สวัสดีครับ
ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว
เรากักตัวอยู่ที่บ้านก็เกินสามสัปดาห์แล้วเช่นกัน
ตอนนี้สิ่งที่ปวดหัวไม่น้อยไปกว่า
ความกังวลเรื่องโควิด
ก็คือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ที่เพิ่มขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว
แต่ถ้ามันทำให้เราลืมโควิดไปได้
มันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรใช่ไหมครับ
.
วันนี้เราจะมาเรียนคำศัพท์
ที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่องต่าง ๆ กัน
คำว่า 'ค่าใช้จ่าย' ในบริบททั่ว ๆ ไป
ในภาษาอังกฤษเราจะใช้คำว่า 'expense'
* There are many ways to cut unnecessary expenses.
* มีหลายวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
* It's better for us to cut down on our expenses.
* เราควรจะลดค่าใช้จ่ายลงบ้าง
.
เราใช้ 'to spend money on something'
กับ 'to waste money on something'
ในความหมายว่า 'ใช้เงิน/หมดเงินไปกับอะไร'
* During quaratine, how much have you spent on food?
* ในช่วงกักตัว คุณจ่ายค่าอาหารไปเท่าไรแล้ว
* Don't waste your money on unnecessary items!
* อย่าหมดเงินไปกับของที่ไม่จำเป็นนะ!
.
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในแต่ละประเภท
มีความแตกต่างกัน และในภาษาอังกฤษ
เราใช้คำศัพท์ต่างกันด้วยครับ
เรามาดูกันเลยดีกว่า
.
1. คำแรกเลยคือ 'bill' หมายถึงค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เขาส่งบิลมาเรียกเก็บ 'ค่าไฟฟ้า' (Electricity bills) ค่าน้ำ (Water bills) ค่าโทรศัพท์ (Mobile phone bills) ค่าบัตรเครดิต (Credit card bills)
* Credit card bill payment can be made online.
* บิลค่าบัตรเครดิตสามารถชำระผ่านทางออนไลน์ได้
* The elecricity bill must be paid in full by the end of this month.
* บิลค่าไฟฟ้าต้องชำระเต็มภายในสิ้นเดือนนี้
.
เราใช้ 'pay the bill'
ในความหมายว่า 'จ่ายค่า ...'
และ 'cut หรือ reduce the bill'
ในความหมายว่า 'ลดค่า ...'
.
และในที่นี้ 'bill' ยังรวมถึงค่าอาหาร
ที่ไปกินที่ร้านอาหารด้วย
เวลาเราจะเรียกเก็บเงิน เราชอบใช้ 'เช็กบิล'
แต่รู้ไหมครับว่าคำนี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ
อย่าไปเผลอใช้เชียวนะครับ!!
คำว่า 'check' กับ 'bill' ไม่มีวันใช้คู่กันครับ
.
ถ้าจะเรียกเก็บเงิน ให้เลือกใช้ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ครับ
* May I have the bill, please?
* May I have the check, please?
* Bill, please.
* Check, please.
.
เราได้แต่รอให้โควิดหมดไป
จะได้ฝึกใช้สำนวนข้างบนนี้ที่ร้านอาหารนะครับ
.
ส่วนบิลที่ยังไม่จ่ายหรือค้างชำระ
เราใช้ 'outstanding/unpaid bills'
ใครยังไม่ได้ รีบจ่ายนะครับ
เดี๋ยวนี้เราทำทางออนไลน์ได้สบาย
.
2. คำที่สอง เราใช้ 'fee'
หมายถึงค่าธรรมเนียม ค่าบริการ ค่าสมาชิก
หรือสิ่งที่จ่ายให้กับบุคลากรทางวิชาชีพ
เช่น ค่าเข้าชมสถานที่ (Entrance/admission fees)
ค่าบริการรายเดือน (Monthly fees)
ค่าเทอม (Tuition fees)
ค่าส่ง (Delivery fees)
ค่าธรรมเนียมสมาชิก (Membership fees)
ค่าสมัครสมาชิก (Subscription fees)
ค่าธรรมเนียมการยกเลิก (Cancelation fees)
* Lineman has launched a special campaign which includes promised delivery time and delivery fees starting at only 10 baht.
