บทเรียนดวงยามอัฏฐกาล
... สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานในโหราศาสตร์ ...
... ดวงที่เห็นด้านบนนี้เป็นดวงยามกาลชาตาตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๐ ถึง ๒๒.๓๐ น.ในวันอาทิตย์ ...
... ผมต้องขออธิบายเรื่องยามเวลาก่อนกล่าวคิอ ...
... ใน ๑ วันมี ๑๖ ยาม
... แบ่งเป็นยามกลางวันทั้งหมด ๘ ยาม ... โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่ง ...
... และยามกลางคืนทั้งหมด ๘ ยาม ... โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่งเช่นกัน ...
...จัดเป็นสูตรยามกลางวันได้ดังนี้คือ ...
วันอาทิตย์ ๑ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑
วันจันทร์ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑ ๖ ๔ ๒
วันอังคาร ๓ ๑ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓
วันพุธ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑ ๖ ๔
วันพฤหัส ๕ ๓ ๑ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕
วันศุกร์ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑ ๖
วันเสาร์ ๗ ๕ ๓ ๑ ๖ ๔ ๒ ๗
... ผมจะขออธิบายการแบ่งยามในวันอาทิตย์ ...
ยามที่ ๑ เป็นยามดาวอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.ถึง ๑๙.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๒ เป็นยามดาวศุกร์ ตั้งแต่เวลา ๑๙.๓๑ น.ถึง ๒๑.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๓ เป็นยามดาวพุธ ตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๑ น.ถึง ๒๒.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๔ เป็นยามดาวจันทร์ ตั้งแต่เวลา ๒๒.๓๑ น.ถึง ๒๔.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๕ เป็นยามดาวเสาร์ ตั้งแต่เวลา ๒๔.๐๑ น.ถึง ๐๑.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๖ เป็นยามดาวพฤหัส ตั้งแต่เวลา ๐๑.๓๑ น.ถึง ๐๓.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๗ เป็นยามดาวอังคาร ตั้งแต่เวลา ๐๓.๐๑ น.ถึง ๐๔.๓๐ น. เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๘ เป็นยามดาวอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๔.๓๑ น.ถึง ๐๖.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
... สังเกตุดูดีๆจะเห็นได้ว่ายามที่ ๑ กับยามที่ ๘ ของทุกวันจะเหมือนกัน ... ในทุกวัน ...
... อีกประการหนึ่งก็คือ...ถ้าท่องหัวใจยามวันอาทิตย์ได้ก็สามารถรู้ยามในวันต่อไปได้โดยอัตโนมัติ ...
... ส่วนในวันอื่นๆก็ใช้ดาวประจำวันเป็นตัวตั้งต่อไป ...
... หัวใจยามกลางวันคือ...๑ ๖ ๔ ๒ ๗ ๕ ๓ ๑
... จัดเป็นสูตรยามกลางคืนได้ดังนี้คือ ...
วันอาทิคย์ ๑ ๕ ๒ ๖ ๓ ๗ ๔ ๑
วันจันทร์ ๒ ๖ ๓ ๗ ๔ ๑ ๕ ๒
วันอังคาร ๓ ๗ ๔ ๑ ๕ ๒ ๖ ๓
วันพุธ ๔ ๑ ๕ ๒ ๖ ๓ ๗ ๔
วันพฤหัส ๕ ๒ ๖ ๓ ๗ ๔ ๑ ๕
วันศุกร์ ๖ ๓ ๗ ๔ ๑ ๕ ๒ ๖
วันเสาร์ ๗ ๔ ๑ ๕ ๒ ๖ ๓ ๗
... แบ่งยามกลางคืนเป็นเหมือนยามกลางวันทุกประการ ...
... หัวใจยามกลางคืนคือ ... ๑ ๕ ๒ ๖ ๓ ๗ ๔ ๑
... เมื่อคืนวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ผ่านมาผมนั่งเล่นอยู่บนบ้าน...ทันใดนั้นผมก็ได้บินเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ขึ้นมาอย่างฉับพลัน ... ก้มมองดูนาฬิกาเป็นเวลา ๒๑.๓๕ น.ตกยามที่ ๓ เป็นยามดาวจันทร์ ... ซึ่งจากลัคนาโลกตกเป็น ...
