บริการประชาชน กระทรวงแรงงาน
ส่วนบัญฑิตจบใหม่ นักศึกษา ที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการ
มีเงินกองทุนอุดหนุนกิจการเริ่มต้นให้
ติดต่อ หน่วยบ่มเพาะ 56 แห่งทั่วประเทศ
เว็บไซท์ หางาน งานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ งานเอกชน สอบ ก.พ. สอบราชการ
หางาน ตามสายอาชีพ ตามประเภทธุรกิจ ของกิจการ
-------------------------------------------------------
เป้าหมายการลงทุนพัฒนาถึงปี พ.ศ. 2570
เรื่องแรงงานและค่าจ้างของคนไทย
รายได้ประชากรไทยต่อหัวต่อปี พ.ศ. 2570 จะอยู่ที่ 544,213 บาท
รายได้ประชากรไทยต่อหัวต่อปี พ.ศ. 2554 อยู่ที่ 155,926 บาท
- การเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันต่าง ๆ
เกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและบริการ
- เพิ่มงานวิจัยและการพัฒนา พ.ศ. 2557 ให้มากกว่าร้อยละ 1 ของ GDP ต่อปี
- โครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน
- การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรีกล่าว 22 มค. 2556
--------------------------------------------
กฏหมายแรงงานไทย
ค่าตอบแทนการทำงาน จะเป็นตัวเงิน หรือไม่ใช่ตัวเงิน ก็ถือว่าเป็นค่าจ้างได้
ข้อบังคับการทำงาน ต้องกำหนดวิธีการจ่ายค่าจ้างไว้ด้วย
เช่น ทำวันจันทร์ถึงวันศุกร์ 8.00 น. - 16.00 น. จ่ายวันที่ สิ้นเดือนของทุกเดือน
วันหยุดตามประเภณีอย่างน้อย 13 วันใน 1 ปี วันอะไรบ้าง เป็นต้น
แรงงานค่าจ้างขั้นต่ำ วันละ 300 บาทต่อวัน
ค่าอาหาร ค่าที่พัก ถือว่าเป็นค่าจ้าง
เบี้ยขยัน เงินช่วยเหลือบุตร ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้าง
ค่าจ้างล่วงเวลา ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าต่อชั่วโมงการทำงาน
วันละ 500 วันละ 8 ชั่วโมง คำนวนได้ชั่วโมงละ 62.50 บาท
62.50 x 1.5 x ชั่วโมงที่ทำจาก 16.00 น.
ค่าจ้างวันหยุด รายเดือนไม่น้อยกว่า 1 เท่าต่อชั่วโมงการทำงาน
เดือนละ 15,000 วันละ 8 ชั้วโมง คำนวนได้วันละ 500 บาท ได้ชั่วโมงละ 62.50 บาท
62.50 x 1 x ชั่วโมงที่ทำ
รายวันไม่น้อยกว่า 2 เท่าต่อชั่วโมงการทำงาน
วันละ 300 วันละ 8 ชั่วโมง คำนวนได้ชั่วโมงละ 62.50 บาท
62.50 x 2 x ชั่วโมงที่ทำ
ค่าจ้างล่วงเวลาวันหยุด ไม่น้อยกว่า 3 เท่าต่อชั่วโมงการทำงาน
วันละ 500 วันละ 8 ชั่วโมง คำนวนได้ชั่วโมงละ 62.50 บาท
62.50 x 3 x ชั่วโมงที่ทำจาก 16.00 น.
