เรื่องที่ 3 แนวทางการปฏิบัติตนตามหลักสิทธิมนุษยชน

จากความเชื่อที่เป็นหลักการแห่งสิทธิมนุษยชน ซึ่งเชื่อในเรื่อง “ศักดิ์ศรีเป็นมนุษยหรือศักดิ์ศรีเป็นคนในมนุษย์ ทุกคนเป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวมาแต่กำเนิด”    นั้นเห็นได้ว่าความพยายามที่ ทำให้มนุษย์ในโลกนี้ได้รับการปฏิบัติ และต้องปฏิบัติต่อบุคคลอื่นด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์อย่างแท้จริง     

        จากการศึกษาที่เราได้ ศึกษาหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยมาแล้ว เห็นได้ว่าเรื่องของสิทธิมนุษยชน นั้น มีทั้งสิ่งที่เป็นเรื่องใกล้ตัวภายในครอบครัว ในสถานที่ทำงาน ชุมชน ท้องถิ่นที่ เราอาศัยอยู่และเรื่องไกลตัวออกไปในระดับประเทศ เป็นเรื่องที่เราเองอาจเป็นต่อบุคคลอื่นและบุคคลอื่นอาจกระทำต่อเรา เช่น ความรุนแรงภายในครอบครัว การทอดทิ้งเด็ก การชุมนุมเรียกร้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย

ลักษณะและเหตุแห่งการละเมิดสิทธิมนุษยชน

 เหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นมีหลายระดับ ในที่นี้เราจะทำความเข้าใจเหตุแห่งการละเมิดสิทธิ มนุษยชนจากใกล้ตัวไปยังสิ่งที่ไกลตัวออกไป

1.ในครอบครัว

การละเมิดสิทธิมนุษยชนในครอบครัว มักจะเป็นการใช้กําลังบังคับ ควบคุม สตรี เด็ก คนชรา ทำให้ได้รับอันตรายทางร่างกายและหรือทางจิตใจ ได้แก่      การทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ ในบางครั้งอาจรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต ก็มีการใช้คําพูด กิริยาอาการที่ไม่สุภาพ ดูหมิ่น เหยียดยาม เอาเปรียบ ละเลย ทอดทิ้ง ไม่รับผิดชอบต่อบุคคในครอบครัว ล่วงละเมิดทางเพศ

สาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในครอบครัว มักเกิดจากบุคคลใกล้ตัวและเกิดจากเพศชายเป็นใหญ่คือ สามี พอ พี่ชาย ที่เกิดจากความเชื่อ ลักษณะทางร่างกาย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต กล่าวคือ เพศชายเป็นเพศที่มีความเขมแข็งแรงในทางร่างกายมากก่วา และมักดื่มสุรา และขาดสติ เกิดปัญหาค่าใชจ่ายไม่พอในครอบครัว อารมณ์เสียหงุดหงิด มีการทำร้ายร่างกายและจิตใจแก่บุคคลใน ครอบครัวที่อ่อนแอกว่า

     ผลที่เกิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในครอบครัว ทำให้ร่างกายของอีกฝ่าย ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งส่งผลต่อจิตใจทั้งสองฝ่ายที่เป็นผู้กระทำ คือ ทำให้เสียใจ โกรธแค้น อับอาย รู้สึกผิด  ในเวลาต่อมาเครียดเป็นต้นทางของการเป็นโรคจิตและอาการเจ็บป่วยทางกายบางโรค เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับอาหารไม่ย่อยมีปัญหาคาใช้จ่ายตามมา เพราะต้องใช้จ่ายเงินไปกับการรักษาตัว ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ เป็นภาระที่ต้องรับผิดชอบภายในครอบครัว ทั้ง ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเล่าเรียนของลูก ฯลฯ และมักจะเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง ครอบครัวแตกแยก เด็กที่เป็นลูกกลายเป็นเด็กเก็บกด มีปัญหา เครียด อาจเกิด การติดเพื่อน ไปทดลองเสพยาเสพติด หรือก่ออาชญากรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยสินเงินทอง

2. ในโรงเรียน

       การละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน มักจะเป็นการใชกําลัง การทำร้ายด้วยวาจาจากครูและ เพื่อนด้วยการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ครูกระทำอนาจารต่อนักเรียน เพื่อนทำร้ายเพื่อนเช่น นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่งรวมตัวกันร้องเรียนให้ ผู้อำนวยการของโรงเรียนออกจากพื้นที่ สาเหตุจากผู้อํานวยการลงโทษเด็กด้วยการตีจนนอง มีเลือดไหลซิบ ขาบวมเป่ง และขาเขียวช้ำ เพียงแค่เพราะนักเรียน ไปนั่งเล่นโรงอาหารในระหว่างที่ครูไม่ได้มาสอน หรืออย่างกรณีคลิปวีดีโอของนักเรียนหญิงตบตีกันหลายคู่ ในโรงเรียน เพียงแค่สาเหตุของการไม่เครารพรุ่นพี่รุ่นน้องหรือเพราะแย่งผู้ชายกัน รวมถึงกรณีครูผู้ชายทำอนาจารนักเรียนผู้หญิง สาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียนมักเกิดจากการที่มีกําลังมากกว่า มีอำนาจเหนือกว่า มีสมาชิกลุ่มที่ใหญ่กว่า ผลที่เกิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียน เช่น ผู้เรียนไม่อยากมา โรงเรียนไม่มีความสุข ผลการเรียนตกต่ำ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

3. ในสถานที่ทำงาน

การละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้านแรงงาน พิจารณาได้จากหลักการสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติ เพื่อแปรหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานสู่          การปฏิบัติ เพื่อให้ทุกคนทํางานในสถานที่ทำงานได้ อย่างเหมาะสม

สิทธิขั้นพื้นฐานที่แรงงานต้องการ ได้แก่ สภาพการทำงานที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จำนวนชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสม การให้ค่าจ้างในระหว่างลาป่วยและอนุญาตให้หยุดงานได้เงินชดเชย ภายหลังเกษียณ เป็นต้น

การละเมิดสิทธิมนุษยชนในที่ทำงานได้แก่ การจ้างทำงานภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ได้รับการควบคุม และไม่ได้รับบการคุ้มครอง เป็นงานที่ไม่มีสวัสดิการหรือการคุ้มครองด้านสังคมใดๆ ซึ่งลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นจากแรงงานในระบบและผู้งานไปทำที่บ้าน หาบเร่ หรือ เกษตรกรรายย่อย แรงงานรับจ้างทั่วไป และแรงงานงานนอกระบบ เช่น คนงานที่ไม่มีนายจ้างเป็นการถาวร คนทำงานบ้านทั่ว ๆ ไป รวมทั้ง การ ทำงานอยู่ในที่ทำงานทีไม่มีระบบควบคุมและคุ้มครองในหน่วยงานต่างๆ   ทั้งภาคเกษตร การผลิต และ บริการ การทำงานของแรงงานนอกระบบ ซึ่งสามารถจัดตั้งองค์กรและมีตัวแทนได้

การละเมิดสิทธิมนุษยชนในที่ทำงาน มีหลายสาเหตุ แต่พบเห็นมากที่สุดเรื่องหนึ่งคือ การล่วงละเมิดทางเพศในสถานที่ทำงาน ซึ่งมีเหตุผลพื้นฐานมาจากการที่นายจ้าง และรับมอบหมายจาก นายจ้างเช่นผู้จัดการ หัวหนางาน ผู้ควบคุมงานฯลฯ มีอำนาจบังคับบัญชาเหนือลูกจ้าง ลูกจ้างต้องเชื่อฟัง และปฏิบัติตามคําสั่งของบุคคลเหล่านี้ นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาที่ไม่ดี อาจใช้อำนาจบังคับบัญชาแสวงหา ความสุข ความพึงพอใจทางเพศจาก ผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้ลูกจ้างต้องถูกล่วงละเมิดทางเพศ เกิดความไม่สบายใจ อึดอัดใจ มีผลเสียต่อการทำงานและผลประกอบการของนายจ้าง

4. การดำเนินการในภาครัฐ

การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการกระทำของภาครัฐ คือ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ กระทำตอประชาชน ทั้งในเรื่องการให้การศึกษา การรักษาพยาบาล การจับกุมคุมขัง การกีดกันสิทธิ บางอย่าง การเลือกปฏิบัติเพราะต่างศาสนา เชื้อชาติ ฐานะ 

ผลของการละเมิดสิทธิมนุษยชนของฝ่ายรัฐ ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจเกิดการรวมกลุ่มต่อสู้เรียกร้องกับฝ่ายรัฐ สร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม

 สาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีทั้งที่กฎหมาย ไม่เหมาะสม การมีอำนาจมากเกินไปของฝ่ายรัฐ การขาดองค์การตรวจสอบถ่วงดุลผู้มีอำนาจ สรุปสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกแห่ง เกิดจากฝ่ายที่มีกําลังมากกว่า มีอำนาจมากกว่า มีพรรคพวกมากกว่า อ่อนแอกว่า จึงเป็นฝ่ายถูกกระทำ ผลของการละเมิดสิทธิมนุษยชน คือ ฝ่ายถูกกระทำ ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ หากปล่อยปละละเลยให้เกิดการละเมิดสิทธิ มนุษยชนในสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ ครอบครัว โรงเรียน สถานที่ทำงาน และในสังคม ประชาชนในสังคมนั้น ย่อมขาดความมั่นคงทางกายและทางจิตใจ

 แนวทางการปฏิบัติตนตามหลักสิทธิมนุษยชน

1) ไม่เป็นผู้กระทำความรุนแรงใด ๆ ต่อบุคคลอื่น

2) ไม่ยอมให้บุคคลอื่นกระทำความรุนแรงต่อตนเอง

3) ไม่เพิกเฉยเมื่อพบเห็นการละสิทธิต่อบุคคลอื่น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลือตามสมควรในส่วนที่ทำได้

4) มีการรวมกลุ่มในภาคประชาชนอย่างเป็นระบบและจัดตั้งเป็นกับองค์กร มูลนิธิเพื่อปกป้อง คุ้มครองผู้อ่อนแอกว่าในสังคม เพื่อให้เกิดพลังในการตรวจสอบเรียกร้องให้รัฐมีการจัดทำกฎหมายที่เกิด ประโยชน์ต่อส่วนรวม

5) รณรงค์ให้มีการเห็นคุณค่าและความสำคัญของการปกครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน