Siamese senna, Siamese cassia, Cassod tree, Thai copperpod
Senna siamea (Lam.) H.S.Irwin & Barneby (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cassia siamea Lam.) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
ต้น เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 8-15 เมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกมีสีเทาถึงน้ำตาลดำแตกเป็นร่องตื้น ๆ ตามยาว แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแคบ ส่วนลักษณะของผลขี้เหล็ก มีลักษณะเป็นฝักแบนกว้าง 1.4 เซนติเมตร ยาว 15-23 เซนติเมตร มีความหนา มีสีน้ำตาล มีเมล็ดหลายเมล็ด
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับกัน ใบเป็นสีเขียวเข้ม มีใบย่อยรูปรี 5-12 คู่ กว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ที่ปลายสุดเป็นใบเดี่ยว ปลายใบเว้าตื้น โคนใบมน ขอบและแผ่นใบเรียบ โดยใบขี้เหล็ก 100 กรัมจะมีเบต้าแคโรทีน 1.4 มิลลิกรัม, ธาตุแคลเซียม 156 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 190 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 5.8 มิลลิกรัม, เส้นใยอาหาร 5.6 กรัม, โปรตีน 7.7 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 10.9 กรัม, พลังงาน 87 กิโลแคลอรี
ดอก จะออกดอกเป็นช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่ง มีดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยงกลมมี 3-4 กลีบ ปลายมน กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายมน โคนเรียว หลุดร่วงง่าย ก้านดอกจะยาว 1-1.5 เซนติเมตร และมีเกสรตัวผู้หลายเกสร และในบรรดาผักผลไม้ไทยทั้งหลาย ดอกขี้เหล็กก็จัดเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีวิตามินซีมากถึง 484 มิลลิกรัมต่อดอกขี้เหล็ก 100 กรัม และยังมีเบต้าแคโรทีน 0.2 กรัม, ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 4 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 1.6 มิลลิกรัม, เส้นใยอาหาร 9.8 กรัม, โปรตีน 4.9 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม และให้พลังงาน 98 กิโลแคลอรี
ผล เป็นฝักแบนยาว กว้าง 1.3 ซม. ยาว 15-23 ซม. หนา สีน้ำตาล เมล็ดมีหลายเมล็ด
ดอก - รสขม
- รักษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลับ ทำให้หลับสบาย
- รักษาหืด รักษาโรคโลหิตพิการ ผายธาตุ
- รักษารังแค ขับพยาธิ
ราก - รสขม
- รักษาไข้ แก้ไข้กลับรักษาโรคเหน็บชา ทาแก้เส้นอัมพฤกษ์ให้หย่อน แก้ฟกช้ำ แก้ไข้บำรุงธาตุ ไข้ผิดสำแดง
ลำต้นและกิ่ง