นายจ้างมีสิทธิหักเงินค่าจ้างจากลูกจ้างได้ 5 กรณีเท่านั้น
- หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่ลูกจ้างต้องจ่าย
- หักค่าบำรุงสหภาพแรงงาน ที่ลูกจ้างเป็นสมาชิกสหภาพ
- หักเงินชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ที่ลูกจ้างเป็นสมาชิกอยู่ ลูกจ้างต้องยินยอม
- หักเงินประกันการทำงานเพื่อไปชดไช้ ตามหน้าที่การเงินและทรัพย์สินของลูกจ้าง ลูกจ้างต้องยินยอม
- หักสมทบกองทุนเงินสะสมของลูกจ้าง ลูกจ้างต้องยินยอม
นายจ้างหยุดกิจการชั่วคราว นายจ้างต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 75% ของรายได้ต่อเดือนปกติ ไม่เรียกว่าเป็นค่าจ้าง
เช่น น้ำท่วมโรงงาน, เกิดโรคติดต่อระบาด
------------------------------------------------------------------------------------------
ใครอยากเป็นครู (ต้องว่างงานอยู่นะ)
เป็นครูพี่เลี้ยงสอนนักเรียน ส.ป.ฐ. กำลังเตรียมจ้างครู จากผู้จบ ป.ตรี อัตราจ้าง 15,000 บาท จำนวน 72,794 อัตรา
โดยเตรียมงบประมาณไว้ 8,674 ล้านบาท
มีข่าวเพิ่มเติม กดไปดูเพิ่มเติม
25 กค. 2555
ในกทม. ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ หาเสียงไว้ว่า จะปรับอัตราการจ้างให้ครูพี่เลี้ยง
ผู้จบ ป.ตรี อัตราจ้าง 15,000 บาท
ผู้จบ ป.ว.ส. อัตราจ้าง 10,000 บาท
ผู้จบ ป.ว.ช. อัตราจ้าง 8,600 บาท
-----------------------------------------------------------------------------------------
เอไอเอส แนะแนวว่าที่บัณฑิต ก้าวสู่วัยทำงานที่สดใส ปี 2555
เพราะความสำเร็จในชีวิตคุณ ไม่ได้สิ้นสุดแค่รั้วมหาวิทยาลัย
บ. เอไอเอส เชิญชวนน้องๆว่าที่บัณฑิตทุกคน เดินหน้าสู่ความสำเร็จต่อบนเส้นทางสายอาชีพ ในกิจกรรม “เอไอเอส แนะแนวว่าที่บัณฑิต ก้าวสู่วัยทำงานที่สดใส ปีที่ 5” ในปีนี้เอไอเอสพร้อมเสิร์ฟเคล็ดลับดีๆเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปสมัครงาน ว่าที่บัณฑิตที่เรียนจบ อยากได้งานทำ ต้องทำอย่างไร จึงจะได้ทำงานในอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน พร้อมเปิดโอกาสให้ทดลองสัมภาษณ์งานจริง กับพี่ๆฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้มากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการสรรหาบุคลากรเข้าทำงานกับเอไอเอส
ในปีนี้เราจะสัญจรไปพบกับน้องๆ ทั้งหมด 8 จังหวัด ทั่วประเทศ เริ่มต้นที่ เชียงใหม่ เพชรบุรี กรุงเทพฯ นครปฐม พิษณุโลก ขอนแก่น โคราช และสงขลา น้องๆ ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับเราได้ที่ www.sarnrak.net หรือสอบถามรายละเอียด โทร 08 4466 3366 มาเตรียมความพร้อม และสร้างความมั่นใจให้ตนเองกับ “เอไอเอส แนะแนวว่าที่บัณฑิตก้าวสู่วัยทำงานที่สดใส” กันนะคะ
1. แพทย์ (ผ่าตัด) 165,420-340,000
2. CEO 159,000
3. ทันตแพทย์ 158,770
4. นักกฏหมาย 129,440
5. ธรรมชาติวิทยา (วิเคราะห์-วิจัย) 129,220
6. ปิโต-เอ็นจิเนียร์ 127,970
7. วิศวะ-สถาปัตย์ 125,900
8. ผจก. IT 123,280
9. ผจก. การตลาด 122,720
10. ผจก. การเงิน 116,970
11. นักบิน 115,300
12. ผจก. ฝ่ายขาย 114,110
13. นักจิตรวิทยา 114,040
14. ผจก. งานสายการผลิต 112,100
15. นักฟิซิกซ์ 112,020
ประเทศไทย ผมไม่พบว่ามีสถาบันใดสำรวจ พบแล้วจะนำมาลงให้ทราบกัน
-------------------------------------------------------------------------------------
อาชีพในฝันของคนกรุงเทพมหานคร
1. เจ้าของธุรกิจ ส่วนตัวเล็กๆ
2. แพทย์
3. ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
4.