เรือนพันธุ ... ความหมายถึง บ้าน รถยนต์ ที่ดิน ... ดังนั้นเสียงระเบิดที่ได้ยินนั้น ... ย่อมเกิดมาจากรถยนต์ยางแตกทันที ...
ผมรีบหยิบฉวยดินสอแล้วรีบเขียนดวงยามในวันนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ... [ เป็นดวงยามตามด้านบนสุดที่ลงไว้ ] ...
... ผมขออธิบายอีกซักเล็กน้อยคือ ... เวลาในตอนนี้เป็นยามที่ ๓ ของวันอาทิตย์กลางคืน...คือหนึ่งช.ม.ครึ่ง ... ใน ๑ ราศี ...
จุดเวลามีอยู่ ราศีละ ๗ นาที ๓๐วินาที จุดเวลาอยู่ไม่เกิน ๒๑.๓๗.๓๐ น.ตกราศีมีน ... ในตอนนั้นลัคนาอยู่ในราศีกรกฏ ...
เท่ากับอ่าน ...ได้ว่า ... ๑.ดาวพฤหัส - ศุภะ+อริ ตกพันธุ+พันธุ แปลได้ว่า ... เกิดปัญหากับสภาพความมั่นคงของรถยนต์ ...
๒. ดาวเสาร์-ปัตนิอุจจ์ ตกพันธุ แปลว่า ... อย่างฉับพลันและรุนแรงกับความมั่นคงของรถยนต์
๓. ราหูเจ้าเรือนมรณะตกปัตนิ แปลว่า ... เกิดความเสียหายอย่างจังๆหน้า
๔. ดาวอังคารเป็นอุจจ์เจ้าเรือนกัมมะ + ปุตตะตกปัตนิ แปลว่าเจ้าตัวที่กระทำเรื่องคือของมีคม [ตะปู] ยาว ๗ นิ้ว ...
[ อังคาร-ตะปู+ยาว-อยู่เรือนเสาร์-ยาวๆ ] อย่างไม่คาดคิด - ปัตนิ ...
๕. ดาวอาทิตย์กฤุมภะตกวินาศ+ตกตนุ+ปุตตะ แปลว่าความเสียหายที่้เกิดขึ้นกับคนขับรถ
...ได้ใจความรวมๆออกมาว่า ... ระหว่างการขับขี่ยวดยานอยู่นั้นรถได้ไปทับตะปูใหญ่ยาว ๗ นิ้ว เกิดระเบิดจากยางแตก ...
ทำให้รถทรงตัวไม่อยู่ ... ต้องเบรคและค่อยๆจอดรถลงในที่สุด ...โดยที่คนขับปลอดภัย ...
... ๒ ตรีโกณ๔ ได้คู่มิตรทำให้คนขับปลอดภัย ...
... ๓ กุม ๘ คู่ธาตุทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมาอย่างไม่ทันได้คาดคิดมาก่อน ...
... ๓ ส่งกำลัง ๔ ไปที่เรือนกัมมะและส่งกำลัง ๘ ไปที่เรือนกฤุมภะ ... ซึ่งเจ้าเรือนกฤุมภะก็ไปตกเรือนวินาศและไปตกเริอน
ตนุและไปตกเรือนปุตตะในที่สุด ...
... ซึ่งเมื่อผมลงไปถามไถ่ผู้คนที่ประสบเหตุการณ์นี้ก็ตอบตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วทั้งหมดทุกประการ ...
... [ที่เกิดเหตุมีการก่อสร้างอยู่] ...
...อนึ่งผู้ใดอยากจะศึกษาวิชานี้โดยตรงให้ไปซื้อหนังสือชื่อว่า "ตำราโหรทายหนู" เรียบเรียงโดยปรมาจารย์ ประทีป อัครา...
