตามดวงราศีจักร ด้วยเหตุนี้การตั้งชื่อเพื่อแก้ไขดวงชะตาจึงต้องอาศัยความรู้ทางโหราศาสตร์ ไม่ได้ใช้แต่เพียงเลขศาสตร์อย่างเดียวแบบที่นิยมกันในปัจจุบัน ...
ผู้เขียนมีประสบการณ์เรื่องของศาสตร์ต่างๆ และมั่นใจว่าการพยากรณ์ดวงชะตาจำเป็นต้องอาศัยศาสตร์ต่างๆมาสัมพันธ์กันอย่างมีเอกภาพ จึงจะบังเกิดผลในการแก้ไขปัญหาให้กับเจ้าของดวงชะตา การทำนายที่แม่นยำอย่างเดียวไม่มีประโยชน์มากเท่ากับการได้หาทางแก้ไขให้พ้นจากอำนาจและอิทธิพลของดวงดาว แต่จะทำได้อย่างนี้ก็ต้องอาศัยหลัก ให้ศาสตร์ของการพยากรณ์มีความสัมพันธ์อันเป็นเอกภาพนั่นเอง ...
...ขอขอบคุณบทความ จาก หนังสือ ที่ระลึกวันเกิดครบ80 ปี ของท่านปรมาจารย์ อาจารย์จรัญ พิกุล ...
...จาก อ.กรหริศ บัวสรวง ...
...อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
...ผมขอเกริ่นเรื่องราวสักเล็กน้อย กล่าวคือเมื่อประมาณร่วม ๑๐ ปี ที่แล้วผมได้รู้จักกับ อ.กรหริศ บัวสรวง ซึ่งในตอนนั้น อ. กรหริศพยากรณ์ดวงชาตา
ประจำอยุ๋ที่ First Hotel ในตอนนั้นเราทั้งสองคนคุยกันอย่างถูกอัธยาศัย เพราะคุยกันในเรื่องโหราศาสตร์ถูกใจกัน จนแกถึงกับเอ่ยปากชวนให้อยู่ด้วย
กัน...ซึ่งในตอนนั้นผมยังอยากผจญภัยมากกว่า...แต่ในใจก็รู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจของ อ.กรหริศ อยู่ในใจเป็นอย่างมาก ... ในวันนี้ดีใจเป็นอย่าง
มากที่ได้เจอบทความของ อ.กรหริศ จึงได้นำเอาบทความนี้มาลงในเว็บไซด์ของผม...ให้ทุกคนได้อ่านกัน...จึงขอขอบคุณ อ.กรหริศ มา ณ.โอกาสนี้
ด้วยนะ...ครับ...สวัสดี...