5. ดารา
สำรวจ 5 สิงหาคม 2555
------------------------------------------------------------------------
ประชาคม อาเซี่ยน เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงินของเราได้อย่างไร
2. ผลกระทบจากอาเซียน.. มีอะไรบ้าง
------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1 - 10
สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1
ชั้น 1 อาคารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(เก่า)ภายในบริเวณกระทรวงมหาดไทย ถนนเฟื่องนครเขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200โทร. 0-2223-2684-5 / 0-2223-6215-6http://www.doe.go.th/office1/รับผิดชอบ เขตดุสิต / ป้อมปราบศัตรูพ่าย / พระนคร / สัมพันธวงศ์สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 2
6 ซอยรัชดาภิเษก 70 ถนนรัชดาภิเษกแขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800โทร. 0-2910-1181 / 0-2910-1183http://www.doe.go.th/office2/รับผิดชอบ เขตจตุจักร / ดอนเมือง / บางซื่อ / บางเขน / หลักสี่สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 3
19 อาคารพงษ์สุภี ชั้น 2 และ 4 ถนนวิภาวดีรังสิตแขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900โทร. 0-2617-6581 / 0-2617-6578http://www.doe.go.th/office3/รับผิดชอบ เขตดินแดง / พญาไท / / ราชเทวี / ห้วยขวางสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 4
438/115 ซอยจันทน์ 47 ถนนจันทร์แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120โทร. 0-2211-6205 / 0-2211-8167 / 0-2211-9584 http://www.doe.go.th/office4/รับผิดชอบ เขตบางรัก / ปทุมวัน / ยานนาวา / สาธร / บางคอแหลมสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 5
125 ห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า ชั้น 4ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700โทร. 0-2434-6575-9http://www.doe.go.th/office5/รับผิดชอบ เขตคลองสาน / ธนบุรี / บางกอกน้อย / บางกอกใหญ่ / บางพลัด
สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 6
อาคารเอสซี พลาซ่า สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(สายใต้ )ชั้น 2ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลีเขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170โทร. 0-2422-3915-17 โทรสาร 0-2422-3913http://www.doe.go.th/office6/รับผิดชอบ เขตตลิ่งชัน / หนองแขม / ภาษีเจริญ/ ทวีวัฒนา / บางแคสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 7 48-48/1 ถนนสุขสวัสดิ์
เขตราษฎณ์บูรณะ กรุงเทพฯ 10150โทร. 0-2427-6109 / 0-2427-5918 / 0-2427-4327http://www.doe.go.th/office7/รับผิดชอบ เขตจอมทอง / ทุ่งครุ / บางขุนเทียน / บางบอน / ราษฎร์บูรณะสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 8
119 อาคารบางนาธานี ชั้น 4-5 ถนนบางนา-ตราดแขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260โทร. 0-2398-7615-6 / 0-2398-6916 / 0-2398-6740http://www.doe.go.th/office8/รับผิดชอบ เขตคลองเตย / บางนา / ประเวศ / พระโขนง / วัฒนา / สวนหลวงสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 9