...น่าจะมีขายอยู่ที่หน้าวัดบวรนิเวศ...เรื่องราวที่ผมเขียนขึ้นมาเกิดมาจากความมหัศจรรย์ของตำราโหรทายหนูทั้งสิ้น...
... ผมจะคัดจากบางตอนจากตำรา " โหรทายหนู " มาให้อ่านกันดูนะครับ ...
... หลัก บริวาร อายุ เดช ศรี ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องใช้ในตำรานี้ เพราะหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่มีอยู่ให้ความหมายได้ละเอียดสมบูรณ์พอแล้ว ...
ถ้านำเอาหลัก " ทักษา " มาใช้เพิ่มเข้าไปอีกก็จะทำให้ " มากเกินไป " จนกลายเป็นสับสน และในที่สุดก็เลอะ ...
... เรื่อง " เกินไป " ไม่ว่าจะมากเกินไปหรือน้อยเกินไปนับได้ว่า ไม่ดีทั้งนั้น แม้แต่การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาก็ยัง
ทรงสอนให้ถือหลักมัชฌิมาปฏิปทา ...
... อุทาหรณ์เรื่องนี้มีนิทานชวนคิดเล่าต่อกันมาอยู่เรื่องหนึ่งว่า ...
... ในสมัยหนึ่ง พระเจ้ากรุงจีนทรงจัดให้มีการเขียนภาพประกวดกันขึ้น ในการชิงชัยรอบสุดท้ายมีผู้ได้รับการคัดเลือก ให้เข้าแข่งขันเพียง
๒ คนเท่านั้น และภาพที่กำหนดให้เขียนเพื่อชิงความเป็นเลิศนั้นได้แก่ภาพ งูเห่า โดยให้เขียนบนผนังกำแพง ...
... เมื่อได้เวลาแช่งขัน นักเขียนคนที่หนึ่งก็เริ่มการเขียนขึ้นด้วยความรวดเร็ว ชำนาญ เมื่อเขาเขียนรูปงูเสร็จหมดทั้งตัว มองดูราวกับงูที่มี
ชีวิตจริงๆ นั้น นักเขียนคนที่สองเพิ่งจะเขียนได้แค่หัวงูเห่าเท่านั้นเอง ...
... เนื่องจากเวลาที่กำหนดไว้ให้ยังเหลืออีกมาก ประกอบกับความรำคาญที่จะต้องนั่งรออยู่เฉยๆ นักเขียนคนที่หนึ่งจึงหยิบเอาพู่กันมาแต่งนั่น
นิด เติมนี่หน่อย แต่งเพลินๆ เข้าก็เลยเติมขาเข้าไปเสียด้วยเพื่อจะให้ดูวิจิตรพิสดารมากขึ้น ...
... พอหมดเวลาแข่งขันคนที่สองก็เขียนเสร็จพอดี ...
... ในสายตาของผู้ที่มาชมการแข่งขันเขียนภาพประกวดนั้น เห็นอบ่างเดียวกันว่า ฝีมือของคนที่สองด้อยกว่าคนที่หนึ่ง แต่พระเจ้ากรุงจีนซึ่ง ...
ประทับเป็นประธานการแข่งขัน ได้ทรงตัดสินให้คนท ี่สองเป็นผู้ชนะด้วยเหตุผลว่า " เจ้าคนที่หนึ่งมัน "เก่งเกินไป " เพราะในโลกนี้ไม่มีงูเห่าที่
ไหนหรอกที่มีขา " ...
... " ตำราโหรทายหนู " นี้เป็นงูเห่าธรรมดา ๆ อาศัยหลักเกณฑ์ เท่าที่มีอยู่เลื้อยเอาก็พอแล้ว อย่าไปต่อแข้งต่อขาให้พิสดารมากเกินไปเลย ...
