Post date: 27 ส.ค. 2013, 18:23:32
๕ ๘
...อ.ทองเจือ อ่างแก้ว ๑ ฯ ๘ ปีมะโรง
๑๗ ก.ค.พ.ศ. ๒๔๔๗
เวลา ๑๓.๒๘ น.
...โยคเกณฑ์...
๑. ดวงได้จตุเกณฑ์ มีดาวพระเคราะห์เด่นอยู่ในมุมจตุโกณ คือเสาร์เกษตร พฤหัสบดีราชาโชค
และ อาทิตย์เป็นมหาจักร...
๒. ดาวเสาร์ เป็นเกษตรอยู่ในภพเกณฑ์ คือภพที่ ๔ ได้เกณฑ์ ปัญจมหาบุรุษโยค...
...วิจารณ์...
๑. ท่านผู้นี้เป็นอาจารย์สำคัญในวงการโหร และมีความเชี่ยวชาญในการคำนวณปฏิทินโหรแบบสุริยาตร ซึ่งบรรดาโหรคงใช้เป็นคู่มือในการผูกดวงชาตาอยู่ในขณะนี้...
...ดาวศุกร์ตนุลัคน์กุมพุธอันเป็นดาวสติปัญญา และกุมดาวอาทิตย์ซึ่งช่วยเร่งให้สติปัญญาสว่างไสว...จึงมีหัวในการคำนวณเป็นพิเศษ...
๒. ดาวพฤหัสบดีเล็งลัคนาราศีตุลย์ ตามสถิติที่ปรากฏพบว่า เป็นดวงครูบาอาจารย์ ซึ่งมีผู้คนยกย่อง...นับถือมาก...
๓. ดาวพฤหัสบดี อยู่ในภพกัมมะของดาวศุกร์ตนุลัคน์ก็ชี้ให้เห็นชัดว่า ท่านเจ้าชาตารักในวิชาความรู้และใช้วิชาความรู้นั้นให้เป็นประโยชน์แก่ชนทั่วไป...
๔. ดาวมฤตยูนำหน้าลัคนา มักสนใจค้นคว้า แสวงหาวิธีการใหม่ๆ มาใช้ในการคำนวณปฏิทินให้รวดเร็วได้ผลดีผิดกับสมัยโบราณ นับว่าท่านเป็นผู้มีหัวก้าวหน้าผู้หนึ่ง
ดาวมฤตยูยังมีอิทธิพลในด้านการเสี่ยง โชคด้วย ท่านจึงมักจะเป็นผู้กล้าได้กล้าเสีย ยอมเสี่ยงที่จะกระทำการใดๆ โดยไม่ลังเลใจ...
๕. ดาวพลูโตโหราศาสตร์โยคหลังดาวศุกร์ตนุลัคน์ ทำให้ท่านจะต้องมีชีวิตพัวพันอยู่กับวงการ โหราศาสตร์ตลอดไป แต่เพราะพลูโตเป็นดาวมรณะ จึงมักไม่นิยมทำนาย แต่มุ่งไปในทางสร้างปฏิทินให้เป็นประโยชน์แก่วงการโหร...
...ที่ว่าต้องอยู่ในวงการโหรตลอดไป เพราะเมื่อตรวจจากลัคนา ดาวตนุลัคน์ไปอยู่ราศีกรกฏ ดาวจันทร์ตนุของตนุลัคน์ [ เจ้าเรือนของตนุลัคน์ ] ไปอยู่ราศีสิงห์ ณ.จุดราศีสิงห์นี้จะพบว่า... ดาวพลูโตสถิตอยู่ในเรือนกัมมะ ข้อนี้เป็นประจักษ์พยานชี้ชัดว่าเหตุไฉนจึงต้อง ใช้ชีวิตในบั้นปลาย อยู่กับวงการโหรมาจนบัดนี้...
๖. ดาวพุธ หนังสือ ลอยกลางฟ้าเหนือศรีษะขณะเกิด ทำให้นักคำนวณปฏิทินผู้ยิ่งยงท่านนี้ต้องเขียนตำรับตำราไว้มาก และปฏิทินที่คำนวณขึ้น ก็ได้ตีพิมพ์ออกสู่ีสาธารณะเป็นประจำทุกปีไม่เคยขาด...
