ลักษณะสมพงศ์ ตามตำราพรหมชาติ
วันนี้มีเรื่องราวลักษณะสมพงศ์ ตามตำราพรหมชาติมาแบ่งปัน โปรดใช้วิจารณญานก่อนตัดสินใจเชื่อ โดยเฉพาะ
หากคู่ของท่านมิได้เป็นไปตามตำรา กรุณาอย่าได้ถือเป็น อารมณ์อย่างเด็ดขาดค่ะ
ตามประเพณีไทยแต่เก่าก่อน ชายหญิงใดมีวัยพอสมควรจะมีเหย้ามีเรือนเพื่อสืบสกุลต่อไปภายหน้า
บิดามารดาของทั้งสองฝ่ายก็มักไปหาโหราจารย์ให้หาสมพงศ์เกณฑ์แต่ง งานให้ ดูว่าทั้งคู่จะครองชีวิตอยู่ด้วยกันสุขสบายดีไหม
ถ้าเห็นว่าดีแล้วก็ให้ฝ่ายชายมาทาบทามสู่ขอ พิธีแต่งงานก็เกิดขึ้น โดยบ่าวสาวไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย
ซึ่งก็ ปรากฏว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า สืบลูกหลานต่อมา ข่าวหย่าร้างเหมือนปัจจุบันก็ไม่ค่อยมี
โหราจารย์โบราณมีดีอย่างไร จึงจัดคู่ให้สมหวังกันไปแล้วนับคู่ไม่ถ้วน คงจะต้องพลิกตำราพรหมชาติ
ค้นหาความจริงให้ปรากฏ ความจริงในตำราพรหมชาตินั้น โหราจารย์ ท่านจัดสมพงศ์แต่งงานด้วยปีเกิด
ซึ่งใช้ปีนักษัตรเป็นเกณฑ์และเทียบแต่ละปีเป็น เทวดา ยักษ์ และมนุษย์ ดังนี้
ปีชวด กับ ปีมะโรง เป็นเทวดาผู้ชาย
ปีมะเมีย กับ ปีมะแม เป็นเทวดาผู้หญิง
ปีวอก กับ ปีระกา เป็นยักษ์ผู้ชาย
ปีจอ กับ ปีขาล เป็นยักษ์ผู้หญิง
ปีมะเส็ง กับ ปีฉลู เป็นมนุษย์ผู้ชาย
ปีเถาะ กับ ปีกุน เป็นมนุษย์ผู้หญิง
แล้วโหราจารย์ท่านก็จับคู่สมพงศ์ระหว่างเทวดา มนุษย์ และยักษ์จนได้ลักษณะคู่สมพงศ์ที่ดีที่สุด ดีมาก ค่อนข้างดี จนถึงไม่ดี และสุดท้ายจะมีบางคู่ที่ไม่ควรแต่งงานกันเลย
คู่ที่สมพงศ์กันแล้วดีที่สุดคือ ระหว่างเทวดาผู้ชายกับมนุษย์ผู้หญิง ซึ่งเมื่อเทียบกลับไปที่ปีนักษัตรก็จะได้ว่า
ถ้าท่านเกิด ปีชวด หรือ ปีมะโรง แต่งงานกับคนที่เกิด ปีเถาะ หรือ ปีกุน ท่านจะเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุขราบรื่นดีที่สุด จะประสบความสำเร็จรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต
คู่ที่สมพงศ์กันแล้วดีมากคือ ระหว่างเทวดาผู้ชายกับเทวดาผู้หญิง ซึ่งเทียบเป็นปีนักษัตรก็จะได้ว่า
ถ้า ท่านเกิด ปีชวด หรือ ปีมะโรง แต่งงานกับคนที่เกิด ปีมะเมีย หรือ ปีมะแม ท่านจะเป็นคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ
คู่ที่สมพงศ์กันแล้วดีมากอีกคู่หนึ่งคือ ระหว่างมนุษย์ผู้ชายกับมนุษย์ผู้หญิง เทียบเป็นปีนักษัตรก็จะได้ว่า
ถ้าท่านเกิด ปีมะเส็ง หรือ ปีฉลู แต่งงานกับคนที่เกิด ปีเถาะ หรือ ปีกุน ท่านจะเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความรักใคร่ไม่จืดจาง จะมีอายุยืน มีบุตรบริวารมาก เป็นที่นับถือ แก่คนทั่วไป
ส่วนคู่สมพงศ์ ระหว่างยักษ์ผู้ชายกับยักษ์ผู้ชาย หรือ ยักษ์ผู้หญิงกับยักษ์ผู้หญิง นั่นคือปีวอก จะแต่งกับ ปีระกา หรือ ปีจอ จะแต่งกับ ปีขาล
ล่ะก็ท่านจะเป็นคู่สามีภรรยาที่ดีเหมือนกัน แต่จะมีความรักกันเหมือนเพื่อน เป็นการอยู่กินกันอย่างเพื่อนสนิท มีความสุข ชีวิตราบรื่น
การครองเรือนครองชีวิตจะเป็นไปอย่างไม่มีใครเอาเปรียบใคร
คู่สมพงศ์นอกจากนี้ก็จะมีลุ่มๆดอนๆ ดีบ้างร้ายบ้าง บางคู่อาจดีตอนต้นร้ายตอนปลาย บางคู่อาจร้ายตอนต้นดีตอนปลาย ก็ค่อยประคัับประคองกันไป
จะทะเลาะทุบตีกันอย่างไร ก็อดทนอยู่กันไปอย่างที่ชาวบ้านเรียกว่า คู่เวรคู่กรรมนั่นเอง คนโบราณก็จะโทษว่า เพราะไม่ได้ให้โหราจารย์ตรวจดูสมพงศ์กันก่อนแต่งงาน
ที่มา: หนังสือทศมงคล ของ บ.เอกธำรงจำกัด
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระมหาพรหมสร้าง บุรุษ แล้วจึงสร้าง สตรี ขึ้นมาเป็นคู่กัน
ให้สตรีมี 4 วรรณะ ดังนี้
1. ปัทมินี หรือปทุมนารี นางผู้เปรียบประดุจดอกบ้ว มีกลิ่มกายเหมือนดอกบัว
ผิวกายผุดผ่อง เสียงดังกังวาน ย่างก้าวมีสง่าราศี ไม่มีเลห์หลี่ยมเพทุบาย
สงบเสงี่ยมสำรวม เครื่องประดับแต่น้อย มีความกระดากอายต่อสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ซื่อสัตย์สุจริตมั่นคง
เรียกว่าเป็นสตรีชั้นเลิศ อันเป็นที่ยอดปรารถนา
2. จิตรินี หรือศิลปนารี สตรีผู้มีความฉลาดในเชิงศิลปะ เป็นเสน่ห์ต่อบุคคลที่ได้สมาคมคบหาด้วย
รูปร่างเพรียวระหงดุจเถาไม้เลื้อย ชอบพูดพร่ำพรรณาถึงความรักต่อผู้คบหา ชอบขับร้องเริงระบำ
ชอบเครืองประดับของใช้ราคาสูง กินอาหารเรียบง่าย กลิ่นกายประดุจน้ำผึ้ง
เรียกว่าเป็นสตรีชั้นสองรองจากปัทมินี
3. สังขสินี หรือสตรีหอยสังข์ มีกลิ่นกายคล้ายกลิ่นเกลือ ผอมบาง เดินไม่สำรวมรุกรนรีบร้อน
มีจริตมารยาไม่ซื่อตรง ปากบอน พูดคำหยาบคายเป็นนิจ
เรียกว่าเป็นสตรีชั้นสามรองจากปัทมินี
4. หัสถินี หรือสตรีช้างพัง อ้วนเตี้ย ริมฝปากหนา คอสั้นผิดปกติ เดินลงส้นและห่อตัวไม่สำรวมอริยาบท
ไม่เขินอาย น้ำเสียงแหบห้าว จิตใจโหดร้าย กินอาหารเผ็ดร้อน กลิ่นกายเหม็นเขียว
เรียกว่าเป็นสตรีชั้นสี่รองจากปัทมินี
การแบ่งสตรีตามภูมิกำเนิด 10
1. เทวสตรี จุติมาจากดวงดาวบนสวรรค์ กายสะอาดหมดจด กลิ่นหอมดุจดอกสัตบงกช
มีบริวารมั่งคั่ง
2. มนุษยสตรี กำเนิดจากบรรพบุรุษผู้สถิตบนพิภพ เปนผู้ใจบุญ ซื่อสัตย์ คบหากับผู้ที่ลาดกว่า
3. นาคะสตรี กำเนิดจากชาติดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ในความคุ้มครองของงูพิษใหญ่ นิสัยเซื่องซึม
โกรธง่ายรักง่าย หุนหันพันแล่น
4. ยักษสตรี กำเนิดจากกุมมเทพผู้มีหน้าที่พิทักษ์ขุมทรัพย์ใรที่ต่าง ๆ ชอบเดินทางเป็นนิจ
อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง
5. คนธรรพสตรี กำเนิดจากวิญญาณนักดนตรีประจำสวรรค์ ชอบดนตรีเสียงเพลง ของหอม
จิตใจร่าเริง ชอบประดับอาภรณ์ป็นนิจ
6. ไพศักขสตรี กำเนิดจากโขมดพรายภูตปีศาจชอบริโภคเนื้อและสุรา ของสดดิบคาว ไม่ชอบแยู่เป็นที่
7. อสุรสตรี กำเนิดจากอสระรากษส มีใจหยาบช้าทารุณ โลดโผน
8. กากะสตรี กำเนิดจากกา นัยตากลอกกลิ่งหลุกหลิก โง่เขลา รักไม่แน่นอน
9. วานรสตรี กำเนิดจากลิงโดยตรง ชอบหยิกข่วนกัด รักไม่จริงใจ
10. ฆระสตรี กำเนิดจากฬา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟัง หงุดหงิดไม่ถูกใจบ่อย
ให้บุรุษมี 4 วรรณะ ดังนี้
1. ศาส หรือนายกระต่าย ได้แก่พวกพราหมณ์ของอินเดืย สง่าผึ่งผายแข็งแรง ซื่อสัตย์สุจริต โอบอ้อมอารีไม่เห็นแก่ตัว
2. มิรกะ หรือนายแพะ ได้แก่พวกกษัตริย์ของอินเดืย ร่างกายงดงาม มีอำนาจบังคับบัญชา กล้าหารเชี่ยวชาญศึก รักเกียรติของตน
3. วฤษภ หรือนายโค ได้แก่พวกแพทย์ของอินเดืย กริยากระด้างกร้าวร้าว อารมณ์ฉุนเฉียว ตัวใหญ่ หน้าผากสูง เจ้าสำราญ
ไม่ซื่อตรง คู่ที่เหมาะสมกันคือสตรีแบบ สังขสินี
4. อัศวะ หรือนายอัศดร ได้แก่พวกสูทร์ของอินเดืย รางกายหยาบอัปลักษณ์ ไม่อ่อนโยน คู่ที่เหมาะสมกันคือสตรีแบบ หัสถินี
ที่มา: หนังสือตำหรับรักของฮินดู ของ ระพินทร์