ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม คือ เชื่อว่ามีพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียวเป็นผู้สร้าง โลกและสรรพสิ่ง พระเจ้าองค์นั้น คือ พระยะโฮวาห ศาสนาคริสต์เชื่อว่า มนุษย์มีบาปมาแต่กําเนิด พระเจ้า จึงส่งพระเยซูมาไถ่บาป เชื่อว่าวิญญาณเป็นอมตะ เมื่อถึงวันตัดสินโลกมนุษย์จะไปอยู่ในสวรรค์ หรือในนรก ชั่วนิรันดร เชื่อ

วามีเทวดาอยู่มากมายทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว ซาตานเป็นหัวหน้าฝ่ายชั่วในที่สุดก็จะถูกพระเจ้า ทําลาย

         ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก คําวา Christ มาจากภาษาโรมันว่า Christus และคํานี้มาจากภาษากรีก อีกต่อหนึ่ง คือ คําว่า Christos ซึ่งแปลมาจากคําว่า Messiah ในภาษาฮิบรู คําว่า messiah แปลว่า พระผู้ปลดเปลื้องทุกขภัย

         ศาสนาคริสต์ เกิดในปาเลสไตน์ เมื่อ พ.ศ. 543 โดยคํานวณจากปีเกิดของพระเยซูซึ่งเป็นศาสดา ของศาสนานี้ ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนาที่พัฒนามาจากศาสนายูดายหรือยิว เพราะศาสนาคริสต์นับถือพระเจ้า องค์เดียวกันกับศาสนายูดาย คือ พระยะโฮวาห์ พระเยซูเป็นชาวยิวมิได้ปรารถนาที่จะตั้งศาสนาใหม่ แต่ทรงต้องการปฏิรูปศาสนายิวให้บริสุทธิ์ขึ้น ทรงกล่าวว่า “อย่าคิดว่าเรามาทําลายพระบัญญัติและคําของ ศาสดาพยากรณ์เสีย เรามิได้มาทําลายแต่มาเพื่อทําให้สําเร็จ”

         ก่อนหน้าที่พระเยซูประสูติ ประเทศปาเลสไตน์ ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิใกล้เคียงติดต่อกัน เป็นระยะเวลากว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล ตกเป็นเมืองขึ้นของอัสซีเรีย บาบิโลเนีย จักรวรรดิเปอร์เซีย จักรวรรดิกรีกในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และในที่สุดตกเป็นของอาณานิคม จักรวรรดิโรมัน ตลอดเวลาที่ตกเป็นเมืองขึ้นนี้ ผู้พยากรณ์หลายท่านได้พยากรณ์ถึงพระเมสสิอา (Messiah) พระผู้ช่วยให้รอด ซึ่งเป็นพระบุตรของพระเจ้าที่จะเสด็จมาปลดแอกชาวยิวให้ได้รับเสรีภาพและจะทรงไถ่บาปให้ชาวยิวพ้นจากความหายนะและได้รับความรอดชั่วนิรันดร์ ในสมัยนั้นชาวยิวเชื่อใน คําพยากรณนี้มากและพระเยซูประสูติในช่วงเวลานั้นพอดี พระเยซูเกิดที่หมู่บ้านเบธเลเฮม แขวงยูดาย กรุงเยรูซาเล็ม มารดาชื่อมาเรีย บิดาชื่อโยเซฟ ตามประวัติมาเรียนั้นตั้งครรภ์มาก่อนขณะที่ยังเป็นคู่หมั้น กับโยเซฟ เทวทูตจึงมาเข้าฝันบอกโยเซฟว่า บุตรในครรภ์มาเรียเป็นบุตรของพระเจ้าให้ตั้งชื่อว่า เยซู ต่อมา จะเป็นผู้ไถ่บาปให้กับชาวยิว โยเซฟจึงปฏิบัติตามและรับมาเรียมาอยู่ด้วยโดยไม่สมสู่เยี่ยงภริยา พระเยซูได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เป็นศิษย์ของโยฮัน ศึกษาพระคัมภีร์เก่าจนแตกฉาน ทานมีนิสัยใฝ่สงบชอบวิเวก เมื่ออายุ 30 ปี ได้รับศีลล้างบาปที่แม่น้ําจอร์แดน ตั้งแต่นั้นมาถือว่าท่านสําเร็จภูมิธรรมสูงสุดในศาสนาพระองค์มีสาวก 12 คน เป็นหลักในศาสนาทําหน้าที่สืบศาสนามีนักบุญเปโตร (SaintPeter) เป็นหัวหน้า ผู้สืบตําแหน่ง นักบุญเปโตร ต่อมาจนถึงปัจจุบัน เรียกว่า สมเด็จพระสันตะปาปา พระเยซูเผยแผ่ศาสนาทั่วดินแดน ปาเลสไตน์ เป็นเวลา 3 ปี มีพวกปุโรหิตธรรมาจารยและพวกซีซาร์เกลียดชัง ขณะที่พระองค์รับประทาน อาหารมื้อค่ํากับสาวก 12 คน เป็นมื้อสุดท้าย ทหารโรมันจับตัวท่านในข้อหาเป็นกบฎและถูกตัดสินให้ลงโทษ ประหารชีวิตโดยตรึงกับไม้กางเขนไว้จนสิ้นพระชนม


วิิธีการเผยแผ่คําสอนของพระเยซู พระเยซูใช้วิธีการ 3 วิธีในการเผยแผ่คําสอน คือ

      1. การรักษาบุคคลที่เจ็บป่วยให้หาย คนตายให้ฟื้น เป็นการปลูกศรัทธาของปวงชนให้เกิดมีขึ้นต่ออํานาจของ พระเจ้า

      2. การแสดงความฉลาดในการแก้ปัญหา เช่น เมื่อมีการให้ตัดสินคดีหญิงผิดประเวณี พระเยซูตรัสว่าลงโทษได้ แต่ผู้ลงโทษจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นต้น

      3. การประกาศหลักการแห่งความรัก ความเมตตา กรุณา และกล่าวว่าจงรักศัตรู ท่านจงอธิษฐานเพื่อผู้ที่

ข่มเหง ท่านทําดังนี้แล้ว ท่านจะเป็นบุตรของพระบิดาของท่านในสวรรค