...ต่อจากนี้ผมจะอธิบายเสริมให้ชัดเจนขึ้น...
...เริ่มตั้งต้นจาก ดาว ๕เจ้าเรือนภพสหัชชะ [ การศึกษา ] + ภพอริ [ ความบากบั่น ] ไปอยู่ราศีเมษ
ภพปัตนิ [คนอื่น ] ดาว ๓ เจ้าเรือนภพปัตนิไปอยู่ราศีมิถุนภพศุภะ [ความสำเร็จ,ที่พึ่ง ]
ดาว ๔ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีกรกฏ ภพกัมมะ [ งาน,ภาระ ] ดาว ๒ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีสิงห์ภพ
ลาภะ [มุ่งหวัง,ต้องการ ] ...
ดาว ๑ เจ้าเรือนกลับไปอยู่ราศีกรกฏภพ กัมมะ สมาสัปต์ [สลับเรือน ] กันไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด...
...แปลว่า..
...เจ้าชาตาเป็นคนมีความพากเพียรที่จะคิดค้นอย่างไม่กลัวความยากลำบาก ในการที่จะให้
ผู้อื่นประสพกับความสำเร็จในเรื่องกิจกรรมงานในด้านวิชาการหรือเอกสารต่างๆโดยเฉพาะวิชาโหราศาสตร์...ซึ่งงานที่กระทำก็จะเป็นงานที่มั่นคงถาวรไปได้โดยตลอดไม่จบสิ้น...
...ที่เน้นวิชาโหราศาสตร์ก็เพราะว่า...
ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ] เป็นศูนย์พาหะ [ ตัวนำทาง ] สถิตอยู่ที่ราศีพฤศจิกภพกฎุมภะ
[ ได้มา ] เป็นตัวนำทางชีวิตเจ้าชาตา...
ที่ว่างานด้านวิชาการเพราะว่า ดาว ๑ กุม๔ เป็นคู่วิชาการในด้านเอกสารมันสมองและตัวเลข...
...การผู้คนยกย่องเคารพนับถือ เพราะ...
...ดาว ๒ ตรีโกณกับดาว ๕ คือร่วมอยู่ในธาตุไฟด้วยกัน ๒ + ๕ = คนนับถือ
...๘ หมายถึงคนจำนวนมาก
...๒ หมายถึง ประชาชน
...๕ หมายถึง ครูบาอาจารย์
...๙ หมายถึง สูงสุด
...ในพื้นดวงดาว ๒ กุมกับ ๘ และ ๙ และตรีโกณกับ ดาว ๕ ...ดังนั้นจึงแปลได้ว่า...
...เป็น อ.โหรที่ผู้คนให้ความเคารพนับถืออยู่เป็นจำนวนมาก...
...ที่ว่าเจ้าชาตารักวิชาโหราศาสตร์ก็เพราะ..
...นับจากดาว ๖ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ]
...อยู่ที่ภพ ปุตตะ [ ความรัก ] ...แปลว่า เจ้าชาตารักวิชาโหราศาสตร์...
...นับจากดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๓ ดาวมฤตยูอยู่ที่ภพ พันธุ [ ความผูกพันธิ์ ]
...แปลว่าเจ้าชาตาผูกพันธิ์อย่างลึกซึ้งกับวิชาโหราศาสตร์...
...ที่ชอบค้นคว้า แสวงหาวิธีการต่างๆมาใช้ในการคำนวณ เพราะ...
...ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ , ค้นคว้า ] อยู่ร่วมแฝงเรือนเกษตรกับ ดาว ๕ [วิชาความรู้ ]
...คือที่เรือนเกษตรของดาว ๓ [กิจกรรม ] และดาว ๓ ก็ไปอยู่ที่ราศีมิถุนภพ ศุภะ [ฝักไฝ่ ]
...ดาว ๔ เจ้าเรือนก็ไปอยู่ที่ราศีกรกฏ ภพกัมมะ [ งาน ] ซะอีก แล้วก็สลับเรือน กัมมะกับ
...ลาภะ [ความมุ่งหวัง ] ไม่ไปไหนอีกเหมือนเดิม...
...แปลได้ว่า...เจ้าชาตาเป็นคนที่ค้นคว้าหาสิ่งแปลกใหม่ พาเพิ่ม เสริม ปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา
...เพื่อที่จะให้การคำนวณจากปฏิทินของท่านรุดหน้าไปอย่างไม่สิ้นสุด...
...ส่วนที่ท่านไม่ชอบทำนายเน้นไปในทางทำปฏิทินอย่างเดียวเพราะ...
...ที่ราศีกรกฏ ตั้งดาว ๖ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ เป็นลัคนาที่ ๒ ภพกัมมะที่ราศีเมษ ดาว ๓เจ้าเรือนไปอยู่
...ราศีมิถุนภพวินาสน์ [งานค้นคว้า,ไม่เปิดตัว,เบื้องหลัง]
...ที่ราศีสิงห็ ตั้งดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ เป็นลัคนาที่ ๓ ภพกัมมะที่ราศีพฤศภ ดาว๖ เจ้าเรือนไปอยู่
...ราศีกรกฏภพ วินาสน์ [ไม่เปิดเผย,งานทำแบบส่วนตัว, ที่อันเป็นสัปปายะ , สงบ ]
...จึงแปลเน้นไปว่า...เจ้าชาตาชอบทำงานแบบเป็นส่วนตัว ในที่สงบไม่จุ้นจ้าน อยู่คนเดียว เพราะ
...ฉะนั้นการที่จะให้ท่านไปนั่งทำนายดวงชาตาให้ผู้คน ตอบได้ว่า...เมินซะเถอะ...อย่าหวัง...ครับ
...ส่วนเรื่องการใจถึงในเรื่องการเสี่ยงโชคต่างๆนั้นเพราะว่า...
...เราดูกันที่ลัคนาเลยว่า..ดาวมฤตยูเจ้าเรือนภพปุตตะ [การเสี่ยง ] .อยู่ที่ราศีพฤศจิก...
...ภพกฎุมภะ [ได้มา ] ดาว ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีมิถุนภพ ศุภะ [ ฝักไฝ่ ] ดาว ๔เจ้าเรือนวิ่ง
...ไปอยู่ราศีกรกฏภพกัมมะ [กิจกรรม ] ดาว ๑ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีสิงห์ภพ ลาภะ [มุ่งหวัง ]
...แล้วก็สลับเรือนกันไปเรื่อยๆ ที่ใจถึงเพราะว่ามี ราหู โยคหลังลัคนาอยู่ในเรือนลาภะ ...
...แปลว่า เจ้าชาตานิยม ฝักไฝ่ ใจรักมีความต้องการที่จะเสี่ยงโชค อยู่เสมอมาไม่จบสิ้น...
...ซึ่งบางครั้ง บางคราวก็ประสพกับความวุ่นวายเนื่องจากความใจถึงของท่านนั่นเอง...
...ที่ว่างานท่านเป็นอมตะได้รับความนิยมตลอดกาลก็คือ...
...ให้มองไปที่เรือนกัมมะ [ งาน ] ดาว ๑ วิ่งไปที่ราศีสิงห์ภพลาภะ [ความต้องการ ] แล้วก็สลับ
...เรือน ระหว่าง กัมมะ+ลาภะ+กัมมะ+ลาภะ ฯลฯ ไม่จบสิ้น...
...และอย่าลืมดูที่ราศีมังกร ภพพันธุ [ ปึกแผ่น ] เป็นภพ กัมมะ [ งาน ] ของลัคนาโลก
...แปลง่ายๆว่า งานของท่านมีมั่นคงเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นถาวร...
...งานของท่านจึงเป็นที่ต้องการของผู้คนอย่างไม่จบสิ้น ตลอดกาล...
...การวิเคราะห์ดวงชาตา อ.ทองเจือ อ่างแก้วก็คงต้องยุติลงเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ...
...พบกันใหม่ในบทความ ดวงชาตาในตอนต่อไปกันนะครับ...สวัสดี...