เป็นพืชในวงศ์ ASCLEPPIADACEAE
Dregea volubilis Stapf
ผักฮ้วนเป็นไม้เลื้อย ที่ขึ้นพันต้นไม้ชนิดอื่น เป็นพันธุ์ไม้ป่าแต่นำมาปลูกกันแพร่หลายในบางท้องที่ เช่น ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามเถามียางขาวๆ ใบกลม ปลายใบแหลมรูปไข่ ไม่มีหูใบ ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบแหลม ฐานใบเว้ากลมเข้าหากันคล้ายใบโพธิ์ ใบสีเขียว หลังใบสีเขียวอ่อนกว่าหน้าใบเล็กน้อย ใบเป็นมันและเห็นเส้นกลางใบชัดเจน ใบกว้าง 4-17.5 เซนติเมตร ยาว 6-21.5 เซนติเมตร ดอกออกเป็นดอกช่อ กลีบดอกสีเขียวอ่อน หรือสีเขียวอมเหลือง ออกดอกเป็นช่อที่ซอกใบหรือตามข้อ แต่ละช่อมีดอกย่อยมากกว่า 20 ดอก ดอกแต่ละดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบเรียง 5 กลีบ แยกกันหรือติดกันที่ฐานเล็กน้อย กลีบดอก 5 กลีบ ติดกันเป็นท่อที่โคน เวลาบานกลีบดอกจะกางออก ผลเป็นฝักคู่รูปหอก ปลายตัด สีเขียวอ่อน และมีจุดตามผิวของฝัก
ในเรื่องสรรพคุณทางยานั้นผักฮ้วนมีชื่อปรากฏในหนังสือตำรายาหลายเล่ม เช่น ในตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม และตำรายาล้านนา ได้บันทึกไว้ว่า เถามีรสเบื่อเอียน มีสรรพคุณในการดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ กระทุ้งพิษไข้ ไข้กาฬและพิษฝี ขับปัสสาวะ แก้ดีกำเริบนอนละเมอเพ้อกลุ้ม ปวดศีรษะ เซื่องซึม ใบใช้ขับปัสสาวะ แก้แผลน้ำร้อนลวก แก้ปวดเนื่องจากแผลอักเสบ แก้พิษ แก้ฝี โดยนำเอาใบสดมาตำให้ละเอียดและใช้ทาบริเวณแผล ในตำรับยาล้านนาได้นำผักฮ้วนมาเป็นส่วนประกอบในยาหลายชนิด เช่น ยาลมมะเรงคุต ใช้กระทุ้งพิษร้อน พิษไข้ พิษฝี พิษกาฬ พิษไข้หัวให้ซ่านออกมา แก้น้ำดีกำเริบ หลับๆตื่นๆ ละเมอเฟ้อพก ช่วยให้อาเจียน ขับพิษ ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา รากผักฮ้วนหมูมีรสเฝื่อน ใช้กระทุ้งพิษ แก้ไข้พิษ ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อน แก้ดีกำเริบ รากผักฮ้วนยังใช้ร่วมกับ หัวถั่วพู รากผักหวานบ้าน ผักตำลึง และหาดเยือง ฝนใส่น้ำซาวข้าวใช้กินบรรเทาอาการปวดหัว ใช้ทำยาประคบโดยใช้หัวกุก หัวก่า หัวข่า รากตาเหินขาวและเหลือง นำมาห่อผ้าและนึ่งประคบบริเวณที่ปวด นอกจากนี้ยังใช้ทำยารักษามะเร็งคุด โดยนำหัวบุก หัวกลอย บอระเพ็ด เปลือกหมี่ ยางพราย เหนี้ยวหมู เปลือกง้วนหมู อย่างละเท่าๆกัน ตำแล้วคั่วบดใส่น้ำมันงานำมาทาถูนวดบริเวณที่เจ็บที่ปวดตามกระดูก และเอ็น ใช้ทาบริเวณที่เจ็บที่เมื่อย นอกจากนี้ผักฮ้วนยังใช้เป็นส่วนประกอบของยาล้านนาอีกหลายตำรับ
จะเห็นได้ว่าผักฮ้วนนั้นเป็นพืชที่มีสรรพคุณและคุณค่าที่มากมายเป็นได้ทั้งอาหารและยาที่ดีดังนั้นจึงเป็นพืชที่ควรหามาปลูกไว้ในบ้าน ในสวน เวลาจะเก็บมาทำยาหรือประกอบอาหารก็ง่ายเพราะว่าอยู่ใกล้มือ อีกทั้งยังมีความแน่ใจในเรื่องของความปลอดภัยเพราะปลูกและดูแลด้วยตัวเอง
เถามีรสเบื่อเอียน รากกระทุ้งพิษ ขับพิษร้อน พิษไข้ พิษไข้หัว พิษผีไข้กาฬ ให้ซ่านออกมาจากภายใน ดับความร้อน ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้พิษน้ำดีกำเริบให้ละเมอเพ้อพก หลับๆ ตื่นๆ น้ำตาตก แสบร้อนหน้าตา ปวดศีรษะ
ผักฮ้วน เป็นผักที่ชาวเหนือและชาวอีสานนิยมรับประทาน ใบอ่อน ยอด และดอกสด ใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือใส่ส้มตำ หรือแกงกับผักชนิดอื่น ผักฮ้วนในช่วงหน้าแล้ง รสอร่อยกว่าหน้าฝน เพราะหน้าฝนผักฮ้วนจะขมมาก แต่หน้าแล้งจะมีรสขมออกหวาน
คุณค่าทางโภชนาการของผักฮ้วน 100 กรัม มีดังนี้
พลังงาน 92.18 แคลอรี
โปรตีน 10.35 กรัม
ไขมัน 2.03 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 8.10 กรัม
แคลเซียม 343.55 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 127.82 มิลลิกรัม
เหล็ก 3.44 มิลลิกรัม
วิตามินเอ (vitamin A) 354.99 อาร์อี (RE)
วิตามินบีหนึ่ง (vitamin B1) 0.11 มิลลิกรัม
วิตามินบีสอง (Vitmain B2) 0.18 มิลลิกรัม
ไนอะซิน (niacin) 1.99 มิลลิกรัม
วิตามินซี (vitamin C) 193.13 มิลลิกรัม
การขยายพันธุ์ : ปักชํากิ่งและเพาะเมล็ด