... เป็นดวงชาตาที่อยู่ในปูมโหร ของ อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
... ดวงชาตาถูกสามีปลิดชีพ ...
๑๒
... หญิงเกิด ๖ ฯ ๗ ปีกุน ...
เวลา ๕.๐๕ น. กรุงเทพฯ
... ดวงนี้ถูกสามีใช้อาวุธปืนพกทำร้ายโดยยิงใส่ตัวเจ้าชาตาแล้วใช้ปืนพกของตนเอง ทำการฆ่าตัวตายตามภรรยาไปด้วยในทีสุด ...
... ตามประวัติบิดาเจ้าชาตามีที่ดินเป็นพันไร่และมีทรัพย์สินเงินทองและกิจการฯซึ่งเป็นมรดกตกทอด จึงทำให้เจ้าชาตาสามารถสร้างฐานะร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างมั่นคง ... ซึ่งอันที่จริงแล่้วเจ้าชาตาก็เป็นผู้มีความสามารถในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง อยู่แล้ว ...
... ดูจากดวงชาตากำเนิด ...
... ประเด็นสำคัญที่เราเห็นได้ขัดเจนว่า การมรณะกรรมเกิดจากอะไร? ... โดยมองไปที่ ...
ดาว ๓ ตนุ [ เจ้าชาตา ] +มรณะ [ การตาย ] อยู่ราศีมังกร ภพกัมมะ[ งาน ] เล็งไปที่ราศีกรกฏภพพันธุ [ บ้าน ] ซึ่งดาว ๒ เจ้าเรือนทำมุมจตุโกณ อยู่ที่ราศี
ตุลย์ภพปัตนิ [ คู่ ] ดาว ๖ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีเมษภพตนุ [ ตนเอง ] มีดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะอยู่ที่ราศีพฤษภ ภพกฎุมภะ [ คำพูด,ปากเสียง ] + ภพปัตนิ
[ คู่ ] เป็นศูนย์พาหะ[ นำพา ] ดาว ๖ เจ้าเรือนไปอยู่ภพตนุ [ ตนเอง ] ...
อ้อ...นอกจาก ดาว ๗ แล้วยังมีดาว ๑ เจ้าเรือนภพปุตตะ [ ความประมาท ] และดาว ๔ เจ้าเรือนภพ ...สหัชชะ [ สังคม ] +ภพอริ [ ปัญหา, ความโกรธ,ความแค้น ] ... เดี๋ยวก่อนเราต้องย้อนไปดูดาว ๓ เจ้าเรือนตนุ [ เจ้าชาตา ] กุมอยู่กับราหู เจ้าเรือนภพลาภะ [ ตัณหา,หลงผิด,ความหึงหวง ] ...โดยเฉพาะ การที่
ราหูกุมอยู่กับดาว ๓ นี้แปลจากราหู = ป่าเถื่อน,หึง,ทำร้าย ส่วนแปลจากดาว ๓ = การกระทำ,ความรุนแรง,อาวุธ ...
... พอได้ข้อมูลมาเบ็ดเสร็จดังนี้แล้ว อ.โหร , อ.หมอฯ ก็ต้องมาเรียบเรียงคำให้สละสลวยสวยงามและเข้ากับเรื่องราวได้ดังนี้คือ ...
... จุดที่ ๑ ดูแบบกำปั้นทุบดินได้จากดาว ๓ ตนุ+มรณะ กุมราหู ลาภะ ทำมุมจตุโกณกับดาว ๖ ปัตนิ + กฎุมภะ ทำมุม ๔ กับด่าว ๒ ฟันธุ
๑.ดาว ๒ = เหตุการณ์เกิดที่บ้าน
๒.ดาว ๓ +๘ = ตนเองตายเพราะความหลงผิดหึงหวงด้วยอาวุธ
๓.ดาว ๖ = คู่ ได้ชวนทะเลาะและมีปากเสียงกัน
๔.ดาว ๒+๓ = เรื่องชู้สาว
... รวมๆแปลได้ว่า ... ตนเองได้มีปากเสียงกันที่บ้านและคู่บันดาลโทสะทำร้ายจนตนเองเสียชีวิตในที่สุด ...
