โหราศาสตร์ - วิทยาศาสตร์
โดย อ.ส.แสงตะวัน
... นักโหราศาสตร์รุ่นเก่าก่อน เขาถือทำเนียมกันมาแต่โบราณว่า วิชาโหรเป็นวิชาลี้ลับที่ควรปกปิดและหวงแหนสุดยอด เขาจะไม่ยินยอมเปิดเผย หรือ
ออกมาตีแผ่เหมือนอย่างสมัยนี้ เขาถือว่าชนชาติใดมีโหรผู้รอบรู้เชี่ยวชาญสามารถนำมาทำนายทั้งเรื่องส่วนบุคคล และบ้านเมืองได้ ย่อมเป็นที่เกรงขาม
ของประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นที่เชิดชูแก่เจ้าบ้านผ่านเมืองด้วย โหรชั้นบรมครูผู้รู้จริงต้องมีคุณธรรมสูง ไม่นำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม ในสมัยโบราณวิชาโหราศาสตร์ได้วนเวียนอยู่เฉพาะในราชสำนักเท่านั้น บางราชสำนักมีโหรที่มีความรู้น้อยหรือรู้เพียงภาคคำนวณสุริยาตร์เท่านั้น หามีผู้ชำนาญการพยากรณ์ไม่ก็มีอยู่เหมือนกันพวกเราชาวโหรรุ่นใหม่เชื่อกันหรือไม่ว่า วิชาโหราศาสตร์ภาคพยากรณ์ที่เป็นของจริงเท่านั้น ได้ถูกเก็บซุกซ่อนไว้แต่กลุ่ม
ของพวกโหรในราชสำนักเท่านั้น บุคคลภายนอกจะไม่มีโอกาสได้ศึกษากันเลย นอกจากจะได้แบบตกหล่นเล็กน้อยจากภิกษุสงฆ์ที่เข้าออกในสำนักราชวังเท่านั้น ต่อมาได้มีการค้นคว้าจากแหล่งต่าง ๆ นำมารวบรวมเขียนเป็นตำราแบบถูไถออกมามากมาย ปัจจุบันตำราที่ลอกเลียนแบบแปลงสารจัดพิมพ์ขายอยู่ขณะนี้ ล้วนแต่เป็นของปลอมเกือบทั้งนั้น แม้แต่ผู้ตั้งต้นเป็นครูสอนก็รู้จากตำราที่ไม่มีมาตรฐานเรียกว่าหลอกต่อ ๆ กันมา ส่วนที่เป็นของจริงนั้นของเรามีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด แต่เราได้รับความวิบัติหมดสิ้น ตั้งแต่ครั้งพม่ายกทหารมาเผากรุงศรีอยุธยา ของดีที่เกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ของเราได้สูญสลายไปด้วย คงเหลืออยู่แต่เฉพาะในตัวโหรที่หนีรอดออกมาเท่านั้น ดังนั้นหากวิชาโหราศาสตร์ไปตกอยู่ที่ใคร คนนั้นก็นับว่าโชคดีที่สุดในชีวิตและสามารถโอ้อวดต่อชาวโลกได้แน่นอน ...
... วิชาโหราศาสตร์ของแท้ที่เป็นจริง เขามิได้เล่าเรียนดังที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป เขาเรียนแบบวิทยาศาสตร์ในลักษณะสืบต่อจากดาราศาสตร์ โดยผู้เขียนเรียนมากับตนเอง และกล้ารับรองว่าเป็นหลักเกณฑ์ของวิทยาศาสตร์แน่นอน เนื่องจากวิชาดาราศาสตร์เป็นเรื่องของดวงดาว โหราศาสตร์เป็นเรื่องของระบบธาตุที่เคลื่อนไหวอยู่ในโลก ทั้งสองภาคจะเกี่ยวพันกันตลอดไป โดยอาศัยบรรยากาศของโลกเป็นสื่อกลางรวมสามขั้นตอน ดังกล่าวมานี้ ดูเหมือนนักศึกษารุ่นใหม่จะไม่รู้เรื่องกันเลย ดวงดาวบนท้องฟ้าทำหน้าที่ ส่งเคลื่อนแสงลงมาหาคลื่นชั้นบรรยากาศ เพื่อให้เกิดการผสมผสานและมีผลออกมา
ทางนามธรรม ระยะนั้นมวลสารของโลก หรือโลกส่งกระแสคลื่นธาตุออกไปรับ เพื่อดึงดูดคลื่นบรรยากาศเข้ามาผสมผสานเพื่อผลทางรูปธรรม เมื่อคลื่นแสงคลื่นชั้นบรรยากาศ และคลื่นของโลก ได้ผสมผสานออกมาเป็นรูปธรรมแล้วได้เปลี่ยนผลออกมาเป็นภาษา ซึ่งเรียกว่าภาษาโหร (ไม่ใช่ภาษาตำรา)
ที่กล่าวมาเพียงสังเขปเพื่อให้รู้จุดเริ่มต้นว่าเขาเรียกกันอย่างไรมีสิ่งที่ซ่อนเร้นสำคัญเกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ คือ ...ชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งแผ่กระจาย
อยู่รอบนอก ชั้นนี้เป็นสื่อกลางระหว่างดวงดาวกับโลก วิธีการเล่นเบื้องต้นเสมือนกับเราเล่น ๓๖ ราศี คือ ๑๒ ที่ดวงดาวโคจรอยู่ในจักรวาล๑๒ ราศีของชั้นบรรยากาศ และ ๑๒ ราศีของโลก ทั้งหมดนี้ ย่อมมีความหมายแตกต่างกัน ซึ่งจะต้องศึกษากันค่อนข้างหนักและบรมครูโหรดั้งเดิมจะไม่ยอมเขียนเป็นตำราออกวางตลาด นอกจากจะเรียนโดยตรงระหว่างครูกับศิษย์เท่านั้นโหรรุ่นครูสมัยโบราณท่านฉลาดเหลือหลาย ของจริงท่านปิดบังไว้หมด แต่บอกเป็นเชิงปริศนาให้คนรุ่นหลังคิดและตีความหมายเอาเองเช่น บอกเชิงปริศนาว่า ...
...โลกในอนาคต ...
... โหราศาสตร์ก็คือวิชาระหว่างโลกกับดวงดาว หรือวิชาโหราศาสตร์เป็นเรื่องระหว่างสุริยคติกับจันทรคติดังนี้เป็นต้น โหรรุ่นใหม่พอจะรู้ว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีการเล่นนั้นอย่างไรเช่นกัน เราเพียงรู้ไว้ใช่ว่าเท่านั้นเอง แต่หาได้ฉุกคิดหรือเฉลียวใจไม่ว่า ปริศนาสองคำนี้มีความหมายสำคัญมากถ้าใครแก้ปริศนานี้ออก ก็เท่ากับเห็นหนทางเล่นอย่างชัดแจ้งเข้าแล้ววันนี้ผู้เขียนพอจะไขกุญแจให้โหรรุ่นใหม่ เก็บเอาไปศึกษาที่ว่าสุริยคติกับจันทรคตินั้น หมายถึง ดาวอาทิตย์เป็นเจ้าแห่งคลังแสงและเจ้าจักรวาล มีดาวบริวารล้อมรอบมีกำลังส่งทางคลื่นแสงลงมาหาชั้นบรรยากาศรอบโลกเพื่อปรุงแต่งธาตุทั้ง ๔ในลักษณะนามธรรม ส่วนจันทรคตินั้นหมายถึงดาวจันทร์ทำหน้าที่ตัดแสง หรือบังแสงดวงดาว เพื่อเปิดโอกาสให้โลกดึงดูดกระแสธาตุชั้นบรรยากาศลงมผสมผสานเข้ากับธาตุของโลก เพื่อผลได้ออกมาในรูปธรรม ส่วนคำว่าโลก หมายถึงมีองค์ประกอบด้วยธาตุ ๔ คือ ธาตุดิน น้ำลม ไฟ และยังมีอากาศธาตุและวิญญาณธาตุเพิ่มอีก ๒ ธาตุหากกล่าวแบบรวมๆพื้นโลกมีสรรพสิ่งต่างๆ รวมทั้งสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นบนโลกเรียกว่าธรรมชาติ ซึ่งเวียนว่ายตายเกิด
หมุนเวียนเป็นวัฏจักรโลกแห่งดาราศาสตร์เป็นเรื่องของธรรมชาติที่มีกฎเกณฑ์ในตัวเอง ซึ่งมนุษย์สามารถค้นพบและนำมาศึกษาพยากรณ์กันอย่างแพร่หลาย โลกเป็นหัวใจสำคัญด้านวิชาโหราศาสตร์ สามารถขยายการเล่นได้อย่างกว้างขวาง จึงสมมุติให้โลกเป็นราหูโหรสมัยเก่าปกปิดถึงกับตัดราหูทิ้งไป จากกลุ่มของดวงดาว เป็นเพียงจุดสกัดเท่านั้น เราจึงไม่ค่อยพบตำราว่าด้วยเรื่องราหูมากนัก และมักจะกล่าวโทษราหูว่าเป็นดาวดุร้ายต่าง ๆ นานา เล่นเอาโหรสมัยนี้เกรงกลัวราหูกันนัก เป็นความจริงราหูเป็นต้นตระกูลของวิชาโหราศาสตร์โดยตรงมีกฎเกณฑ์การพยากรณ์อย่างกว้างขวาง ราหูในแนว
โหราศาสตร์มีอยู่ ๘ ภาคด้วยกัน แต่โหรมักจะเรียกราหู ๘ ตน คือ ...
๑.ราหูกำบัง
๒. ราหูจำบัง
๓. ราหูเสวย
๔. ราหูบังเงา
๕. ราหูก้อนเส้า
๖. เกณฑ์ราหู
๗.ราหูพรต และ ๘ ราหูอวตาร
... ทั้งหมดนี้เรียกว่า อัฎฐะคชนาม นักศึกษารุ่นลูกหลานจงรู้ไว้ด้วยว่า วิชาโหราศาสตร์ที่ศึกษาอยู่ขณะนี้ได้สูญหายตำราที่สำคัญไป คงเหลือแต่ตำราจำพวกดาราศาสตร์แบบผสมผสานเท่านั้น จนเป็นเหตุให้พวกที่เคยตกกระไดพลอยโจนมาแล้วหวนกลับมาล้างแค้นดูหมิ่นพวกที่เชื่อโหราศาสตร์ ว่าเป็น
พวกงมงายหรือพวกปัญญาอ่อน วิชาโหราศาสตร์ที่เป็นของจริงนั้นยังมีอยู่แต่ได้หลบ ๆ ซ่อน ๆ เช่นเดียวกับเจ้าของเดิมผู้หวงแหนเมื่อปี ๒๕๓๑ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พระราหูย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีกุมภ์ เคยเขียนบทความไว้ในหนังสือนิตยสารหลายแห่ง และเคยบอกให้ท่านผู้ใหญ่รับทราบไว้ก่อนแล้ว พอสรุปรวมได้ว่า ราหูโคจรเข้าราศีกุมภ์รอบนี้เรียกว่า ราหูอวตาร ซึ่งนานปีจะมีสักครั้งหนึ่งและมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องราหูอวตารว่ามีผลต่อโลกอย่างไร ราหูอวตารอุปมาเสมือนช้างสารตกน้ำมัน ย่อมบังเกิดผลทั้งด้านดีและด้านร้ายควบคู่กัน คราใดดาวบาปเคราะห์โคจรเข้าในรัศมีคลื่นของราหู จะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ดาวดวงนั้นมีอิทธิพลคล้ายราหูเสียคราวหนึ่ง คราใดดาวศุภเคราะห์โคจรเข้ามากระทบคลื่นราหู ก็แสดงในลักษณะทางนุ่มนวลราหูจะแสดงอิทธิพลอวตารอยู่ ๔ ปี คือ จนถึงเดือน เมษายน ๒๕๓๕หลังจากนั้นอิทธิพลราหูจะเข้าสู่ปกติ ระยะระหว่างช่วงนี้สถานภาพของโลกที่ถูกลัทธิคอมมิวนิสต์เข้า
ครอบครองโดยมีรัสเซียเป็นผู้นำ จนเป็นเหตุให้ประเทศน้อยใหญ่เหมือนตกนรกทั้งเป็นมานาน ได้เข้าสู่สันติภาพ กลับกลายเป็นประชาธิปไตย คือระบอบคอมมิวนิสต์จะค่อย ๆ สลายตัวเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตย ประเทศบริวารที่ถูกรัสเซียครอบงำด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ ต่างสลัดแอกเป็นอิสระเป็นจำนวนมากแต่ก่อนจะสิ้นสุดอำนาจราหูอวตาร สถานการณ์ของโลกจะต้องประสบกับปัญหาอันยุ่งยากหลายประการ และมีสงครามระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ดินฟ้าอากาศจะเกิดอาเพท แปรปรวน พลเมืองหลายประเทศจะประสบภัยพิบัติ อดอยาก ยากไร้ เหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้วตามคำทำนาย ที่กล่าวมานี้มิได้โกหกตอแหลโอ้อวด หลักฐานยังมีอยู่พร้อม นักศึกษารุ่นใหม่คงไม่รู้เรื่องกันมาก่อนเลย และอาจจะไม่เชื่อว่าวิชาเหล่านี้มีอยู่ในโลกโหราศาสตร์ก็ได้ ขอให้รับรู้ไว้ด้วยเถิดว่า ที่เล่าเรียนกันมานั้นได้หลงทางกันทั้งนั้น จะบอกให้ ...
สวัสดี...
... ที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ ...
นายสำราญ ตัณฑะนุช
ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
วันจันทร์ที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
นายสำราญ ตัณฑะนุช
ชาตะ วันพฤหัสบดี ปีมะโรง ๒๔๕๙
มรณะ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๔
... ประวัติย่อ อ.ส.แสงตะวัน ...
บ้านเดิมอยู่ที่ หมู่ ๕ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นามสกุลเดิมฝ่ายบิดา พันธุ์ทวี ฝ่ายมารดา บุณยเกียรติ ภรรยาเกิดที่ตำบลเขาขุมทอง อ.ร่อนพิบูลย์
จ.นครศรีธรรมราช นามสกุลเดิม แสงวิเชียร ...
นายสำราญ ตัณฑะนุช เกิดวันพฤหัสบดี ปีมะโรง พ.ศ. ๒๔๕๙ มรณะวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เวลา ๐๔.๓๕ น. รวมอายุ ๘๖ ปี สมรสกับนางเจียม
จิต แสงวิเชียร ไม่มีบุตร มีพี่น้อง ๘ คน เสียชีวิต 6 คน เหลือ ๒ คน คือนางสำออย พูนสุข และพระปราโมทย์ ตัณฑะนุช ...
ปัจจุบันมีสำนักโหรหลายแห่งทำการเปิดสอนกันอย่างกว้างขวาง บางแห่งเพ้อฝันคิดจะเลื่อนฐานะเป็นมหาวิทยาลัยก็มีเหมือนกัน มีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยที่ต้อง
เลิกล้มอย่างผิดคาดหวัง บางคนเรียนจบจากครูผู้สอนนับเป็นสิบสำนัก แต่ไม่สามารถนำวิชาไปพยากรณ์ผู้อื่นได้ตามวัตถุประสงค์ และหารู้ไม่ว่าที่เราปลุกปล้ำจำเจกันอยู่
ทุกวันนี้ ล้วนแต่พบเพียงเปลือกนอกทั้งนั้น จนเกิดความท้อถอย ซึ่งเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินที่ได้ลงทุนไว้สูงไม่สามารถประเมินค่าได้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้เขียนได้พบปะบุคคล
เหล่านี้ปรารภให้ฟังอยู่เสมอ บางคนยังวิงวอนขอให้ผู้เขียนเปิดการสอน โดยตั้งค่ายกครูเป็นเงินจำนวนสูงแทบไม่น่าเชื่อ แต่ผู้เขียนไม่ยินยอมรับสอน ใช่ว่าจะหวงวิชาตามที่
เป็นข่าวลือมากระทบหูอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นวิชาที่เรียนยากยิ่งจริงๆ ต้องใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนกว่า ๕ ปีขึ้นไป จึงจะพอเห็นลู่ทางที่โปร่งใสได้ เมื่อเรียนรู้จริงตามที่ครูสอน
ไม่จำเป็นต้องโฆษณา บุคคลที่มาดูนั่นแหละเขาจะโฆษณาให้เอง ...
สังเกตมาเกือบ ๕๐ ปีแล้ว พบเห็นร่ำเรียนกันแต่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น ส่วนเนื้อหรือแก่นไม่ค่อยได้พบเห็น ที่กล่าวมานี้มิได้เจตนาจงใจจะดูหมิ่นผู้ที่กำลังหลงใหล
ได้ปลื้มอยู่ในปัจจุบัน เนื้อหรือแก่นของวิชาโหราศาสตร์ยังไม่เคยมีสำนักใดเขียนเป็นตำราไว้เลย จะมีบ้างมักเป็นแบบอ้างอิงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นเหตุให้ผู้ศึกษาเกิด
หลงทางเข้าป่าเข้าพงก็มี ...
เราจะเรียนกันให้ถึงเนื้อและแก่นได้นั้น จะต้องเรียนจากครูโดยตรงเท่านั้น เพราะเป็นทั้งรูปและนามธรรมคละเคล้ากันไป อุปมาเช่นผลไม้ที่เราเคยรู้จัก ระยะ
แรกที่เราเห็นรูปพรรณสัณฐาน อาจบอกได้ทันทีว่าชื่อผลอะไร แต่อาจไม่รู้ว่าสีสันเนื้อในหรือมีรสชาติอย่างไร และเมล็ดที่ฝังอยู่ในเยื่อเนื้อมีรูปร่างลักษณะและรสชาติเป็น
อย่างไรดังนี้เป็นต้น แต่เราจะพึงเรียนรู้ได้จากครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญชำนาญเท่านั้น เพราะวัตถุหรือสารต่างๆ ที่เกิดในโลกย่อมเป็นปรากฏการณ์ด้านวิชาโหราศาสตร์ทั้งนั้น
ฉะนั้นใครก็ตามหากอยากจะได้พบกับของจริง จะต้องมีความเพียรพยายามที่สูงมากจึงจะสำเร็จได้ ...
เรื่องธาตุทั้ง ๔ อันได้แก่ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ และยังมีวิญญาณธาตุกับอากาศธาตุร่วมด้วย ธาตุเหล่านี้เป็นมูลเหตุแห่งต้นธาตุซึ่งจะต้องศึกษากัน
อย่างหน่วงหนัก เนื่องจากโลกของเรามีสัณฐานทรงกลมมีสถานภาพเป็นดาวบริวารดวงหนึ่งของดาวอาทิตย์ จักรวาลได้แบ่งโลกออกเป็น ๑๒ ส่วนเรียกว่า สนามเรือนธาตุ
หรือเรียกย่อๆ ว่า เรือนเกษตร ส่วนวิถีวงจรของดาวอาทิตย์ จักรราศีก็ถูกแบ่งออกเป็น ๑๒ ส่วนเหมือนกันเรียกโดยย่อว่า ราศี ...
มีวิถีโคจรที่ผิดแผกแตกต่างกัน เรื่องนี้เขียนอธิบายกัน ๕ ปีก็ไม่จบ ...
ก่อนจะพบของจริงกับอาจารย์คนใหม่ ผู้เขียนได้เรียนแบบมหาทักษามาก่อนกว่าสามปีศึกษาจนกระทั่งถึงขั้นคำนวณพิชัยสงครามและอื่นๆ จนสิ้นกระบวนความ
พอมาพบกับอาจารย์คนใหม่ วันแรกท่านถามถึงวิชาที่เคยศึกษามาแล้ว ว่ามีอะไรบ้าง ผู้เขียนได้แจกแจงจาระไนจนสิ้นไส้พุง ท่านอาจารย์นั่งคิดอยู่นิดหนึ่ง จึงถามผู้เขียน
ว่า ผูกดวงเป็นแล้วหรือยัง ท่านยิงคำถามออกมาเช่นนี้ เล่นเอาผู้เขียนงวยงงเหมือนไก่ตาแตก นึกเอะใจ ก็เรียนมาสามปีแล้ว ด้วยเหตุใดท่านกลับมาถามว่า ผูกดวงเป็น
แล้วหรือยัง จะด้วยบารมีตนเองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ จึงตอบไปด้วยความฉงนของตนเอง่า ผูกดวงได้เพียง งูๆ ปลาๆ ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องหรือไม่ เห็นจะต้องฝึกหัดผูกดวง
อีกประมาณ ๖ หรือ ๘ เดือน แล้วจึงค่อยเริ่มเรียนกันอย่างจริงจัง ผู้เขียนรับคำท่านด้วยสดุดี ทั้งๆ ที่สมองยังมึนงงไม่หาย แล้วท่านก็หาฤกษ์ยามพร้อมด้วยเครื่องบูชายกครู
ตามธรรมเนียมโบราณ ...
ถึงวันกำหนดนัดหมายพิธียกครู ผู้เขียนได้นำเครื่องสังเวยพร้อมด้วยเครื่องบูชาครูอย่างครบถ้วน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ผ้าขาวยาว ๘ คืบ เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก
๑ บาทหนึ่งคู่ เมื่อเสร็จพิธีรับเป็นศิษย์แล้ว ท่านได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เจิมหน้าผากด้วยคาถาอาคม พร้อมกับให้ศีลให้พรตามพิธีระหว่างศิษย์กับครู อันเป็นเสร็จพิธี ...
ก่อนจะลาจากเรือน ครูท่านได้สั่งสำทับว่า หากเราอยากจะเป็นโหรที่ดี และเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม เราต้องมีความอดทน และอดกลั้นต่อสิ่ง ...
ภายนอก ซึ่งอาจจะแฝงเข้ามาเพื่อบ่อนทำลายความมุ่งมั่นจนล้มสลาย หัวใจอันเป็นหลักในการเอาดีทางโหราศาสตร์ อยู่ที่เรื่องระบบธาตุและความหมายของธาตุต่างๆ และยังมีกฎเกณฑ์อื่นๆ ที่ต้องศึกษาอีกมาก ถ้าหากไม่ยอมท้อแท้หรือท้อถอยเสียก่อน ชัยชนะจะต้องเป็นของศิษย์อย่างแน่นอน ระยะแรกเริ่มต้นลงมือเรียน เราจะเริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาลเรื่อยๆ ไปก่อน ต้องใจเย็นอย่าทำเป็นคนใจร้อน ถ้าเป็นคนใจร้อนจะประสบกับความสำเร็จยากยิ่งนัก ...
การเริ่มต้นต้องเริ่มกันเป็นจุดๆ ตั้งแต่ดาวเดี่ยว ดาวคู่ ดาวตับ และหมวดหมู่ สามารถแปลรหัสออกมาเป็นภาษาโหรได้อย่างกว้างขวาง ดาวเดี่ยวหมาย
ถึงความหมายของดาวดวงเดียว ระยะแรกอาจจะรู้สึกไม่ยากนักสำหรับผู้ที่เคยศึกษามาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ง่ายนักเมื่อคราวเรียนกันอย่างจริงจัง เพราะดาวทุกดวงย่อมขยาย
คลื่นแสงได้รอบตัว จะต้องชาญฉลาดมีไหวพริบฉับพลัน รู้เท่าทันอิทธิพลดวงดาวในขณะนั้น ซึ่งอาจมีทั้งโยคทั้งเบียนหรือร่วมเล็ง เป็นต้น ...
ขั้นที่ ๒ เราเริ่มเรียนวิชาดาวคู่ เรื่องดาวคู่เห็นจะต้องใช้สมองที่ค่อนข้างหนักมาก ซึ่งมีจำนวนเกือบร้อยคู่ ในแต่ละคู่เป็นเรื่องระหว่างระบบธาตุทั้งนั้น
ยิ่งพอเรียนไปถึงดาวตับ ดาวหมวดหมูด้วยแล้ว ถ้าไม่อดทนและขยันใกล้ชิดกับครูผู้สอนจริงๆ แล้ว เห็นจะต้องแจวลาโรงไปแน่ๆ ในที่สุดต้องฝึกหัดผูกดวงใหม่อีก ๑ ปี จึง
พอจะเข้าใจได้ ท่านเตือนว่าควรงดการจดบันทึกลงสมุด หรือหากจะจดบ้างก็เพียงเล็กน้อย ที่เห็นว่ายากและสับสน ควรจะบันทึกลงในสมองให้มาก เพราะ
สมุดกับสมองนั้นแตกต่างกัน ควรศึกษาให้แตกฉานอยู่ในสมอง ถึงคราวนำมาใช้จะรู้สึกว่าง่าย และรวดเร็วต่อการพยากรณ์ ฉะนั้น ใครก็ตามที่คิดเอาดีทางด้านโหราศาสตร์
จะต้องทบทวนคิดดูให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายและเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ สวัสดี ...
ปัจจุบันมีนักโหราศาสตร์เกือบทั่วโลก ต่างให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ของโลกกันมาก แต่จับทิศทางพยากรณ์ไม่ค่อยถูกต้องตามหลักวิชาการ มักจะเดาสุ่มจับเอาแต่ดวงดาวบนฟากฟ้ามาทำนายกัน ซึ่งมีผิดบ้างถูกบ้างคละเคล้ากันไป บางคนเหวี่ยงแหแบบครอบจักรวาลก็มีให้เห็นอยู่เสมอ โดยหารู้ไม่ว่าโหราศาสตร์ที่แท้จริงนั้นคืออะไรกันแน่ ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ต้องการค้นหาทิศทางที่ถูกต้องและเป็นจริงเสมอมา แต่มีน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จสมความมุ่งหมาย พอเริ่มเรียนก็เริ่มเดินเข้าป่าเสีย แล้วในที่สุดก็คว้าน้ำเหลว เลยฉวยโอกาสด่าแบบไม่เลี้ยงว่าเป็นวิชาอัปยศอดสูและเดียรัจฉานวิชาอยู่บ่อยๆ ...
วิชาโหราศาสตร์ตามความเป็นจริงนั้นเป็นเรื่องของโลกโดยเฉพาะ มีความเกี่ยวข้องกับดวงดาวเพียงคลื่นแสงเท่านั้น คลื่นแสงนี่แหละคือ
ตัวกระตุ้นให้คลื่นธาตุของโลกเกิดการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของแสง วิชาโหราศาสตร์จึงกลายเป็นศาสตร์ลึกลับที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้พื้นโลก ...
มวลสารแห่งธาตุทั้ง ๔ ซึ่งเราเข้าใจกันว่าเป็นลักษณะของนามธรรม อันนามธรรมย่อมผูกสัมพันธ์กับรูปธรรมตลอดเวลา โลกในทัศนะของโหรสมัยโบราณ เชื่อถือกันว่าไม่ใช่ดวงดาว จึงไม่นำมาใช้ในลักษณะของกลุ่มดวงดาว ต่อมาจึงได้ค้นพบเรื่องราหูเข้า ราหูก็คือโลกเรานี่เอง แต่เราเอาเงาของโลกมาเป็นเรื่องของราหู และราหูนี้เองได้กลายมาเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ที่แท้จริง จุดตรงนี้เองบรรดาเกจิอาจารย์ในระยะต่อมาได้ถกเถียงกันโดยให้เหตุผลแตกต่างยากที่จะยอมรับกันได้ บางกลุ่มก็ว่าโลกกลม บางกลุ่มก็ว่าโลกแบน ในประเทศอังกฤษถึงตั้งสมาคมโลกแบนกันขึ้น แม้จะเนิ่นนานนับศตวรรษมาแล้ว สมาคมโลกแบนในปัจจุบันได้ข่าวว่ายังมีอยู่ ...
ผู้เขียนเกิดมาในยุคปัจจุบัน ได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลมานาน ต้องยอมรับโดยไม่มีข้อสงสัยว่า ราหูคือโลก หรือ โลกก็คือราหู นั่นเอง ใครจะว่าเป็นเรื่องเหลวไหลงมงายก็ขอยอมรับโดยดุษณีภาพ เนื่องจากผู้เขียนได้ค้นคว้าเรื่องราหูมานานเกือบจะสมบูรณ์ก็ว่าได้ ราหูจึงไม่ใช่เรื่องของดวงดาว และไม่มีดวงดาวมาเป็นบริวารโดยตรง นอกจากดาวจันทร์เพียงดวงเดียวเท่านั้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ครัวให้กับราหู มวลสารระบบธาตุของโลกหรือราหูได้เกี่ยวพันกับคลื่นแสงของดวงดาวในชั้นบรรยากาศเท่านั้น ดังนั้นวิชาว่าด้วยเรื่องของราหูจึงเป็นวิชาที่กว้างขวางมากและไม่สามารถจะนำมาเขียนเป็นตำราได้ถนัดนัก เพราะเป็นเรื่องของนามธรรมเบื้องต้น และเป็น
คัมภีร์ใหญ่เล่มหนึ่งของวิชาโหราศาสตร์ ...
ผู้ปรารถนาจะตั้งต้นเป็นโหรระดับโลก หรืออยากจะไต่เต้าให้ถึงระดับนั้น ควรศึกษาจากดวงโลกให้แตกฉานเสียก่อน และต้องรู้ว่าในแต่ละปีพลโลกมีความเป็น ...
อยู่อย่างไรตกอยู่เรือนราศีไหนเสียก่อน แล้วจึงศึกษาดวงระดับประเทศต่อไป และในที่สุดจึงจะถึงระดับผู้นำประเทศโดยเป็นครั้งสุดท้าย ...
ดวงโลกในเชิงมุมของโหราศาสตร์ ท่านเกจิอาจารย์ได้จัดวางลัคนาไว้ราศีกุมภ์ เอาราหูเจ้าเรือนเกษตรลัคนาไว้ราศีเมษ เพื่อเป็นสื่อขยายเครือข่ายให้กว้างขวางมากขึ้น
เคยมีบางคนที่ตั้งตนเป็นอาจารย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เอาลัคนาโลกไว้ราศีเมษก็มี ลักษณะเช่นนี้เห็นจะไม่ถูกต้องแน่นอน ...
ตัวอย่างเช่นปี ๒๕๓๔ ดวงโลกโคจรเข้าสู่ราศีกันย์ ซึ่งเป็นเรือนมรณะกับลัคนาดวงโลก เรือนมรณะเป็นเรือนที่ขยายความหมายให้กว้างขวาง โดยมีทั้ง
ด้านดีกับด้านเสียควบคู่กัน ปี ๒๕๓๔ พลโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๑ – ๔ หรือดาวอาทิตย์กับดาวพุธ ราศีกันย์เป็นเรือนธาตุดิน หมายถึงพลโลกจากกลุ่มต่างๆ
ตั้งแต่ชั้นปกครองลงมาจนถึงชั้นแรงงาน ได้มีการแปรเปลี่ยนสถานภาพของตนเองหลายอย่าง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงทั้งทางที่ชอบและไม่ชอบ ตามสถานะของบ้านเมือง เช่น
การเลิกล้มหรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง การสิ้นสุดและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่งเสริมงานด้านวิทยาการใหม่ๆ ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองหรือตนเอง พัฒนาการ
แพทย์เพื่อรองรับผู้เจ็บป่วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงสังเขปเท่านั้น ...
เดือนเมษายน ๒๕๓๕ นับแต่วันหลังสงกรานต์ไปหนึ่งวัน ดวงโลกโคจรเข้าสู่ราศีตุล เป็นเรือนสุภะ ชะตาพลโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวอังคารกับ ...
ดาวพระศุกร์ ดาวคู่นี้เป็นคู่มิตร เรือนสุภะหมายถึงการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากเป็นระดับโลกหรือระดับประเทศ จะได้รับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศ ถ้า
ประเทศของตนเดือดร้อน จะด้วยสิ่งใดก็ตาม ความโกรธความเกลียดที่เคยมีต่อกันก็จะกลายกลับมาเป็นมิตร หันหน้าเข้าหาปรึกษากัน ตามหลักวิชาโหราศาสตร์สามารถ
ขยายความออกไปได้อีกมาก เรียกว่าปีนี้พลโลกที่ตกต่ำจนถึงอดอยาก นานาประเทศที่เจริญแล้วจะให้ความช่วยเหลือ หรืออาจจะช่วยพัฒนาบ้านเมืองให้อีกก็ได้ ...
นักโหราศาสตร์บางท่านอาจจะสงสัยขึ้นมาว่า เมื่อพลโลกหรือพลเมืองทั้งโลกตกอยู่ในเรือนมรณะหรือสุภะดังที่กล่าวมานี้ จะเป็นไปได้จริงทุกคนหรือเปล่า เรื่องนี้
โดยหลักวิชาแล้วเป็นไปได้จริง มันอยู่ที่ครูผู้รู้จะสอนให้หรือไม่เท่านั้น เพราะแต่ละขั้นตอนจำเป็นจะต้องนำไปเกี่ยวพันกับชะตาเมืองของประเทศอื่นด้วย หากแต่ประเทศนั้น
ปีจรดวงเมืองของเขาจะเข้าสู่เรือนอะไร และให้ผลอย่างไรแก่ดวงชะตาเมือง ดวงพลโลกก็ให้ปรับเข้าสู่แนวเดียวกัน เรื่องนี้เห็นทีจะสับสนยุ่งยากค่อนข้างมาก
พอสมควร ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มราหูเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มดาว เป็นเพียงการแบ่งภาคมาจากพระราหู เพื่อผลการปรับปรุงแต่งระบบธาตุของโลกเท่านั้น ราหูได้แบ่งภาคมาจาก
พระราหูตามกฎเกณฑ์ถึง ๘ ภาคด้วยกัน เรียกว่า อัฏฐคชนาม คือ ราหูกำบัง ราหูจำบัง ราหูบังเงา ราหูก้อนเส้า เกณฑ์ราหู ราหูเสวย ราหูนักพรต และ
ราหูอวตาร ซึ่งเคยกล่าวมาแล้วในบทความของโหราเวสม์ ประจำเดือนพฤศจิกายน ๒๕๓๔ ...
ราหูเหล่านี้มิได้ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า แต่จะปรากฏอยู่บนพื้นโลกและใต้พื้นพิภพ ราหูเรามองเห็นเพียงภาพเงา แต่ไม่สามารถจะจับต้องได้ แต่เรานำมาเล่นกับ
สิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่เคลื่อนไหวบนโลกได้ ดังเช่นราหูเสวยอายุเป็นต้น ใครๆ ก็มักจะกลัวกันนักหนาหากเมื่อราหูเสวยอายุ บางทีถึงกับเข้าวัดจัดพิธีทำบุญสะเดาะพระเคราะห์
ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ราหูเสวยอายุยังไม่มีใครเคยเห็นราหูเลย นอกจากจะรู้กันเพียงว่าเป็นเงาของโลกจรเข้าหาตัวเราเองเท่านั้น ราหูอุปมาเสมือนสิ่งลึกลับโคจรอยู่ใต้พิภพ
หรือมหาสมุทรไม่สามารถนำมาอธิบายตามรูปลักษณะของดวงดาวได้ ...
...ท่านโหราจารย์พิเภก ...
บรรดากลุ่มโหรในสมัยโบราณ เคยถกเถียงกันมานานว่า โหราศาสตร์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ส่วนมากมักจะเอาวิชาดาราศาสตร์เข้ามาตีขลุมว่าวิชาโหราศาสตร์
และยังกล่าวกันอยู่จนถึงยุคปัจจุบัน ส่วนมากมักจะเรียนผิดทางหรือพบทางตัน ไม่สามารถจะเจาะให้ทะลุปรุโปร่งได้ จึงต้องเลิกราจนเกิดความเคียดแค้นตำหนิว่าเป็น
วิชาเหลวไหลเชื่อถือไม่ได้ บางครั้งกลับถูกด่าแหลกแบบไม่เลี้ยงก็มี อันที่จริงน่าจะเฉลียวใจกันบ้าง ตามประวัติศาสตร์ที่เราเคยเรียนรู้กันมาว่า วิชาโหราศาสตร์มีมาแล้ว
ก่อนพุทธกาลกว่า ๖๐๐ ปี แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อตอนประสูติใหม่ๆ โหรพราหมณ์ได้เคยทำนายไว้ว่า ต่อไปพระองค์ท่านจะได้เป็นพระศาสดาเอกของโลก
และปรากฏว่าเป็นความจริงตามโหรทำนาย ต่อมาพระมหากษัตริย์เกือบทั่วโลกเห็นความสำคัญจึงมีโหรไว้เป็นที่ปรึกษาประจำราชสำนัก ถ้าไม่มีความเป็นจริงหลงเหลืออยู่
บ้าง คงไม่ตกทอดจนมาถึงยุคปัจจุบันนี้หรอก วิชาโหราศาสตร์ก็เหมือนๆ กับวิชาอื่นๆ ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความเสื่อมไปตามยุคตามสมัย เพียงแต่การศึกษาค้นคว้าในสมัยหลังนี้ยังไม่พบทางออกที่ถูกต้องเท่านั้น ...
วิชาโหราศาสตร์นี้มีอาถรรพณ์แปลกกว่าวิชาอื่น ใครที่คิดอยากจะศึกษา หากไม่ซื่อสัตย์ต่อครูผู้สอนแล้วจะเกิดอาเพศให้ไขว้เขวออกนอกลู่นอกทาง
และลืมเลือนไปหมด สมัยก่อนครูผู้รู้ก่อนจะสอนให้ใคร ต้องคิดทบทวนกันอยู่ช้านาน ถ้าเห็นไม่แน่ใจจะงดการสอนทันที การสอนแต่ละคนจะต้องมีพิธียกครู จัดตั้ง
เครื่องสังเวยตามแบบฉบับของแต่ละครู สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ บายศรี ๙ ยอด ยอดที่ ๙ คือบายศรีพระเกตุ ส่วน ๘ ยอดคือบายศรีพระราหู จัดตั้งล้อมรอบบายศรีพระเกตุ
สำหรับดอกไม้บูชาเขาใช้ดอกไม้สีม่วง เช่นดอกอัญชันหรือดอกมะเขือ เป็นต้น อัญเชิญวิญญาณพระฤาษี ๑๘ พระองค์มาประชุมเป็นสักขีพยาน เนื่องจากพระฤาษีเป็น
พระอาจารย์ฝ่ายโหราศาสตร์โดยตรง วิชาโหราศาสตร์แม้จะลึกลับสับสนยากแก่การศึกษาก็จริงอยู่ แต่ไม่พ้นขีดความสามารถที่จะศึกษากันได้ ถ้าหากครูผู้สอนจะขยันฝึก
สอนแก่ศิษย์ของตนเท่านั้น เนื่องจากไม่มีตำราที่ถูกต้องวางขายในท้องตลาดหนังสือทั่วไป ...
อนึ่ง นักศึกษารุ่นต่อไปในอนาคต จงเร่งขวนขวายค้นหากันต่อไปอย่าได้ท้อถอย บทความต่างๆ ที่เขียนมาแล้วตั้ง พ.ศ. ๒๕๐๔ ในหนังสือพยากรณ์สารและโหราเวสม์ รวมถึงตำราต่างๆ จงเก็บรักษาไว้เถิด อนาคตจะเป็นหนังสือที่มีความสำคัญต่อการค้นหาเงื่อนงำต่อไป เพราะผู้เขียนรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร และมีความสำคัญต่อโลกในอนาคตอย่างไร สวัสดี ...