โทรเช็คราคาและหนังสือว่ามีพร้อมส่งหรือไม่
ที่ เขษมบรรณกิจ
โทร: 0-2221-1339,0-2224-7786-7
หากจะสั่งซื้อทางไปรษณีย์
โดยการโอนเงิน ผ่าน ธนาคาร กรุงไทย สาขา ถนนมหาไชย
ออมทรัพย์
ในนามเขษมบรรณกิจ หรือ นายเสริม เตชะเกษม
เลขที่ 158-002-023-2
แล้ว Fax สลิป พร้อม ที่อยู่ของท่าน และ
รายละเอียดหนังสือที่ท่านต้องการซื้อ
มายัง 02-22-44-363
(อย่ารีบ เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือที่ต้องการสั่งซื้อ
และ เบอร์โทรศัพท์ของท่านเอง)
ทางเราจะรีบจัดส่งให้(หากสั่งซื้อหนังสือค่าส่งเล่มละ 40 บาท)
...ผมได้คัดลอก ยามอัฏฐกาล ทั้งภาคกลางวัน และภาคกลางคืน และหัวใจยาม ทุกคนลองศึกษากันดูได้ครับ ... มีดังต่อไปนี้ ...
ยามอัฐกาล ได้แบ่งระยะเป็น ๒ ภาค คือ ภาคกลางวัน กับ ภาคกลางคืน แต่ละภาค มี ๘ ยาม แต่ละยามมีระยะเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่ง
ยามกลางวัน
สุริชะ ๑ ๐๖.๐๑ – ๐๗.๓๐ น.
ศุกระ ๖ ๐๗.๓๑ – ๑๙.๐๐ น.
พุทธะ ๔ ๐๕.๐๑ – ๑๐.๓๐ น.
จันทรา ๒ ๑๐.๓๑ – ๑๒.๐๐ น.
เสารี ๗ ๑๒.๐๑ – ๑๓.๓๐ น.
ครู ๕ ๑๓.๓๑ – ๑๕.๐๐ น.
ภุมมะ ๓ ๑๕.๐๑ – ๑๖.๓๐ น.
สุริยะ ๑ ๑๖.๓๑ – ๑๘.๐๐ น.
ยามกลางคืน
ระวิ ๑ ๑๘.๐๑ – ๑๙.๓๐ น.
ชีโว ๕ ๑๙.๓๑ – ๒๑.๐๐ น.
ศะศิ ๒ ๒๑.๐๑ – ๒๒.๓๐ น.
ศุโกร ๖ ๒๒.๓๑ – ๒๔.๐๐ น.
ภุมโม ๓ ๒๔.๐๑ – ๐๑.๓๐ น.
โสโร ๗ ๐๑.๓๑ – ๐๓.๐๐ น.
พุทโธ ๔ ๐๓.๐๑ – ๐๔.๓๐ น.
ระวิ ๑ ๐๔.๓๑ – ๐๖.๐๐ น.
หมายเหตุ
๑. ชื่อของยาม จะเริ่มต้นด้วย ดาวประจำวันและจบลงด้วยดาวเดิม
๒. ยามกลางวัน เป็นระบบ + ๕ ถ้าเกิน ๗ เอา ๗ ลบ
ยามกลางคืน เป็นระบบ + ๔ ถ้าเกิน ๗ เอา ๗ ลบ ในแต่ละยาม แบ่งเป็น ๓ ตัว ต่อนาทีแรก = ยามต้น ต่อนาทีกลาง = ยามกลาง ต่อนาทีหลัง = ยามปลาย
๕ ดี ยามต้น (ปฐม)
๑ , ๒ ดี ยามกลาง (มัชฌิม) หรือ มัธยม
๓ , ๖ ดี ยามปลาย (อวสานต์ ) หรือ ปัจฉิม
๔ , ๗ ดี ทั้งยามกลาง และยามปลาย
การใช้ยามอัฐกาล ทำนาย เรื่องข่าว การเจ็บไข้ ของหาย การเดินทาง
ยาม ๑ , ๔ , ๗
ถามเรื่องที่ได้ยิน
เรื่องจริง เชื่อถือได้
ถามเจ็บไข้
๑ จะตาย
๔ จะตาย (รักษายาสมุนไพร มีโอกาสรอด)
๗ จะตาย หรือต้องรักษานานมาก
ถามของหาย
๑ จะได้คืน ของอยู่ที่สูง ใกล้กับสีแดง ๆ มีแสงสว่างแวววาว
๔ จะได้คือ อยู่แถวตู้เสื้อผ้า กองกระดาษ เครื่องมือสื่อสาร ในครัว หรือต้องถามหาจากคนในบ้าน อาจมีผู้เก็บไว้ให้
๗ จะได้คืน อยู่ที่มืด ๆ สีดำ ๆ ของสกปรก ท่อ ระบายน้ำ เตาไฟ ถ่าน ถังขยะ
การเดินทาง
ยามต้น
๑ เดินทางไกล จะมีเคราะห์ร้าย อันตราย
๔ เดินทางไกล จะมีเคราะห์ร้าย ติดขัดไปหมดทุกทาง
๗ เดินทางไกล จะมีเคราะห์ร้าย จะพบศัตรู จะเดือดร้อน
ยามกลาง
๑ เดินทางจะได้ลาภ
๔ เดินทางได้ลาภเงินทองจำนวนมาก พบปะเจรจาความใด ๆ ก็บรรลุผลด้วยดี
๗ เดินทางจะได้ลาภจำนวนมาก
ยามปลาย
๑ เดินทางไม่ดี จะมีเคราะห์ อันตราย
๔ เดินทางได้ลาภมากมาย เจรจาความกับผู้ใหญ่ก็สมประสงค์
๗ เดินทางได้ลาภ เงินทอง ของกำนัล
ตั้งดวงวันนี้ มายาม ๒ , ๕ พูดจริง ๕๐%
ยาม ๒ , ๕
ถามเรื่องที่ได้ยิน
๒ จริงครึ่ง เท็จครึ่ง พูดด้วยอารมณ์อ่อนไหว มีจริต มารยา พูดกลับไปกลับมา
๕ จริงครึ่ง เท็จครึ่ง อย่าพึ่งเชื่อ ...
ถามเจ็บไข้
๒ , ๕ เป็น ๆ หาย ๆ รักษาไม่หายขาด เป็นตาย เท่ากัน ...
ถามของหาย
๒ อยู่ในน้ำ ที่ชื่นแฉะ ได้คืนช้าหรือไม่ได้คืน
๕ จะได้คืน หรือไม่ได้เท่ากัน ๕๐-๕๐ อาจอยู่ใกล้ตู้ยา เครื่องมือแพทย์ ตำรา หนังสือใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ...
การเดินทาง
ยามต้น
๒ เดินทางไกล ให้ระวังจะประสบอุบัติเหตุ
๕ เดินทางไกลได้ลาภมากมาย มิตรนำลาภมาให้ พบปะผู้ใหญ่ให้คุณดีมาก ...
ยามกลาง
๒ เดินทางไกลได้ลาภ แต่ห้ามเดินทางเรือ จะเคราะห์ร้าย
๕ เดินทางไกลจะเสียผลประโยชน์ ติดขัด เจรจาความใด ๆไม่สำเร็จ ...
ยามปลาย
๒ ห้ามเดินทางไกล จะมีเคราะห์ภัย เสียทรัพย์
๕ เดินทางไกล จะเสียผลประโยชน์จำนวนมาก เจอศัตรู หมู่มาร
ตั้งดวงวันนี้ มายาม ๓ , ๖ พูดไม่หมด ...
ยาม ๓ , ๖
ถามเรื่องที่ได้ยิน
๓ , ๖ เรื่องไม่จริง เชื่อถือไม่ได้ ...
ถามเจ็บไข้
๓ จะหาย เป็นเร็ว หายเร็ว ไม่ตายง่าย
๖ จะหาย ได้เร็ว หรือช้า ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนไข้ ..
ถามของหาย
๓ ไม่ได้คืน อาจอยู่ใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้า ศาสตร์วุธ ของมีคม เครื่องมือต่าง ๆ
๖ ไม่ได้คืน อาจถูกเปลี่ยนเป็นเงิน หรือให้ต่อไปแล้ว เพราะสวยงาม (ลองหาดูในกระเป๋าสตางค์ โต๊ะเครื่องแป้ง ในห้องนอน เงินทอง ตามเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว ดูเผื่อฟลุ๊ค) ...
การเดินทาง
ยามต้น
๓ เดินทางไกลมีเคราะห์ร้าย ในด้านอุบัติเหตุ
๖ ห้ามเดินทางไกล จะมีเคราะห์ สูญเสียบุตร ภรรยา ...
ยามกลาง
๓ เดินทางไกล จะเกิดไฟไหม้ ถูกโจรปล้นทรัพย์สินเงินทองระหว่าง เดินทาง
๖ ห้ามเดินทางแม้จะได้ลาภมา ก็หมดไป หรือถูกจี้ปล้น ...
ยามปลาย
๓ เดินทางไกลได้ลาภเป็นเงินทองมากมาย พบมิตรระหว่างทาง จะคบกันไปได้นาน
๖ เดินทางไกลได้ลาภมากมายพบมิตร เพื่อนต่างเพศช่วยเหลือดี ...
ยามอัฐกาลนี้ในยามหนึ่ง ๆ เรายังสามารถแบ่งออกเป็น ๙ ฤกษ์ ๆ ละ ๑๐ นาที เรียกว่า ฤกษ์ราหูคันทรัพย์
ฤกษ์ที่ ๑ ทาษา = คนชั้นต่ำ กรรมการ ลูกจ้าง คนรับใช้ ใช้ในการหาลูกจ้าง ผู้ที่มียศตำแหน่งไม่สูงนัก
ฤกษ์ที่ ๒ คหปติ = พ่อค้า เศรษฐี ใช้ในการค้าขาย ติดต่อขอกู้ยืมเงินจากผู้มีฐานะดี
ฤกษ์ที่ ๓ โจรา = คนจรจัด พวกมิจฉาชีพ ใช้ทวงหนี้ หรือขอยืมเงิน บุกเข้าหาศัตรู
ฤกษ์ที่ ๔ เสนาปติ = ขุนนาง คนทำราชการ ข้าหลวง ใช้ติดต่อราชการ สมัครงาน สอบแข่งขัน
ฤกษ์ที่ ๕ กาลทัณฑ์ = ผู้คุมนักโทษ คนขี้คุก คนจัญไร ใช้เข้าเยี่ยมนักโทษ หามือปืนรับจ้าง สอบปากคำ
ฤกษ์ที่ ๖ กัลยาณ์ = คนมี สกุลดี มีจริยธรรมสูง เชื้อพระวงศ์ ใช้พบปะสังสรรค ติดต่อบุคคล เข้าหาผู้ใหญ่
ฤกษ์ที่ ๗ มหายักษ์ = คนอุบาทว์ คนใจโหดร้าย ฆาตกร คนทรงเจ้า ใช้ปลุกเศกเครื่องราง ทรงเจ้า รดน้ำมนต์
ฤกษ์ที่ ๘ ธนบดินทร์ = ผู้ปกครอง ผู้เป็นใหญ่ พระราชา ใช้เข้าเฝ้าเชื้อพระวงศ์ พบผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย
ฤกษ์ที่ ๙ นักพรต = ผู้สงบ ผู้แสวงบุญ ผู้ไม่ทำบาป ใช้ถือศีล ทำบุญ สวดมนต์ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
...ยามอัฏฐกาล ...กลางวัน ...และกลางคืน ...
...แถม ฤกษ์ - งาม - ยาม - ดี ให้อีกชุดหนึ่งครับ ...
...วันนี้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ลองไปค้นคว้า ทบทวนหาความรู้กันเอง จะดีกว่า ... สวัสดี ...