... แปลจากประเด็นสำคัญอ่านได้ว่า ...
... เจ้าชาตามีปากเสียงกับสามีด้วยเรื่องเกี่ยวกับงานของตนเอง สามีเกิดความระแวงในเรื่องชู้สาวจึงเกิดโทสะจริตใช้อาวุธทำร้ายจนเสียชีวิต ...
... เราลองมาตั้งจากดาว ๓ เจ้าเรือนภพตนุที่ราศีมังกรเป็้นลัคนาที่ ๒ จะเห็นได้ว่า ดาว ๒ เจ้าเรือนภพปัตนิ [ คู่ครอง] มาอยู่ที่ราศีตุลย์ภพกัมมะ [การกระทำ]
และภพปุตตะ [ เกิดเหตุขึ้น ] ดาว ๖ เจ้าเรือนกัมมะ+ปุตตะไปอยู่ที่ราศีเมษภพพันุธุ [ บ้าน ] +ภพลาภะ [ความต้องการ ] ดาว ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมังกรภพตนุ ... ดาว ๗ ตนุที่๒ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภกุมกับดาว ๑ เจ้าเรือนภพมรณะ [ความตาย,การสูญสิ้น ] และดาว ๔ เจ้าเรือนภพอริ [ปัญหา,การทะเลาะ ] และภพ ...
ศุภะ [ความสุข] มีดาว๕ เจ้าเรือนภพสหัชชะ [ สังคม ] และภพวินาสน์ [ไม่คาดฝัน ] เล็งปักหลักอยู่ที่ราศีพฤศจิก ...ยังมี ราหูเจ้าเรือนภพกฎุมภะ [ คำพูด ]
กุมอยู่กับ ดาว ๓ อุจจ์ที่ภพตนุอีกด้วย ...
... รวมความแล้วก็แปลได้ว่า ...
... เกิดมีปากเสียงกันที่หน้าบ้านในเรื่องงานของเจ้าชาตาคุยกันไม่รู้เรื่องสามีเกิดอารมณ์บันดาลโทสะ ลงมือ ทำร้ายคู่ครองของตนอย่างไม่คาดฝัน ...
ที่ว่าหน้าบ้านเพราะว่าบ้านคือราศีเมษหน้าบ้านคือราศีพฤษภภพปุตตะ [ เกิดเหตุ] มีดาว ๗ ตนุคัวที่ ๒ มีดาว ๑ มรณะ [ตาย] และมีดาว ๔ อริ+ศุภะ ขัดแย้ง
และไม่มีความสุข ยังมีดาว ๕ สหัชชะเรื่องราว+วินาสน์ ไม่คาดฝันเล็งอยู่ ...ที่ตายด้วยกันเพราะว่า ดาว ๒ ปัตนิอยู่ราศีตุลย์แฝงเรือนเกษตรกันกับดาว ๗ ตนุ
แลดาว ๔ อริ กับดาว ๑ มรณะ ...
... ถ้ายังข้องใจให้นับดาว ๗ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ ที่ราศีพฤษภเป็นลัคนาที่ ๓ ดาว ๖ ตนุ [ เจ้าชาตา ]+อริ [ ขัดแย้ง ] ทำมุมจตุโกณกับดาว ๓ ปัตนิ [ คู่ ] + วินาสน์ [ ไม่คาดฝัน ] ดาว ๓ คู่เป็นอุจจ์ [ ใหญ่ ] กุมกับราหู ป่าเถื่อนเจ้าเรือนภพกัมมะ ...
... แปลได้ว่า ...อย่างไม่คาดฝันหลังจากทะเลาะกันคู่ได้ทำการปลิดชีพตนเอง และฆ่าตัวตายตามไปในทันที อย่างที่ไม่ได้ตั้งใจมาก่อน ...
ลองสังเกตุกันดีๆ ความตายของเจ้าชาตาคือดาว ๕ อยู่ที่ปัตนิ [ คู่ครอง ] เล็งลัคนาที่ ๓ ... ส่วนดาว ๔ ความตายของ ปัตนิอยู่ที่ราศีพฤษภเล็งมาที่ราศีพฤศจิกภพปัตนิ เช่นกัน ...