123/708-710 ซอยนวมินทร์ 98แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ 10230โทร. 0-2948-6009 / 0-2510-3602http://www.doe.go.th/office9/รับผิดชอบ เขตคันนายาว / บางกะปิ/ ลาดพร้าว / วังทองหลาง / บึ่งกุ่ม--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การสมัครงาน
เอกสารประกอบการสมัครงาน
1. จดหมายสมัครงาน คือ หนังสือหรือจดหมายที่ผู้ที่ต้องการจะทำงานเขียน ยื่นต่อสถานที่ประกอบการเพื่อแสดงความจำนงว่า ตนเองต้องการสมัครงาน การเขียนจดหมายสมัครงาน จะไม่เขียนเป็นข้อความยืดยาว และไม่แสดงประวัติส่วนตัวมากนัก ดังนั้น จดหมายสมัครงาน จะเป็นเพียงจดหมายที่แสดงว่าผู้ส่งมีความประสงค์อะไรเท่านั้น
2. ใบประวัติส่วนตัว ( RESUME ) คือ หนังสือที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครงานโดยเน้นแต่ส่วนที่ เกี่ยวข้องหรือข้อมูลที่เสนอให้รับสมัคร หรือสถานที่ประกอบการจะใช้พิจารณาเรียกตัวผู้สมัครงานนั้นไปสัมภาษณ์ หรือเข้างาน แต่จะไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงว่าผู้สมัครงานนั้นมีความสนใจในตำแหน่งงานใดของ สถานประกอบการนั้น
3. ใบสมัครงาน ( APPLICATION FORM ) คือ หนังสือแสดงความจำนงของผู้เขียนใบสมัครที่ประสงค์จะเข้าทำงานกับสถานประกอบ การนั้น ซึ่งส่วนใหญ่แบบใบสมัครงานของสถานประกอบการแต่ละแห่ง เป็นแบบเฉพาะของสถานประกอบการนั้น ผู้สมัครจึงต้องไปเขียนใบสมัครที่สถานที่ประกอบการที่ประสงค์จะสมัครงานด้วย คนเอง รายละเอียดใบสมัครงานควรประกอบด้วยข้อมูลแสดงความจำนงของผู้สมัครงานว่า ประสงค์จะสมัครงานในตำแหน่งใด และข้อมูลในส่วนที่เป็นประวัติส่วนตัวของผู้สมัครประกอบกันจึงจะสมบูรณ์ โครงสร้างจดหมายสมัครงาน
โครง สร้างหรือรูปแบบของการเขียนจดหมายสมัครงานมีมากมายหลายรูปแบบ แต่ที่สำคัญคือ ควรจะต้องระมัดระวังในเรื่องของภาษา สำนวน หลักไวยากรณ์ ต้องมีความสละสลวยพอสมควร และในที่นี้จะแบ่งโครงสร้างของจดหมายออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. โครงสร้างจดหมายที่มีประวัติย่อแนบไปด้วย ( COVERING LETTER )
เหมาะ สมสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มากๆ ควรจะเขียนเป็นจดหมายซึ่งจบใน 1 หรือ 2 หน้ากระดาษ แล้วมีประวัติย่อแนบไปด้วย เพราะถ้าหากต้องการรวมรายละเอียดทั้งหมดเข้าไว้ในจดหมาย ก็จะทำให้จดหมายฉบับนั้นยาว ซึ่งนายจ้างอาจไม่สนใจที่จะอ่านอย่างละเอียดก็ได้ หรืออาจจะใช้กับตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง เพื่อความน่าเชื่อถือ
2. โครงสร้างของจดหมายที่ไม่มีประวัติ ( APPLICATION LETTER )
เหมาะ สำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาใหม่ๆ หรือไม่เช่นนั้นนายจ้างเพียงแต่ระบุว่าให้ส่งจดหมายสมัครงานพร้อมรูปถ่าย เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อาจเขียนจดหมายสมัครงานในรูปแบบนี้ ซึ่งก็รวมรายละเอียดอื่นๆ เข้าไว้ คล้ายกับจดหมายที่มีประวัติรวมอยู่ด้วย
