ความเข้าใจในเรื่องราศี
...ในปัจจุบันคนโดยส่วนมากอาจคิดว่าเกิดเดือนอะไรก็คือราศีนั้นๆ...เช่นเกิดเดือนมกราก็คิดว่าเป็นคนราศีมังกร... เกิดเดือนตุลาก็ว่าเป็นคนราศีตุลย์... เกิดเดือนสิงหาเป็นคนราศีสิงห์ฯลฯ... ซึ่งจัดนับว่าเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกนัก... การไขว้เขวนี้อาจเกิดจากได้ไปดูนิตยสารทำนายดวงว่าคนที่เกิดอยู่ในระหว่าง ๑๕ ก.ค. ถึง ๑๖ส.ค.เป็นคนราศีกรกฏ...เกิดในระหว่าง ๑๕ส.ค.ถึง ๑๖ ก.ย.ฯลฯ ที่จริงที่เขากล่าวไว้เป็นแต่เพียงคร่าวๆ โดยประมาณเท่านั้น เพราะการจะรู้ว่า
เป็นคนราศีอะไรนั้น เราจะต้องดูจากเวลาเกิดก็คือ "ตกฟาก "นั่นเองแหละครับ...
"เวลาตกฟาก"
ในนิตยสารเหล่านั้น...ที่เขากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิดทีเดียวเป็นการดูดวงชาตาแบบคร่าวๆเท่านั้น...ว่าเกิดระหว่างนั้นถึงระหว่างนี้ เป็นคนราศีโน้นราศีนี้ซึ่งความเป็นจริงอยู่ที่เวลาที่เราเกิดต่างหากครับนั่นคือ...
"เวลาตกฟาก"...
ความหมายหลักก็คือ ภายใน ๑ วัน ย่อมเป็นคนที่อยู่ใน ๑๒ ราศี แต่เพราะเวลาที่ต่างกันทำให้เป็นคนละราศีซึ่งเมื่อรู้ว่าเป็นราศีอะไรแล้ว ทางโหราศาสตร์เขาเรียกราศีที่เราเกิดว่า "ลัคนา" สมมุติว่าคุณตกราศีพิจิก โหราศาสตร์จะเรียกว่า ...
... " ลัคนาราศีพิจิก "...
การเรียนโหราศาสตร์เราต้องเข้าใจใน ๓ เรื่องก็คือ ๑.จักรราศี ๒.เรือนชาตา ๓.ดาวพระเคราะห์ ก่อนซึ่งรายละเอียดของเรื่องราวเหล่านี้ จะอธิบายในบทต่อๆไปการเรียนโหราศาสตร์ ต้องเกิดจากความเข้าใจก่อนเป็นหลักสำคัญ อย่าวู่วามใจร้อนหรือรีบเร่งในการศึกษาเพราะถ้าไม่ได้ดังใจนึก อาจเกิดความเบื่อหน่ายและเลิกเรียนไปในที่สุด...
สุดท้ายนี้หากจะศึกษาเรียนรู้ วิชาโหราศาสตร์จริง ต้องมีความ มานะ บากบั่นตั้งใจและอดทน ให้บรรลุถึง เป้าหมาย เพราะวิชาโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ซึ่งเกี่ยวกับมนุษย์ มีความลึกล้ำและละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก...
การนับวันทางโหราศาสตร์ไทย
สมมุติว่าวันนี้วันอังคาร มีบางท่านเข้าใจว่าเกิดในตอนหลังเที่ยงคืน ของวันจันทร์ ว่าตนเองจะต้องเป็นคนวันอังคาร ซึ่งตามความเป็นจริงก็ถูกอยู่ แต่ก็ผิดในทางของโหราศาสตร์ไทยเรา...
ทางจันทร์คติเขาถือว่าถ้ายังไม่ถึง ๖โมงเช้า ของวันอังคารต้องเป็นคนวันจันทร์ครับ ถ้าเลย ๖โมงเช้าไปจึงจะถือว่าเป็นคนวันอังคาร ส่วนทางสุริยะคติ เขาถือว่าเกิดหลังเที่ยงคืนมาเป็นคนวันอังคารทันที...