... ความตายของคู่ก็ให้ตั้งราศีพฤศจิกเป็นตนุ ภพมรณะก็คือราศีมิถุน มีดาว ๔ เป็นเจ้าเรือนอยู่ที่ราศีพฤษภ ...
... อ้อลืมไปที่ว่าบิดามีมรดกที่ดินทรัพย์สิน ให้ตั้งราศีกรกฏเป็นลัคนาดูเรื่องราวของบิดา ...
... จะเห็นได้ว่า ภพพันธุ [อสังหาริมทรัพย์ ] ดาว ๖ เจ้าเรือนพันธุไปอยู่ราศีเมษทับลัคนาที่ ๑ ทันที ...
... อ่านว่า อสังหาฯของบิดาอยู่กับเจ้าชาตา ...
... ภพกฎุมภะคือราศีสิงห์ ดาว ๑ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีพฤษภภพกฎุมภะของลัคนาที่ ๑ เช่นกัน ...
... อ่านว่า ทรัพย์สินของบิดาไปเป็นทรัพย์สินของเจ้าชาตา ...
อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม
... วันนี้ได้เนื้อๆแล้ว ต้องขอยุติการวิเคราะห์ดวงชาตาลงเพียงเท่านี้ โอกาสหน้าผมจะวิจารย์ดวงจรวันเกิดเหตุ ...
... สวัสดีครับ ...
...คัดมาจากปูมโหรของท่าน อ.พลูหลวง [ จากในหนังสือ อาถรรพณ์ พยากรณ์ ] ...
... ดวงชาตาอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ ...
ชาย เกิด ๔ ฯ ๑๒ ปีมะเส็ง
๒
๕ พฤศจิิกายน ๒๔๘๔
เวลา ๑๑.๕๕ น.
...ดวงนี้ หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็ก ภายหลังได้ไปบวชเณรติดตามอาจารย์ธุดงค์ไปจนถึงป่ากระเหรี่ยงชายแดนพม่า อาจารย์ถึงแก่กรรมกลางป่า ตนเองกลับมามี
ชื่อเสียงขลัง คนนับถือมาก ภายหลังบวชแล้วถูกเกณฑ์เป็นทหาร ปลดจากทหารก็ท่องเที่ยวพเนจรไปทั่วสาระทิศ และมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์
อยู่ไม่ติดที่...
...กฏเกณฑ์ที่ทำให้ต้องพเนจรที่เห็นได้ชัดมีสองประการคือ...
๑.เสาร์บาปเคราะห์ไปครองอยู่ภพที่ ๔ คือบ้าน เมื่อบาปเคราะห์เบียนบ้าน จึงทำให้อยู่ไม่ติดที่ ร้อนที่อยู่ ...
๒.เมื่อเกิดอาทิตย์อยู่กลางศรีษะพอดี คู่กับดาวพุธอันเป็นดาวพเนจร ทั้งยังเป็นเจ้าเรือนภพที่เก้า หมายถึงการเดินทางไกลโดยตรง จึงส่งผลให้ต้องจรไปยังสาระทิศ
ต่างๆ ผู้ใดอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวอาทิตย์ มักจะอยู่ไม่ติดที่เสมอ...
...ส่วนดาวที่ทำให้ขลัง เก่งทางเวทย์มนต์คาถา การพยากรณ์ ให้สังเกตว่า ดาวเกี่ยวกับอำนาจจิตและของขลังสัมพันธ์ถึงลัคนาหมดทุกจุด คือ ๕ ๐ กับเนปจูนตรีโกณ
ถึงลัคนา พลูโตและ ๙ เล็งลัคนา ...
...ต่อไปนี้ผมจะอธิบายเพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น...
...ที่ต้องหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็กติดตามอาจารย์ไปจนถึงชายแดนพม่า ...
