เคล็ดวิธีการดูพระแท้ - พระเก๊

...ในโลกปัจจุบันเป็นยอมรับกันว่า พระเก่าที่มีอายุมายาวนาน...เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องแสวงหามาครอบครองไว้กับตนเอง แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหาหลักเกณฑ์ข้ออ้างอิงต่างๆมาวิเคราะห์ในเนื้อหาพิมพ์ รูปพรรณสันฐาน ดังนั้นเทคนิคเบื้องต้นที่จะแยก " พระแท้ - พระเก๊ " ซึ่ง ณ.ปัจจุบันนี้จัดว่าแยกได้ยากมาก เพราะพระเก๊สมัยนี้ทำได้เหมือนพระแท้ แบบไม่ผิดเพี๊ยนกันเลย เทคโนโลยี ในด้านคอมพิวเตอร์ก็สูงล้ำทำเลียนแบบได้อย่างสุดยอด จนพูดได้ว่าบางทีพระปลอม... ยังสวยกว่าพระของแท้เสียอีก ...

...ดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจกับพระเครื่องก่อนว่า...ยังไม่มีสถาบันไหนที่จะเปิดสอนวิธีการดูพระแท้-พระเก๊ อย่างเป็นล่ำเป็นสัน...เพราะฉะนั้นทุกคนที่อยากจะเรียนรู้วิธีการในการดูพระแท้ -พระเก๊จะต้องสนใจหมั่นศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเอง หรือหมั่นพบปะพูดคุยกับเซียนพระเก่งๆซึ่งอาจจะช่วยให้คำแนะนำในเ้รื่องพระเครื่องในแต่ละประเภททั้งเนื้อผง,เหรียญ ฯลฯ ซึ่งมีวิธีดูแตกต่างกันออกไป...

เช่นถ้าชอบในเรื่องของพระเหรียญ ก็ต้องศึกษาเรื่องรอยตัดปั๊มขอบเหรียญ เซียนพระส่วนมากถ้าศึกษาในเรื่องใดก็มักจะชำนาญในทางนั้น ส่วนสำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษาเรียนรู้ หรือไม่มีข้อมูลก็มักจะโดนหลอก ต้องไม่ลืมว่า...พระัเก๊นั้นปลอมได้แม้แต่ " ตำหนิ " ของพระ ...

... คำแนะนำเบื้องต้นมีดังนี้ ...

...ควรที่จะต้องศึกษาประวัติความเป็นมาให้ชัดเจนก่อน เช่น จำนวนการสร้าง วัสดุหรือเนื้อพระ อายุของวัสดุกี่ปี ความเสื่อมสภาพของวัสดุต้องมีความ

เก่าตามอายุการสร้าง รวมถึงกรรมวิธีการสร้างพระแต่ละพิมพ์แต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าศึกษาในจุดนี้ก็จะทำให้เราสามารถพิจารณาลักษณะ

ของพระแท้-พระเก๊ ได้ว่าแตกต่างกันตรงไหนและอย่างไร ...

...ศึกษาจากรูปภาพ ถ้าไม่มีองค์จริงก็หาดูรูปไปพลางๆก่อน โดยดูจากสื่อต่างๆที่เชื่อถือได้หรือซื้อรูปถ่ายพระมาดูประกอบการศึกษาประวัติที่มาไปด้วย

ก็จะทำให้เข้าใจได้เร็วและง่ายขึ้น ...ลองเช่าพระมาเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบ ควรหาเช่าพระจากผู้ที่ไว้ใจได้หรือเซียนที่มีคุณธรรมเพื่อเอาไว้ศึกษา...

...สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องจดจำไว้ก็คือว่า...พระแท้ไม่มีถูก ไม่ว่าจะเป็นราคาหลักร้อย จนถึงหลักแสนหรือหลักล้าน ก็มีปลอมได้หมดอย่าซื้อพระเครื่องเพราะเห็นแก่ของถูก พระแท้ราคาถูกนั้นอาจมีได้แต่ตอบว่ามีโอกาสน้อยมาก นอกจากฟลุ๊คและเฮงจริงๆเท่านั้น...

...วิธีการดูพระแท้-พระเก๊ ...

๑. ต้องดูความเก่าของพระตามประเภท และดูความเสื่อมสภาพของวัสดุ จะต้องมีความเก่าแก่ตาม... อายุการสร้าง ...

๒. พิมพ์ถูกต้อง ไม่คลุมเคลือ...

๓. ตำหนิครบถ้วนสมบูรณ์ ...

๔. ความสมบูรณ์ขององค์พระ มีรอยบิ่น แตก หัก ร้าว หรือไม่ ...

๕. ราคา ต้องขึ้นอยู่กับระดับตลาดและความสมบูรณ์ขององค์พระ ...

...การเล่น-สะสมพระ ในสมัยก่อนคนอาจจะคิดว่าการเช่าพระ ปล่อยพระนั้นเป็นบาป แต่ถ้าเราเล่นพระ-สะสม พระอย่างถูกวิธี ผู้ให้เช่า-ขายประกอบ

อาชีพบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ได้ไปหลอกลวงใคร ไม่เอาของปลอมไปปล่อยขายใคร ก็ถือว่ามีเจตนาดี และนำเงินจากการขายพระไป

ทำบุญใส่บาตรบ้าง ก็จะัทำให้เกิดความสบายใจและสุขใจได้ ...

... เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่พอเป็นหลักการที่ดีในการตรวจสอบ ...

... พระเครื่องฯลฯ ด้วยตนเอง ...

... อ่านเรื่องเกี่ยวกับพระเครื่องต่อได้เลยครับ ...

... วิธีการเล่นพระ - ดูพระ ยังไง ให้เป็นซะที ...

... วิธีการเล่นพระ-ดูพระ ยังไง ให้เป็นซะที ...

... วงการพระบ้านเราเรียกได้ว่าเป็นที่รวมสิงห์เหนือเสือใต้ หรือสำนวนหนังกำลังภายในต้องใช้คำว่าชุมนุมพยัฆค์ ซ่อนมังกรหมอบ อะไรเทือกนั้น คนที่เล่นพระใหม่ๆ มือไม้สั่นไปหมดกลัวโน่น กลัวนี่ จนสุดท้ายไม่ได้เล่น ความจริงแล้ว ทำใจให้โล่งๆ ถ้าอยากเล่นพระ เพราะไม่ใช่สถานที่น่ากลัวอะไร...

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสามารถประมวลกรรม วิธีการเล่นพระให้เป็น โดยไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวได้ โดยยึดหลักใหญ่ๆ ดังนี้ ...

.. หัดเล่นเป็นอย่างๆ ก็คือ เล่นพระให้รู้แจ้งแทงตลอดเป็น ชนิดๆ ไม่ใช่อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ จนตัวเองงงไปหมด นักเล่นใหม่ๆ มักจะกังวลว่าจะรู้น้อย ไม่ต้องกลัวนะครับ เมื่อเล่นพระหรือ รู้ เรื่องพระเป็นชนิดๆ ความรู้ความสามารถในการดูพระชนิดอื่นๆ ก็จะตามมาเอง เพราะส่วนใหญ่แล้วพระหลายๆ ชนิด จะมีหลักการพิจารณา คล้ายคลึงหรือเป็นมาตรฐานเดียวกัน ...

...ต้องดูของจริงบ่อยๆ ภาษาเซียน เขาเรียก "ดูฟรี" ก็เบี้ยน้อยหอยน้อยนี่ครับ จะเช่าหลักหมื่น หลักแสน ก็กลัวไปหมด ระยะแรกๆ เลยต้องตีตั๋วฟรีไปก่อน อ้าว ... แล้วไปดูที่ไหนล่ะ อย่างแรกเลยง่ายๆ คือ ดูในหนังสือ กับเว็บไซต์พระเครื่องทั่วๆ ไป สมัยนี้ดีนะครับไม่เหมือนสมัยก่อน กว่าจะได้ดูแต่ละองค์นี่ตาเหลือก เดี๋ยวนี้ มีตีพิมพ์แพร่หลาย หาที่มีมาตรฐานหน่อย ก็จะได้รายละเอียดพอสมควร แต่ก็ไม่สมบูรณ์ตรงที่จะไม่มีมิติหรือความลึกและคำนวณขนาดที่แท้จริงไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้น ขั้นต่อมาก็คือ ไปโน่นเลยครับ ดูพระฟรีตามงานประกวดพระ ที่เขาตัดสินแล้วโชว์ หรือเดินดูตามตู้โชว์พระ ถ้ามีทุนพอค่อยเช่ามาส่องดูให้ทะลุทะลวงที่บ้าน ...

... แล้วดูยังไงละว่าเก๊หรือแท้ อันนี้เป็นเคล็ดลับครับ วิธีง่ายที่สุดในโลกคือ นำรูปพระหรือองค์พระที่แท้ หรือที่คิดว่าแท้ พิมพ์เดียวกัน มาวางเรียงกันอย่างน้อย 3 องค์ แล้วนำรูปพระเก๊ หรือที่คิดว่าเก๊ มาวางเปรียบเทียบ ถ้าของเราไม่เหมือนกับอีกสามองค์ละก็ สวัสดีท่านทีนึงแล้วหาเล่นใหม่ ตอนแรกๆ ก็จะดูไม่ค่อยออกหรอกครับว่าเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง แต่พอเพดานบินสูงขึ้น จะเริ่มสังเกตเห็นเอง เขาเรียกว่าวิธีการดูแบบธรรมชาติ พอตาจำแนกออก แล้วทีนี้ " รัศมีเซียน " เริ่มจะจับแล้วละครับ ...

... เข้าใจคำว่า "ดูพระ" ไหมครับ ความหมายก็คือใช้ตาดู ไม่ใช่ใช้หูดู เพราะบางคนตาจ้องพระแต่หูกระดิกคอยฟังเสียงว่าคนอื่นพูดว่ายังไง เสร็จครับ โดนแน่นอน เพราะพระต่างๆ จะมีนิทาน นิยาย จนบางทีคนเล่าเองยังงง บางองค์เป็นมรดกตกทอดของเจ้าคุณปู่ เจ้าคุณย่า สารพัดจะพูดกัน ตั้งสติดีๆแล้วใช้ตาดู บางคนฉลาดหน่อยอาศัยเล่นพระองค์ที่วงการยอมรับ มีรูปลงตีพิมพ์มาหลายสิบปี ก็มักจะได้พระแท้ แต่ราคาก็ตามประวัติ คือ แพงหน่อย หากยังไม่มีทุน " ตามพระ " แล้วอยากจะเป็นเอง ก็อย่าฟังนิทาน หรือนิยายเพราะไม่มีใครยืนยันได้หรอกครับ ...

.. พยายามศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของพระประเภทที่ต้องการศึกษา เช่น ธรรมชาติของโลหะ, สภาพของพระเนื้อดิน หรือเนื้อผง กรรมวิธีการสร้าง เช่น การหล่อ หรือ ปั๊ม พวกนี้จะหาอ่านได้ทั่วๆ ไป แต่ต้องอ่านแบบศึกษาจริงๆ จังๆ นะครับ ไม่ใช่อ่านไปงั้นๆ แล้วก็ลองคิดดูเอาเองว่ามันจริงอย่างที่เขาเขียนเขาบอกหรือเปล่า จำไว้เลยว่าความรู้ต้องทุ่มเทศึกษานะครับไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ...

แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า เล่นเป็นหรือยัง เขาบอกยังงี้ครับว่า ถ้าอยากจะรู้ว่าตัวเองเข้าขั้น "เซียน" หรือยังไต่บันไดเซียนอยู่ ให้ลอง บินเดี่ยว คือ ลองเช่า โดยตัดสินใจด้วยตัวเอง ถ้าแท้ละก็ เริ่มจะเป็นเซียนแล้ว แต่ถ้าเช่า สามสี่ครั้งยังเก๊อยู่ละก็ คงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วที่สำคัญ ใจเย็นๆ นะครับ ให้ย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าแรกของคอลัมน์นี้อีกที แล้วลงมือปฏิบัติอย่างจริงๆ จังๆ สักวัน คงได้เป็นเซียนสมใจ ครับผม ...

... จากคอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง :โดย ราม วัชรประดิษฐ์ ...