เนื่อง จากประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ คนไทยในประเทศไม่ว่าจะเป็นประชากรที่อยู่ในวัยทำงาน ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ประชากรที่อยู่ในตลาดแรงงาน หรือสถานประกอบการที่ขาดแคลนแรงงานในสาขาที่ต้องการ จะต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แลุควรจะต้องนำบทเรียนเกี่ยวกับแรงงานไทยที่มีผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจ เพื่อนำมาวางแผนและเตรียมความพร้อม เพราะไม่มีใครสามารถจะบอกได้ว่าเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจะวิกฤติมาก ยิ่งขึ้นหรือไม่ และสามารถมองบทบาทของตนเองในสังคมที่เปลี่ยนไปได้
ผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน หรือผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา ไม่ควรเลือกงานและจะต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงจากสภาวะเศรษฐกิจ หากคนใดมีโอกาสศึกษาต่อควรจะศึกษาต่อ และถ้าบุคคลใดมี่ความจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่มี อายุระหว่าง 15-25 ปี ก่อนที่เข้าสู่ตลาดแรงงานควรจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเข้างาน โดยได้รับการแนะแนวอาชีพและการฝึกเตรียมเข้าทำงาน ทั้งนี้จะต้องได้ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อสามารถเลือกประกอบอาชีพได้ตามความถนัดของแต่ละคน
นอก จากจะมีการแนะแนวอาชีพจากกรมการจัดหางานแล้ว เยาวชนจะต้องเตรียมเข้าทำงาน เพื่อเป็นการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นการฝึกอาชีพช่างเบื้องต้นให้แก่เยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี ที่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาภาคบังคับ จนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ และว่างงาน และให้บริการจัดหางาน ทั้งนี้ประชากรในวัยทำงานจะต้องเตรียมตัวก่อนเข้ารับการพิจารณาจ้างงานจาก สถานประกอบการ หรือนายจ้างดังนี้
รู้จักตนเองก่อนสมัครงาน
ความสนใจ ผู้สมัครงานต้องรู้แน่ชัดว่าชอบหรือไม่ชอบงานลักษณะใดบ้าง ถ้าคุณชอบก็หมายความว่าสนใจในงานนั้นด้วย
ความสามารถ โดยประเมินจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาและการทดสอบ
บุคลิกส่วนตัว ว่ามีบุคลิกเหมาะสมกับงานอาชีพใดบ้าง
การศึกษา ว่าอยู่ในระดับ ดี ปานกลาง หรือพอใช้
การฝึกงานในขณะเรียน การฝึกงานอย่างเอาใจใส่ สนใจซักถามเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับงานที่ฝึก ซึ่งจะมีผลต่อความสำเร็จในการหางานทำ
ทักษะในการสื่อข้อความ
ความ รู้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะความรู้ในการใช้ PC คอมพิวเตอร์ การใช้ Software พื้นฐานต่างๆ เช่น Word Processing Lotus และ dBase เป็นต้น
วิชาเอกที่เรียน การเรียนวิชาเอกอย่างมีเป้าหมาย จะช่วยให้ตัวของคุณพบกับความสำเร็จในการมองหางานทำได้เป็นอย่างดี
กิจกรรม นอกหลักสูตร แสดงให้เห็นถึงความสำพันธ์และความสามารถในการเผชิญหน้ากับผู้ที่เราร่วมงาน ด้วย ประสบการณ์ในการทำงานนอกเวลา จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะรับผิดชอบในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ทำงาน