- เป็นยาระบาย รักษาโรคผิวหนัง แก้โรคกระษัย แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ ขับระดูขาว
ทั้งห้า รสขม
- แก้กระษัย ดับพิษไข้ แก้พิษเสมหะ รักษาโรคหนองใน รักษาอาการตัวเหลือง เป็นยาระบาย บำรุงน้ำดี ถ่ายเส้นทำให้เส้นเอ็นหย่อน แก้พิษทั้งปวง
เปลือกต้น - รสขม
- แก้เส้นเอ็นตึง แก้ริดสีดวงทวาร
กระพี้ - รสขมเฝื่อน
- ถอนพิษไข้ แก้ไข้เพื่อดี แก้กษัยเส้นเอ็น
แก่น - รสขมเฝื่อน
- ถ่ายพิษ ถ่ายเส้น ถ่ายม้าม แก้กษัย แก้ไข้เพื่อกษัย แก้เหน็บชา
- ขับโลหิต แก้เตโชธาตุพิการ ทำให้ตัวเย็น แก้แสบตา แก้กามโรค แก้หนองใน
- รักษาโรคเบาหวาน รักษาโรคหนองใน ใช้เป็นยาระบาย
- รักษาวัณโรค รักษามะเร็งปอด ปอดอักเสบ มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร
ใบ - รสขม แก้ระดูขาว แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ แก้กษัย ถ่ายพิษไข้ พิษเสมหะ ถ่ายพรรดึก
- ตำพอกแก้เหน็บชา แก้บวม
- บำรุงโลหิต ลดความดันโลหิตสูง ขับพยาธิ เป็นยาระบาย
- ดองสุราดื่มก่อนนอนรักษาอาการนอนไม่หลับ
ฝัก รสขม
- แก้พิษไข้เพื่อปิตตะ(น้ำดี) ไข้เพื่อเสมหะ แก้ลมขึ้นเบื้องสูง โลหิตขึ้นเบื้องบน ทำให้ระส่ำระสายในท้อง
เปลือกฝัก - รสขมเฝื่อน แก้เส้นเอ็นตึง แก้กษัย
โดยทั่วไปแล้วนิยมขยายพันธุ์ด้วยการนำเอาเมล็ดมาเพาะ แล้วนำไปปลูกในพื้นที่ที่ต้องการจะปลูก เพราะเป็นวิธีการสะดวกและประหยัดกว่าวิธีอื่น ไม่ยุ่งยากมาก
ต้นขี้เหล็กโดยปกติจะออกดอกออกผลให้เมล็ดเมื่ออายุ 3 ปีขึ้นไป ฝักจะแก่พอที่จะเก็บเมล็ดได้ประมาณเดือนเมษายน – พฤษภาคม สังเกตได้จากฝักแก่จะมีสีค่อนข้างคล้ำหรือ น้ำตาลแก่ การเก็บฝักขี้เหล็กก็จะเก็บจากต้นเลยอย่าปล่อยให้ฝักแก่มาก เพราะเมื่อฝักแก่มากๆ จะแตกคาต้นทำให้เมล็ดร่วงหล่นยากต่อการเก็บเมล็ด เมื่อเก็บฝักมาแล้วให้นำไปตากแดดบนผ้าหรือพลาสติก ฝักจะแห้งและแตกอ้ามาก เมล็ดขี้เหล็กจะหล่นออกมาเอง จากนั้นจึงแยกเมล็ดออก การเก็บรักษาเมล็ดทำได้โดยการนำไปบรรจุไว้ในถุงพลาสติกและปิดปากถุง พอให้อากาศผ่านได้ หรือเก็บในขวดโหลหรือกล่องกระดาษที่มีฝาปิดก็ได้
ในการเพาะเมล็ดขี้เหล็กเพื่อที่จะให้เมล็ดมีอัตราการงอกสูงและได้จำนวนกล้ามาก ควรนำไปแช่น้ำร้อนเดือดคนให้ทั่วกันประมาณ 5 นาที แล้วเทน้ำเย็นลงผสม ทิ้งให้แช่น้ำต่อไปอีก 12 ชั่วโมง จึงนำไปเพาะในแปลงเพาะวิธีนี้ได้ผลดีกว่า การหยอดเมล็ดโดยตรงในแปลงปลูก
การทำแปลงเพาะเมล็ดทำได้โดยการพูนดินขึ้นมาให้สูงจากพื้น 15 เซนติเมตร ขนากว้าง 1 เมตร ยาว
2 – 5 เมตร ขอบแปลงกั้นด้วยไม้ไผ่หรือขอนไม้ทั้ง 4 ด้าน ดินในแปลงเพาะควรเป็นดินร่วนปนทราย หรือดินเหนียวผสมทรายหยาบ หรือแกลบเผาในอัตรา 1 ต่อ 2 หรือ 1 ต่อ 3 หลังจากนั้นหว่านเมล็ดบนแปลงเพาะในอัตราส่วนครึ่งลิตรต่อพื้นที่แปลง 1 ตารางเมตร แล้วกลบเมล็ดรดน้ำให้ชุ่มคลุมแปลงเพาะด้วยฟางข้าวแห้ง หญ้าคาแห้งหรือใบสนก็ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแปลงแห้ง รดน้ำเช้า – เย็น ทุกวัน ประมาณ 7 - 15 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกปล่อยให้ต้นกล้าสูงประมาณ 4 – 6 เซนติเมตร จึงถอนไปชำในถุงพลาสติกบรรจุดินขนาด
10 x 15 เซนติเมตร โดยใช้ไม้จิ้มดินให้เป็นรูแล้วหย่อนกล้าลงไปแล้วบีบให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่อง
อากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรากแห้ง กล้าขี้เหล็กอาจตายได้
สร็จแล้วนำไปวางเรือนเพาะชำโดยวางให้เป็นแถวเป็นแนวเพื่อสะดวกต่อการรดน้ำ ถ้าไม่มีเรือนเพาะชำก็อาจสร้างเรือนเพาะชำอย่างง่ายๆ โดยฝังเสาไม้เป็นโครงมุงหลังคาด้วยทางมะพร้าวให้แสงแดดส่องผ่านได้พอสมควร การบำรุงรักษาให้รดน้ำ
เช้า – เย็น คอยสังเกตว่ามีโรคหรือแมลงรบกวนกล้าไม้ขี้เหล็กหรือไม่ เมื่อกล้าไม้ขี้เหล็กมีความเจริญเติบโตให้คัดต้นที่มีความสูงมากมาจัดเรียง ไว้ที่หัวแปลง โดยจัดเรียงตามลำดับ
ความสูง เพื่อให้กล้าไม้ได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง ถ้าไม่ทำเช่นนี้ต้นกล้าทีสูงกว่าจะบดบังแสงแดดต้นที่เล็กกว่าจะทำให้กล้าต้น เล็กแคระแกรน อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้รากของกล้าไม้ไชลึกลงสู่พื้นดิน เมื่อกล้าไม้ขี้เหล็กมีอายุประมาณ 3 – 4 เดือน หรือมีความสูงประมาณ 20 – 40 เซนติเมตร ก็พร้อมที่จะนำไปปลูกได้
ยอดอ่อน และดอกอ่อน 100 กรัม
– พลังงาน : ยอดอ่อน 139, ดอกอ่อน 80 กิโลแคลอรี่
– น้ำ : ยอดอ่อน 57.8, ดอกอ่อน 74.7 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต : ยอดอ่อน 22.8, ดอกอ่อน 14.3 กรัม
– โปรตีน : ยอดอ่อน 7.7, ดอกอ่อน 4.9 กรัม
– ไขมัน : ยอดอ่อน 1.9, ดอกอ่อน 0.4 กรัม
– กาก (crude fiber) : ยอดอ่อน 3.7, ดอกอ่อน 4.3 กรัม
– ใยอาหาร : ยอดอ่อน 8.2กรัม, ดอกอ่อน ไม่พบ
– เถ้า : ยอดอ่อน 1.6, ดอกอ่อน 1.3 กรัม
– แคลเซียม : ยอดอ่อน 156, ดอกอ่อน 13 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส : ยอดอ่อน 190, ดอกอ่อน 4 มิลลิกรัม
– เหล็ก : ยอดอ่อน 5.8, ดอกอ่อน 1.6 มิลลิกรัม
– วิตามินเอ : ยอดอ่อน 1,197, ดอกอ่อน 8,221 หน่วยสากล (I.U)
– วิตามินบี 1 : ยอดอ่อน 0.04, ดอกอ่อน 0.11 มิลลิกรัม
– วิตามินบี 2 : ยอดอ่อน 0.69 มิลลิกรัม,ดอกอ่อน ไม่พบ
– ไนอะซิน : ยอดอ่อน 1.3, ดอกอ่อน 1.8 มิลลิกรัม
– วิตามินซี : ยอดอ่อน 11, ดอกอ่อน 484 มิลลิกรัม