* ไลน์แมนได้จัดแคมเปญพิเศษ มีทั้งการการันตีส่งอาหารตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ และค่าส่งซึ่งเริ่มต้นที่ราคา 10 บาทเท่านั้น
* Many hotels have agreed to waive all cancelation fees for bookings from March to May 2020.
* โรงแรมหลายแห่งยินดียกเว้นค่าธรรมเนียมในการยกเลิกการจองโรงแรมตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563
.
เราใช้ 'pay the fee'
ในความหมายว่า 'จ่ายค่าธรรมเนียม'
และ 'collect the fee'
ในความหมายว่า 'เก็บค่าธรรมเนียม'
หรือ 'waive the fee'
ในความหมายว่า 'ยกเว้นค่าธรรมเนียม'
.
3. คำที่สาม เราใช้ 'fare'
หมายถึงค่าโดยสาร
ซึ่งน่าจะเป็นค่าใช้จ่าย
ที่เราประหยัดได้มากที่สุดช่วงนี้
เช่น ค่ารถประจำทาง (bus fares)
ค่ารถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS fares)
ค่าแท็กซี่ (Taxi fares)
ค่าแกร็บคาร์ (GrabCar fares)
* Regular bus fares in Bangkok start at 8 baht while air-conditioned ones start from 12 baht.
* ค่าโดยสารรถประจำทางธรรมดาในกรุงเทพฯเริ่มต้นที่ 8 บาท ส่วนค่าโดยสารรถประจำทางปรับอากาศเริ่มต้นที่ 12 บาท
* The taxi fare in Bangkok starts at 35 baht.
* ค่าแท็กซี่ในกรุงเทพฯเริ่มต้นที่ราคา 35 บาท
.
เรามีสำนวน 'to travel half-fare'
ที่แปลว่า 'โดยสารครึ่งราคา'
และ 'to travel full-fare'
ที่แปลว่า 'โดยสารเต็มราคา' ด้วย
.
4. คำที่สี่ เราใช้ 'rent' ในความหมายว่า 'ค่าเช่า'
อาจจะเป็นค่าเช่าบ้าน หรือค่าเช่าห้องก็ได้
* Many people cannot afford to pay the rent during this difficult time.
* หลายคนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเช่าได้ในช่วงที่ยากลำบากเช่น
นี้
.
5. คำที่ห้า เราใช้ 'charge' ในความหมายว่า
ค่าใช้จ่าย ๆ ที่เรียกเก็บหรือต้องจ่าย
เช่น ค่าบริการเพิ่มเติม (Service charge)
ค่าเรียกเก็บเพิ่มเติม (Additional/extra charge)
ค่าธรรมเนียมพิเศษ (Surcharge)
* There is no additional charge for the guided museum tour.
* การชมพิพิธภัณฑ์แบบมีผู้นำชมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
.
นอกจากนี้ยังมีสำนวนอย่าง 'free of charge'
หรือเรียกย่อ ๆ ว่า FOC ซึ่งแปลเป็นไทยว่า
'ไม่มี/ไม่เสียค่าใช้จ่าย' หรือ 'ฟรี' นั่นเองครับ
.
ก่อนจากกันวันนี้
ขอจบด้วยคำศัพท์อีกสองคำคือเงินเยียวยา
หรือเงินที่จ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบ
จากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ภาษาอังกฤษใช้คำว่า
'5,000-baht cash handouts'
หรือ '5,000-baht cash subsidies'
.
ส่วนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
ภาษาอังกฤษใช้คำว่า 'Electric meter deposits'
อาจารย์ ติโรธ ทองนวล
อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาต่างประเทศ
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร