วันตรุษจีน

9 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน

Thu, 01/12/2012 - 09:10 | commart

ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ใกล้เทศกาลวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน คงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่จะได้พบกับญาติมิตรที่ไม่เจอหน้ากันมานาน และบางคนก็อาจได้รับอั่งเปาของขวัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ แต่ในเมื่อนี่คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั้งที หลาย ๆ บ้านก็คงจะมีธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้ามที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างไม่ควรปฏิบัติในวันตรุษจีน

1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน

ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะ ในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง

2. ห้ามสระผมหรือตัดผม

ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป

3. ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง

ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่้ยวข้องกับเลข 4

4. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์

คนจีนมักจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่า คนจนคือคนที่มักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนจึงเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ

5. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน

คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน

6. ห้ามใส่ชุดขาวดำ

เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดงคือสีที่จะนำความโชคดีมาให้

7. ห้ามให้ยืมเงิน

คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คน ๆ นั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น

8. ห้ามทำของแตก

คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย แต่หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น

9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่

คนจีนจะถือคติที่ว่า จะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งคำว่า Hai นี้ มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี

อ่านแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคร้ับ เพื่อจะได้รับเอาโชคลาภ เงินทอง เข้ามาตั้งแต่วันตรุษจีนตลอดจนทั้งปีนี้เลยนะครับ

เตรียมของไหว้ฉลองตรุษจีน

ซาแซ โหงวแซ พระเอกแห่งของเซ่นไหว้

เวลาผ่านไปไวมาก เผลอแปบเดียวรู้ตัวอีกทีว่าใกล้จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่จีนหรือ “ตรุษจีน” นั่นเอง

วันตรุษจีน วันสิ้นปีของชาวจีน โดยก่อน1 วันจะเรียกว่าวันไหว้ ตามธรรมเนียมวันนี้คนจีนจะตระเตรียมอาหาร

สิ่งของเครื่องใช้มงคลต่างๆ เพื่อทำการบวงสรวงเทพเจ้าและเซ่นไหว้บรรพบุรุษ อันเป็นประเพณีที่แสดงออก

ถึงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษและถือเป็นวันรวมญาติ ครอบครัวได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน

ในบรรดาอาหารเซ่นไหว้จะมีทั้งของคาว ของหวานพร้อมสรรพ และทุกสิ่งล้วนมีความหมายที่เป็นมงคล

โดยเฉพาะของคาวนั้น ใครจะเชื่อว่าอาหารที่เรารับประทานกันไปทุกวันจะมีความหมายที่เป็นมงคลขนาดนี้

ในบรรดาของไหว้ที่สำคัญคงจะหนีไม่พ้นชุดเครื่องคาวหลักอย่าง “ซาแซ” หรือชุดของไหว้มงคล 3 อย่าง

ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ บางบ้านมีสมาชิกเยอะหน่อย ทรัพย์มากหน่อยก็จัดเป็นชุด “โหงวแซ” หรือของไหว้ 5 อย่าง

โดยเพิ่มกุ้งและปลาเข้ามา ซึ่งมาจากความเชื่อว่าชุดเนื้อสัตว์นี้มีความหมายแทนสัตว์ทั้งโลกเข้ามาบูชา

บวงสรวงเทพเจ้า

เรามาดูกันว่าของไหว้แต่ละอย่างใน ชุดซาแซ และโหงวแซ มีความหมายมงคลอย่างไรบ้าง

“ไก่” มีความหมายถึงความเจริญก้าวหน้า เกียรติยศ มาจากลักษณะของหงอนไก่ที่เหมือนหมวกขุนนาง

และอาจหมายรวมถึงการรู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบเพราะไก่จะขันในตอนเช้าทุกวันอันเป็นกิจวัตร

ที่ส่งสัญญาณถึงการเริ่มวันใหม่

“หมู” เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ เชื่อกันว่าไหว้หมูจะทำให้ชีวิตสมบูรณ์พูนสุขกินดีอยู่ดี ฐานะมั่งคั่งร่ำรวย

“เป็ด” หมายถึงความสะอาดบริสุทธิ์ และความสามารถอันหลากหลาย รวมไปถึงความมั่งคั่ง การมีมาก

“ปล”า มีความหมายมงคลจากการอ่านออกเสียงของคนจีนแต้จิ๋วที่ เรียกปลาว่า “ฮื้อ”

โดยมีวลีอันเป็นมงคลของจีนที่ว่า อู่-ฮื้อ-อู่-ชื้ง มีความหมายว่า ให้เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์

“กุ้ง” หรือกุ้งมังกร มาจากลักษณะของกุ้งที่หัวใหญ่บ่งบอกถึงความมีบุญวาสนา

นอกจากนี้ยังมีกับข้าวความหมายดีๆ อีกหลายอย่าง เช่น ผัดหมี่ซั่ว เต้าหู้ทรงเครื่อง ผลไม้มงคล เช่น

ส้ม กล้วย ลูกพลับ อาหารหวานอื่นๆ เช่น ขนมเทียน ขนมเข่ง ซาลาเปา ถือเป็นเทศกาลสุดพิเศษ

ที่ชาวจีนให้ความสำคัญมากเพราะถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีอีกปีหนึ่ง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ตรุษจีนนี้อย่าลืมจัดเตรียมของไหว้ความหมายดีเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

เดี๋ยวนี้สามารถหาซื้อของไหว้ต่างๆ รวมทั้งชุดซาแซ โหงวแซ จัดชุดสำเร็จได้ง่ายมีขายกันมากมาย

ตรุษจีนปีนี้ขอให้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตที่ดี ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ อั่งเปาตั่วๆ ไก๊ ทุกท่าน

วันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน (ประมาณเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์) ของทุกปี

วันตรุษจีน 2558 หรือ ตรุษจีน 2015 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 19 กุมภาพันธ์ และวันนี้เรามี บทความวันตรุษจีน 2558 มาฝาก ทั้ง ประวัติวันตรุษจีน วันไหว้ตรุษจีน 2558 วันเที่ยวตรุษจีน และวันจ่าย2558 ตรงกับวันที่เท่าไหร่

ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป สำหรับปี 2558 นี้ วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์

ประวัติวันตรุษจีน วันตรุษจีน 2558

สำหรับที่มาของวันตรุษจีน นั้น เชื่อกันว่าประเพณีนี้มีมานานกว่าสี่พันปีแล้ว จัดขึ้นเพื่อฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เดิมที่ไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกต่างกันตามยุคสมัย นั่นคือเมื่อ 2100 ปีก่อนคริสตศักราชจะเรียกว่า “ซุ่ย” ซึ่งมีความหมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวจูปิเตอร์ จนกระทั่งต่อมาในยุค 1000 กว่าปีก่อนคริสตศักราช เทศกาลตรุษจีนจะถูกเรียกว่า “เหนียน” หมายถึงการเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์นั่นเอง

นอกจากนี้ วันตรุษจีน ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันชุงเจ๋” ซึ่งหมายถึงเทศกาลดูใบไม้ผลิ หรือขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ เพราะช่วงก่อนตรุษจีนนั้นตรงกับฤดูหนาว ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ชาวจีนจึงสามารถทำนา ทำสวน ได้อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวมานั่นเอง

ส่วนการกำหนดวันตรุษจีนนั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ

การเตรียมงานเพื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนั้น จะเริ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) โดยผู้คนจะเริ่มซื้อข้าวของต่างๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้านเรือน และเตรียมทำความสะอาดครั้งใหญ่ ตั้งแต่ชั้นบนลงชั้นล่าง เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไป ภายในบ้าน ทั้งประตู หน้าต่าง จะประดับประดาไปด้วยสีแดง และกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข ฯลฯ

จากนั้นครอบครัวจะร่วมรับประทานอาหารที่ล้วนแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น เช่น กุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรืองและความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งความโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาหร่าย จะนำความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว ทุกคนในครอบครัวจะนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง

สัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน

นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน คือ “อั่งเปา ” ซึ่งมีความหมายว่า “กระเป๋าแดง” หรือจะใช้คำว่า “แต๊ะเอีย” ซึ่งมีความหมายว่า “ผูกเอว” จากที่คนสมัยก่อนชอบร้อยเงินเป็นพวงผูกไว้ที่เอว โดยการให้อั่งเปานี้ คู่แต่งงานจะให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว จะออกมาจากบ้านเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ในหมู่ญาติ และด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า “Let bygones be bygones” (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)

วันตรุษจีน

สำหรับวันตรุษจีน 2558 นี้ ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 19 กุมภาพันธ์นั่นเอง ซึ่งวันตรุษจีนไม่ถือเป็นวันหยุดราชการนะ แต่ตามบริษัทห้างร้านของคนจีนอาจจะอนุญาตให้ลูกจ้างได้หยุดพักผ่อนอยู่กับ บ้าน ถือเป็นวันหยุดพักผ่อนพิเศษสำหรับคนจีน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าบริษัทไหน หรือร้านไหนจะกำหนดให้หยุดได้กี่วัน

วันจ่ายตรุษจีน

ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ว วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก จะเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันก่อนวันสิ้นปี โดยในปี 2558 นี้ วันจ่ายตรุษจีนคือวันอังคาร ที่ 17 กุมภาพันธ์

วันไหว้ตรุษจีน

วันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนก็คือ “วันสิ้นปี” ซึ่งจะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ฯลฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยในปี 2558 นี้ วันไหว้ตรุษจีน คือ วันพุธ ที่ 18 กุมภาพันธ์

วันเที่ยวตรุษจีน

วันเที่ยวสำหรับชาวจีนก็คือ “วันปีใหม่” หรือ “วันตรุษจีน” ซึ่งวันเที่ยวตรุษจีน 2558 คือ วันพฤหัสบดี ที่ 19 กุมภาพันธ์นั่นเอง และเป็น “วันถือ” ด้วย โดยในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เคารพรัก ชาวจีนจะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง

ที่มา: Kapook

เทศกาลต่างๆ ในวัฒนธรรมจีน:

ตรุษจีน (เดือน 1) • เช็งเม้ง (เดือน 3) • ไหว้บ๊ะจ่าง (เดือน 5) • เจ็ดนางฟ้า (เดือน 7)

• สารทจีน (เดือน 7) • เทศกาลพ้อต่อ (เดือน 7) • ไหว้พระจันทร์ (เดือน 8) • กินเจ (เดือน 9) • ตังโจ่ย (เดือน 11)

------------