ส่วนโหราศาสตร์ไทยเราถือระบบทางจันทร์คติเป็นหลักเพราะ ฉะนั้นถ้าจะตรวจดวงชาตาทางไทยเรา ก็ต้องนับ
ทางระบบจันทร์คติเป็นแกนหลักครับ...
... ตารางเวลาตกฟากบอกลัคนาเกิดแบบคร่าวๆ ...
... ตัวอย่างที่ ๑ ...
... สมมุติว่าคุณเกิดวันที่ ๒๔ ก.ค. เวลา ๑๐ .๑๐ น. ก็ให้ดูที่ช่อง ๑๕ ก.ค. - ๑๖ ส.ค.
... มองไปด้านบนช่องเวลา ๙ - ๑๑ น. อยู่่ในเวลาเกิดของเรา ...
... มองลงมาที่ราศีกันย์ มองไปด้านซ้ายจะเจอ ๑๕ ก.ค. - ๑๖ ส.ค.
... ดังนั้นคุณจึงเป็นคนราศีกันย์ [ โดยประมาณ ] ทันที ...
... ตัวอย่างที่ ๒ ...
... เกิดวันที่ ๒๒ ม.ค.เวลา๑๙.๒๕น. ก็ให้ดูช่อง ๑๗ ม.ค.- ๑๒ ก.พ.
... มองไปที่ด้านบนช่องเวลา ๑๙ - ๒๑ น.จะอยู่ในเวลาเกิดของเรา ...
... มองลงมาที่ราศีสิงห์ เหลียวมองไปทางซ้ายจะเจอ ๑๗ ม.ค. - ๑๒ ก.พ.
...คุณจึงเป็นคนราศีสิงห์ในทันทีทันใด ...
... โอเค พอเข้าใจกันนะครับ ...
...หาซื้อกับลุงมี...ได้ที่ตรงข้ามกับวัดบวรฯลฯ ...
"โหรทายหนู"
ในสมัยโบราณมาแล้วมีผู้เล่าสู่ตกทอดกันมาว่ามีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งได้คิดจะลองภูิมิปัญญากับท่านโหราจารย์ในวัง...จึงให้ทหารจับหนูมา ๑ ตัวแล้วใส่ไว้ในกะลา
เอาครอบไว้ แล้วเรียกท่านโหราจารย์มาเข้าเฝ้า... และตรัสถามท่านโหราจารย์ว่า " ในนี้เราให้เขาจับสัตว์มาไว้ ในกะลานี้อยากรู้ว่าเป็นสัตว์อะไรและมีกี่ตัว? "
ท่านอาจารย์โหรจับยามแล้วตอบว่า " มีหนูอยู่ในนี้ ๔ ตัว พ่ะย่ะค่ะ " ทางพระราชาตรัสว่า ...
... " ผิดแล้วให้ทายใหม่ "
ฝ่าย ครูโหรได้ตอบว่า" ตามยามของกระหม่อมบอกว่ามี ๔ ตัว พ่ะย่ะค่ะ "
พระราชาจึงให้ทหารเปิดกะลาขึ้นมาปรากฎว่ามีหนูตกใจวิ่งหนีออกมา1ตัวจริงๆแต่มีลูกหนูพึ่งคลอดอยู่อีก ๓ ตัว ตามคำทำนาย !
พระราชาจึงตรัสออกมาว่า" วิเศษจริง...ดวงยามของท่านโหราจารย์นี่แม่นยำยิ่งนัก...พ่อโหรทายหนู "
... หลังจากนั้นมา...จึงเป็นที่มาของตำนาน...โหรทายหนู...ที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน...
... ผมเล่ามาเท่าที่จำได้ ลืมบ้าง คงไม่เป็นไรนะครับ เนื้อหาก็คงเหมือนเดิมในเรื่องหลักๆ ...สวัสดีครับ ...