รู้แหล่งข้อมูลการสมัครงาน
การติดต่อเป็นส่วนตัว เช่น ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จักมักคุ้น
สำนัก จัดหางานเอกชน ควรตรวจสอบก่อนว่า สำนักงานนั้นได้จดทะเบียนกับกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแล้ว หรือไม่ เพื่อป้องกันการหลอกลวง
สถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งมีบริษัทหรือหน่วยงานไปปิดรับประกาศสมัครงานไว้เสมอ
กรมการ จัดหางาน โดยติดต่อโดยตรงที่สำนักจัดหางานกรุงเทพ กรมแรงงานจัดหางาน 9 พื้นที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานอำเภอทั่วไป
ประกาศจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุ โทรทัศน์
งานนัดพบแรงงาน เป็นงานที่จัดให้คนหางาน และนายจ้างได้มีโอกาสพบกัน และคัดเลือกกันโดยตรง
รู้ข้อมูลการสมัครงาน
ผู้ สมัครงานควรต้องรู้จักทักษะที่จะไปสมัครงาน ทั้งนี้จะต้องรู้ว่าบริษัทนั้นดำเนินธุรกิจประเภทใด เช่น อุตสาหกรรมบริการ หรือค้าขายผล ผลิตของบริษัทนั้นคืออะไร เช่น เครื่องไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ การเงิน การธนาคาร และที่ตั้งของบริษัท การเดินทางอย่างไร บริษัทมีสวัสดิการ รถรับ-ส่งหรือไม่ และรู้ตำแหน่งงานคือ จะต้องรู้ลักษณะงาน ควรจะทราบว่าตำแหน่งที่ประกาศรับสมัครมีเนื้องานอะไรบ้าง เนื้องานย่อยเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติอย่างไร ตำแหน่งงานที่รับสมัครซึ่งต้องปฏิบัติงานสัมพันธ์กับตำแหน่งใดบ้าง และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น โบนัส เป็นต้น
มีข้อคิดสำหรับการเลือกอาชีพ
ผู้ ที่จะตัดสินใจเลือกอาชีพควรรู้จักตนเองให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะในด้านอุปนิสัย ความสามารถ ความสนใจ บุคลิกภาพ ทัศนคติที่เกี่ยวกับอาชีพนั้น ๆ
ควร มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ลักษณะของงานอาชีพ สถานที่จะศึกษาอาชีพนั้นๆ ความก้าวหน้า และความมั่นคงของงาน ตลอดจนความต้องการของตลาดแรงงาน
พิจารณาว่าอาชีพที่เลือกนั้นเหมาะสมกับความรู้ และความสามารถที่มีอยู่ หรือไม่
กลุ่ม ประชากรที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งกำลังจะจบการศึกษา ควรได้รับการพัฒนาให้มีความพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน มีความรู้ความสามารถ มีคุณภาพ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาบุคลากรควรให้ความสำคัญ และหาแนวทางในการพัฒนาประชากรกลุ่มนี้ให้มีประสิทธิภาพที่จะเข้าสู่ตลาดแรง งาน
สำหรับผู้ที่อยู่ในตลาดแรงงานก็ควรทำ งานไปก่อน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะเปลี่ยนงานในขณะนี้ หรือผู้ที่สถานประกอบการกำลังจะปิดกิจการ ก็ต้องเตรียมตัวรับกับสภาพเศรษฐกิจ ต้องไม่เลือกงาน และสามารถเลือกประกอบอาชีพอิสระได้ โดยนำเงินค่าชดเชยที่ได้รับจากสถานประกอบการมาร่วมกันลงทุน หากผู้ใดไม่มีเงินทุนในการลงทุนในกิจการขนาดเล็กๆ ก็สามารถติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขอความช่วยเหลือได้
นอก จากผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน และผู้ที่อยู่ในตลาดแรงงานแล้ว สถานประกอบการหรือนายจ้างก็ควรต้องเตรียมความพร้อมในการที่จะรองรับ สถานการณ์ในขณะนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การหางานทำในภาวะเศรษฐกิจประชากรในวัยทำงาน จะต้องมีการเตรียมความพร้อม และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้ หากทุกคนมีความพร้อมและสามารถปรับตัวได้จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Applicant signature = ลายเซ็นผู้สมัคร
Applicant Name = ชื่อผู้สมัคร
Application Form = ใบสมัคร
Application Letter = จดหมายสมัครงาน
Applicant = ผู้สมัครงาน
Confidential = ความลับ
Photo Attached here = ติดรูปตรงนี้
Position desired
Expected Salary = เงินเดือนที่ต้องการ
Data Sheet, Resume
Name – Surname = ชื่อ - นามสกุล
Maiden Name = นามสกุลเดิม
Present Address = ที่อยู่ปัจจุบัน
Permanent address = ที่อยู่ถาวร
Postal code =รหัสไปรษณีย์
Age = อาย
Date of Birth = วัน เดือน ปีเกิด
Nationality = สัญชาต
Citizen of = เป็นพลเมืองของประเทศ
Race = เชื้อชาติ
Domicile = ภูมิลำเนา
Religion = ศาสนา
Height = ส่วนสูง
Weight = น้ำหนัก
Colour of eyes = สีตา
Colour of hair = สีผม
Complexion = สีผิว
Marital status = สถานภาพทางการสมรส
Spouse = คู่สมรส
Single = โสด
Occupation = อาชีพ
Dependants = ผู้ที่อยู่ในความอุปการะ
Sex = เพศ
Reference = บุคคลที่อ้างอิง
House’s Registration = สำเนาทะเบียนบ้าน
Married = แต่งงานแล้ว
Widowed = ม่าย
Divorced = หย่าร้าง
Relative = ญาติ
Issued by = ออกให้ โดย
Issued Date = วันที่ออกบัตร
Valid Date / Expire Date = วันที่บัตรหมดอายุ
Student Housing = หอพักมหาวิทยาลัย
Own House = บ้านของตนเอง
Rent House = บ้านเช่า
Live with Parents = พักอยู่กับ พ่อ แม่
Boarding House = หอพัก
Ordainment = บวช
Military Status = สถานภาพทางทหาร
Exempted = ได้รับการยกเว้น
Black slot = จับได้ใบดำ
No Military Service = ไม่มีพันธะทางการทหาร
Conscripted = ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว
Primary School; Elementary = ประถมศึกษา
Secondary School = มัธยมศึกษาตอนต้น
High School = มัธยมศึกษาตอนปลาย
Vocational = อาชีวศึกษา
Bachelor’s degree = ปริญญาตรี
Diploma = อนุปริญญา
Degree Obtained = วุฒิการศึกษาที่ได้รับ
Experiences / Previous Employment = ประวัติการทำงาน
High Vocational Certificate = ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
Person to notify in case of emergency = บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีเร่งด่วน
Vocational Certificate = ประกาศนียบัตรประโยคอาชีวศึกษา
Identity Card No., I.D. Card No.= เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน
Identification Card ( I.D. Card ) = บัตรประจำตัวประชาชน
Personal dataCurriculum vitae, Bio-Data, = ประวัติส่วนตัว
Position applied for / Position sought / = ตำแหน่งที่สมัคร
To be completed in own hand writing = เขียนใบสมัครด้วยลายมือตนเอง
ข้อดีและข้อควรระวังในการเขียนจดหมายสมัครงาน
การ เขียนจดหมายสมัครงานนั้น จะช่วยคุณประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และคุณยังมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นอย่างไม่จำกัด แต่กระนั้นก็มีข้อเสียและข้อควรระวังคือ
ใน กรณีที่คุณต้องการส่งจดหมายสมัครงานไปยังบริษัทหลายๆ บริษัท ก็ควรให้ความระวังอย่าให้ซองจดหมาย และเนื้อความในจดหมายสลับกัน และไม่ควรลืมที่จะทำการตรวจ ทวนตัวอักษร ไม่ควรสะกดผิด ที่สำคัญก็คือระบุตำแหน่งที่ต้องการสมัครให้ถูกต้องซึ่งต้องดูคุณสมบัติของ ตนเองว่าตรงกับที่บริษัทต้องการหรือไม่ ไม่แสดงความต้องการเงินเดือนที่สูงเกินไป และอย่าลืมเซ็นชื่อ
การ เขียนจดหมายสมัครงานไม่ควรเขียนบรรยายสรรพคุณตัวเองจนเกินความจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านคิดว่าคุณโกหก ขี้โม้ หรือเก่งแต่คุยได้ ไม่ควรเขียนจดหมายเยิ่นเย้อวกวน
ขั้นตอนการเขียนจดหมายสมัครงานที่ถูกต้อง
1. เขียน จดหมายถึงบริษัทที่คุณจะสมัครงาน ให้เขียนทีละฉบับ และก่อนจะเขียนจดหมายให้ทำเครื่องหมายหรือจดจำตำแหน่งงานที่คุณจะสมัครให้ดี เพื่อป้องกันการสับสน
2. ทบทวนคุณสมบัติของตัวเองอีกครั้งว่าตนเองมีคุณสมบัติตรงหรือใกล้เคียงกับตำแหน่งงานที่จะสมัครหรือไม่
3. ลง มือเขียนจดหมาย โดยอ่านประกาศโฆษณาให้ดีว่า บริษัทนั้นแจ้งว่าให้เขียนด้วยลายมือ หรือให้พิมพ์ ถ้าไม่ระบุคุณก็ทำตามที่คุณถนัด และอย่าลืมอ่านทบทวนและแก้ใขข้อความ คำผิดให้ถูกต้อง และเซ็นชื่อ นามสกุล
4. เตรียม เอกสารประกอบการสมัครงานให้พร้อม ซึ่งประกอบด้วย ประวัติย่อ สำเนาแสดงวุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน พร้อมด้วยเอกสารอื่นๆ และอย่าลืมรูปถ่ายหน้าตรง 1 รูป ติดไว้ที่เอกสารประวัติย่อ
5. เรียงเอกสารตามลำดับ คือ
ตัวจดหมาย
ประวัติย่อ
สำเนาแสดงวุฒิการศึกษา
สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน
ใบผ่านงาน (ถ้ามี)
เอกสารอื่น (ถ้ามี)
6. ควรเว้นระยะประมาณ 2 สัปดาห์ ลองโทรศัพท์ติดตามจดหมายว่า ทางบริษัทได้รับหรือยัง และจะนัดสัมภาษณ์ได้เมื่อใด
ข้อควรระวังในการเขียนจดหมายสมัครงาน
1. การ เขียนจดหมาย ถ้าสถานประกอบการมิได้กำหนดให้เขียนด้วยลายมือตนเอง คุณควรจะพิมพ์ซึ่งดูดีกว่า แต่ถ้าหากว่าลายมือคุณดี ก็จะเป็นผลดีแก่คุณ
2. อย่าลืมระบุที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อคุณได้สะดวกในจดหมาย หรือประวัติย่อ และถ้ามีโทรศัพท์ที่ติดต่อกับคุณได้ก็ยิ่งดี
3. อย่าลืมลงลายมือชื่อในท้ายจดหมายสมัครงาน
4. อย่า ลืมติดแสตมป์ เพราะจดหมายอาจจะไม่ถึงปลายทาง หรือ ผู้รับอาจโดนปรับถึง 2 เท่า และทำให้คิดว่าคุณเป็นคนเลินเล่อ อาจทำความเสียหายให้กับงานได้หากรับเข้าทำงาน
5. ไม่ควรถ่ายสำเนาจดหมายสมัครงานแบบเขียนฉบับเดียวแล้วส่งไปหลายๆ บริษัท จะถูกมองว่าไม่มีความตั้งใจจะสมัครงานกับเขาจริง
6. อย่า ผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้าตั้งใจจะสมัครงานกับบริษัทใดก็ให้รีบเขียนจดหมาย และรีบส่งจดหมายนั้นภายในวันเดียวกัน จงจำไว้ว่า วันพรุ่งนี้ ไม่มีวันมาถึง