...ให้ทุกคนดูไปที่ ดาว ๗ ... ตนุลัคน์ที่สถิตอยู่ราศีเมษ ภพพันธุ [บ้านช่อง,ถิ่นกำเนิด ] ได้ตำแหน่งนิจจ์ [ ลำบาก ] ซึ่งดาว ๗ เมื่ออยู่ในภพพันธุ ก็มีความหมายเพิ่มขึ้น
มาว่าพลัดพรากจากบ้านช่อง ดาว ๗ มีความหมายถึงประเทศพม่า...ต่อไปเราก็ตาม ดาว ๓ เจ้าเรือนภพ พันธุ [บ้าน ] และภพลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่ราศีมีนภพ
สหัชชะ [ การติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ] ซึ่งเป็นเรือนของดาว ๕ ซึ่งมีความหมายถึงผู้ทรงศีล , พระ ฯลฯ...ดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภ ภพปุตตะ [ อ่อนวัย ]
และภพ กัมมะ [ กิจกรรม,การงาน ,ภาระกิจ ] ซึ่งดาว ๖ ก็ไปอยู่ราศีธนูภพ วินาสน์ [การโยกย้าย,การเดินทาง ] สลับเรือนเป็น เกษตรเทียม กับดาว ๕ ...แถมยังมีดาว
มฤตยู [ผจญภัย ] กุมดาว ๕ [ พระ ]อยู่อีกด้วย...
...แยกดาวทีละดวงออกมาได้ว่า...
...ดาว ๗ ตนุลัคน์ [ ตัวเอง ] อยู่ภพพันธุ [บ้านช่อง ] ขยายความย่อๆว่า...เจ้าชาตาได้จากบ้านช่องของบรรพบุรุษ [ พันธุ ]
...ดาว ๓ เจ้าเรือนพันธุ [ บ้าน ] และลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่เรือนดาว ๕ [ พระ ] ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ ติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ]
...ขยายความว่า...ต้องการที่จะเดินทางติดตามไปกับพระ,ผู้ทรงศีล...
...ดาว ๖ เจ้าเรือนภพ กัมมะ [ กิจกรรม,ภาระกิจ ] และภพ ปุตตะ [ เยาว์วัย อ่อนวัย ]
...ขยายต่อได้อีกว่า...เป็นกิจกรรมที่ทำขึ้นมาตั้งแต่ยังเยาว์วัยอยู่...
...ดาว ๐ กุม ดาว ๕ แปลว่า...การผจญภัย [ ธุดงค์ ] ไปกับ พระ [ ผู้ทรงศีล ]
...แยกคู่ดาว...
...๗ + ๓ = เจ้าชาตาต้องจากบ้าน
...๓ + ๕ = ที่จากบ้านเพราะติดตามพระไป
...๕ + ๐ = พระพาไปธุดงค์
...แปลออกมาอย่างรวบรัดได้ว่า...
...เมื่อตอนอายุยังน้อยอยู่ มีปัญหากับครอบครัว จึงได้จากถิ่นฐานบ้านช่องของตน ติดตามอาจารย์ [ พระ ] ออกไปผจญภัย [ ธุดงค์ ] อยู่ที่ชายแดนประเทศพม่า [ดาว ๗ ]
...ดวงนี้ยังได้ตรีโกณ - ตรีกูล อยู่ ๒ มุมคือ...
๑.จากดาว ๗ ที่ราศีเมษตรีโกณกับราหูที่ราศีสิงห์และดาว๖ ที่ราศีธนู ...
๒.จากลัคนาราศีมังกรถึงแม้จะไม่มีดาวกุมอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะได้ตรีโกณจาก ดาว ๕ ๒ ๐ ที่กุมกันอยู่ที่ราศีพฤษภ และดาวเนปจูนที่ราศีกันย์ ...
...ที่ได้เป็นทหารก็เพราะ ...
...ดาว ๖ กัมมะ [งาน ] ร่วมแฝงเรือนเกษตรกับดาว ๓ ทหาร แต่เป็นไม่ตลอดเพราะดาว ๓ ทหารมีดาว ๗ นิจจ์ พลัดพราก เป็นศูนย์พาหะ [ นำพา]
...นอกจากนี้ดาว ๓ ทหารอยู่เรือนดาวเนปจูน ซึ่งดาวเนปจูนก็เป็นประ [อ่อนกำลัง ] จึงทำให้เป็นทหารไม่ได้นาน...
...ทำไมจึงมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์ มีชื่อเสียง คนนับถือมาก...
...ข้อนี้ไม่ยาก ให้ดูไปที่ราศีพฤษภ มีดาว ๒+๕+๐ กุมกันอยู่...
...ดาว ๒ = ดวงตา เป็นเจ้าเรือนภพ ปัตนิ [ คนอื่น ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ]
...ดาว ๕ = หมอ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [การศึกษา ] +ภพวินาสน์ [วิชาเร้นลับ ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ]
...ดาว ๐ = เร้นลับ มองไม่เห็น เป็นเจ้าเรือนภพ กฎุมภะ [ได้มา ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ]
...ดาว ๒ +๕ +๐ มีความหมายเฉพาะว่า...หมอดู...ผู้มีอาคมขลัง...
...เพื่อความชัดเจนในเรื่องวิชา อาคมขลัง ฯลฯ...ลองมาดูจากลัคนาที่ ๑ +๒ +๓ +๔ กันดู ...
...จากลัคนาที่ ๑ ราศีมังกร ดาว ๖ กัมมะไปอยู่ภพวินาสน์...
...แปลว่า มีอาชีพที่ลึกลับ ,ซ่อนเร้น, ขลัง ....
...ทีนี้เราลองมาตั้งลัคนาที่ ๒ จากราศีเมษ ภพกัมมะคือดาว ๗ ไปตกที่ตนุ ที่ราศีเมษดาว ๓ ตนุไปอยู่ภพวินาสน์ที่ราศีมีน
...แปลได้ว่า งานของตนเองเป็นงานที่ขลัง แน่นอน สุดยอด ...
...คราวนี้เรามาดูลัคนาที่ ๓ ที่ราศีมีนที่ดาว ๓ สถิตอยู่ กัมมะก็คือราศีธนู มีดาว ๖ เจ้าเรือนภพมรณะ [ลึกลับ , เก่าแก่ , นานมาแล้ว ]
...ก็แปลได้อีกว่า งานที่ทำเป็นงานที่เก่าแก่และมีมานานมากแล้ว ...
...ตอนนี้เรามาดูต่กันที่ลัคนาที่ ๔ ที่ราศีพฤษภ กัมมะคือราศีกุมภ์ ดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะไปอยู่ที่ราศีเมษภพ วินาสน์อีก...
...แปลว่า มีกิจกรรมที่เร้นลับ ขลังฯลฯ ...
...ถ้าผมจะขับลัคนาจาก ดาวพลูโตและเน็ปจูนเสริมขึ้นมาอีกก็จะมีผลลัพท์ออกมาเหมือนกัน...
...สุดท้ายนี้เรื่องงานที่มีผู้คนนับถือมากนั้นเพราะ ...
...ดาว ๑ มรณะ [ลึกลับ ] กุมดาว ๔ ศุภะ [ ความสำเร็จ ] ได้คู่วิชาการ [วิชาขลัง พยากรณ์แม่น ] สถิตย์ที่ราศีตุลย์ภพกัมมะ [ งาน ] แถมดาว ๖ ยังโยคหน้าช่วยอยู่ที่...
ราศีธนูอีกด้วย....และดาว ๑ + ๔ ยังเล็ง ดาว ๗ ที่ราศีเมษซ้ำซ้อนชัดเจนเข้าไปอีก....ราศีตุลย์ยังเป็นภพกัมมะ [งาน ]ของลัคนาและเป็นภพปัตนิ [ ลูกศิษย์ ] ของ...
ลัคนาโลก แปลรวมกันว่า งานดีเยี่ยม มีลูกศิษย์ลูกหามาหาสู่มากมาย...เสมอ [ดาว ๖ งานเป็นเกษตรอยู่ที่ราศีพฤษภ ในนวางศ์จักร ] ...
...พบกันใหม่กับดวงชาตาพิสดารอันดับต่อไปกันนะครับ ...สวัสดี...