Bitter melon, Balsam pear, Bitter cucumber, Bitter gourd
ไม้เถา มีมือเกาะ ใบเป็นใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ กว้างยาวประมาณ 4-7 เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นซี่ห่างๆ ใบเว้าเป็นแฉกลึก 5-7 แฉก ใบและลำต้นมีขนสากอยู่ทั่วไป ดอกสีเหลือง ออกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน รูปแตร ปลายกลีบดอกแยกเป็น 5 แฉก เมื่อบานเต็มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร มะระมี 2 ชนิด คือ มะระไทยหรือมะระขี้นก และมะระจีน ซึ่งต่างกันที่ลักษณะและขนาดของผล ผลมะระขี้นก มีขนาดเล็กกว่า ยาว 3-5 เซนติเมตร ผลรูปกระสวย ผิวขรุขระ สีเขียวเข้ม เมื่อสุกมีสีเหลือง ส่วนมะระจีนมีขนาดใหญ่กว่า เส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 เซนติเมตร ยาว 12-30 เซนติเมตร รูปทรงกระบอก สีเขียวอ่อน ผิวขรุขระ ผลมะระทั้งสองชนิดมีรสขม
ลดน้ำตาลในเลือด
มีการวิจัยพบว่า ในเปลือกมะระมีสารชาแรนทิน (charantin) และพอลิเพปไทด์-พี (polypeptide-p) ซึ่งมีสรรพคุณกระตุ้นการเปลี่ยนกลูโคสในกระแสเลือดให้เป็นไกลโคเจนที่ตับ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในตับอ่อน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้
นอกจากนี้ยังมีอีกงานวิจัยหนึ่งที่พบว่าในมะระมีสารไวซีน (vicine) และสารออกฤทธิ์อื่น ๆ ที่เมื่อลองฉีดแบบอินซูลินกับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 1 แล้วพบว่า สารตัวนี้ออกฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ทว่าในคนที่กินยาลดเบาหวานอยู่แล้ว การกินมะระในปริมาณมากอาจทำให้น้ำตาลในเลือดลดจนเกินไปได้นะคะ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังและควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่สกัดมาจากมะระด้วย แต่หากกินมะระเป็นอาหารปกติก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้มากเท่าไร
2. บำรุงตับ
ผศ. ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า มีงานวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่า ในมะระมีสารที่ช่วยเพิ่มเอนไซม์ในการทำลายสารพิษในตับได้ จึงอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีผลดีกับการทำงานของตับในมนุษย์ด้วย
3. ป้องกันมะเร็งเต้านม
ในเรื่องนี้ ผศ. ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า นักวิจัยที่สถาบันมะเร็งพบว่า สารในมะระมีผลช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในหนูกลุ่มที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งเต้านม
4. สมานแผล
รากมะระจีนมีสรรพคุณในการฝาดสมาน โดยในตำรายาไทยพบว่ามีการนำรากมะระจีนไปต้มดื่มรักษาโรคริดสีดวงทวาร แก้บิด และแก้ไข้ได้
5. แก้ไข้
เถามะระจีนมีสรรพคุณใช้ดับพิษร้อน แก้ไข้ แก้บิด โดยนำเถามะระตากแห้งแล้วต้มดื่มเป็นชา
6. ขับพยาธิตัวกลม
เมล็ดของมะระจีนก็มีสรรพคุณในการขับพยาธิตัวกลม โดยเมล็ดมะระจะมีรสขม สามารถนำมาตากแห้งและต้มดื่มเป็นชามะระได้
7. ช่วยให้เจริญอาหาร
เรามักได้ยินคนพูดว่า กินมะระแล้วจะกินอาหารได้อร่อยขึ้น นั่นเพราะสารโมโมดิซีนที่ทำให้มะระมีรสขม มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหาร กินแล้วจะทำให้เราเจริญอาหารมากขึ้น และยังช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับเป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยแก้ท้องผูกด้วย
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต มะระเป็นพืชที่ปลูกง่ายชอบอากาศร้อน เจริญเติบโตเดียว เป็นพืชปีเดียว ลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาวประมาณ 2 – 3 เมตร ปลูกได้ตลอดปี แต่จะได้ผลดีในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ความชื้นในดินต้องเพียงพอ แสงแดดเต็มที่ตลอดวัน อุณหภูมิมีพอเหมาะ 18 – ซ ถ้าอุณหภูมิเย็นจัด จะทำให้การเจริญเติบโตของต้นมะระช้าลง ชาวสวนมักนิยมปลูกมะระหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว หากมีน้ำเพียงพอสามารถปลูกได้ปีละหลายครั้ง
การเตรียมดินและการปลูก เตรียมแปลงปลูกโดยขุดไถดินให้ลึกประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร เพราะมะระเป็นพืชที่มีระบบรากลึกปานกลาง ปรับสภาพของดินให้มีการระบายน้ำได้ดีโดยใส่ปุ๋ยคอก และใส่ปูนขาวในกรณีดินเป็นกรด ทำการยกร่องและหยอดเมล็ดพันธุ์เป็นหลุมๆ โดยหยอดหลุมละ 3 – 4 เมล็ด เมื่อให้น้ำและเมล็ดงอกได้ 2 สัปดาห์ มะระจะมีใบจริงแล้วจะถอนต้นที่อ่อนแอทิ้งไปให้เหลือ 2 ต้นต่อหลุม ระยะปลูกระหว่างหลุมประมาณ 50 – 75 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 1 เมตร ไม่นิยมปลูกมะระโดยการย้ายกล้า เพราะมะระอายุสั้น และเมล็ดพันธุ์มีขนาดใหญ่ ในพื้นที่แปลงปลูก 1 ไร่จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 2 – 4 ลิตร
การปฏิบัติดูแลรักษา
การให้น้ำ ควรให้น้ำสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผลต้องไม่ให้ขาดน้ำ
การพรวนดิน ในระยะแรกหลังจากมะระเริ่มงอกควรทำบ่อยๆ และกำจัดวัชพืชไปด้วย หากปล่อยให้วัชพืชขึ้นในระยะแรกนี้ จะทำให้มะระขาดน้ำ เพราะวัชพืชจะแย่งน้ำแย่งปุ๋ย ในการพรวนดินต้องระวังไม่ให้กระทบกระเทือนรากของมะระ
การให้ปุ๋ย เนื่องจากมะระเป็นผักที่ต้องการผล ดังนั้น สัดส่วนของปุ๋ย N : P : K = 1 : 1 : 1 – 1.5 เช่น ปุ๋ย สูตร 13 – 13 – 21 หรือ 14 – 14 – 21 ในอัตรา 50 – 100 กก./ไร่ ซึ่งปุ๋ยสูตรผสมนี้ควรให้เมื่อมะระมีอายุ 1 เดือน ซึ่งในระยะนี้จะเป็นระยะที่ทำค้าง เมื่อมะระงอกได้ 15 วัน ควรใส่ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียมซัลเฟต โดนหลุมในอัตรา 20 กก./ไร่ ( 1 ช้อนแกงต่อหลุม) และพรวนดินรอบๆต้น
การปักค้าง มะระจะเริ่มเลื้อยเมื่ออายุ 15 วัน ดังนั้นควรปักไม้ค้าง การทำค้างทำได้ 2 แบบคือ ปักไม้ค้างยาวประมาณ 2 – 2.5 เมตร ทุกๆหลุมแล้วเอนปลายเข้าหากันแล้ววางไม้พาดตามแนวนอน 2 ช่วง อีกวิธีคือ ปักไม้ค้างยาว 2 เมตร ทุกๆระยะ 1.5 – 2 เมตร ขนานกับแถวปลูกแล้วใช้เชือกผูกขวางทุกๆระยะ 30 ซม. และผูกทแยงด้วย
การห่อผล ในขณะที่ผลมะระยังเล็กอยู่ กสิกรนิยมห่อผลมะระด้วยกระดาษ ทั้งนี้ เพื่อให้ผลมีสีขาวนวลน่ารับประทาน และยังเป็นการป้องกันแมลงมาเจาะทำลาย และยังป้องกันยาฆ่าแมลงมาโดนผลอีกด้วย ชาวสวนจะทำถุงขนาด 15 – 20 ซม. ห่อผลโดยที่ถุงนี้มีปากเปิดทั้งด้านบนและด้านล่าง และใช้ไม้กลัดเหน็บกับขั้วผลกับถุงด้านบน
การเก็บเกี่ยว เมื่อมะระอายุได้ประมาณ 45 วัน จะเริ่มเก็บผลได้ การเก็บผลควรเก็บทุกๆวัน ถ้าปล่อยให้ผลแก่ติดกับต้นจะทำให้ผลไม่ดก ผลจะร่วงมาก มักนิยมเก็บขณะที่ผลยังอ่อนอยู่ ผลมีสีเขียว ถ้าผลเปลี่ยนเป็นสีครีมและแตก แสดงว่าแก่เกินไป ซึ่งในผลแก่นี้จะมีเมือกสีแดงหุ้มเมล็ด แสดงว่าเมล็ดนี้แก่เต็มที่ สามารถเอาไปปลูกแล้วงอกได้ มะระสามารถจะเก็บทยอยได้ประมาณ 10 ครั้ง ในครั้งหลังๆผลที่ได้จะมีขนาดเล็ก
การเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรเลือกเก็บเมล็ดพันธุ์จากต้นแม่ที่แข็งแรง ผลใหญ่และขนาดสม่ำเสมอ มีลายหยักที่ผิวของผลเป็นทางตรง ต้องควบคุมการผสมละอองเกสร เพื่อป้องกันการกลายพันธุ์ โดยวิธีคือเอาถุงมาสวมดอกตัวเมียที่เพิ่งออกมาแต่ยังไม่บาน และคอยสังเกตดูเมื่อวันที่ดอกบาน เอาเกสรตัวผู้จากดอกในต้นเดียวกันมาจิ้มลงบนเกสรตัวเมีย และสวมถุงกระดาษไว้อย่างเดิม ควรทำเครื่องหมายหรือผูกป้ายไว้ด้วย เพื่อให้รู้ว่าผลนี้เพื่อจะเก็บไว้เอาเมล็ดไปทำพันธุ์ เมื่อผลสุกจะแกะเอาเมล็ดออกจากผลล้างน้ำให้สะอาด แล้วเอาไปผึ่งให้แห้ง ไม่ควรให้โดนแดดจัดมากเกินไป เก็บเมล็ดไว้ในที่แห้งและเห็น เพื่อนำไปปลูกต่อไป
แมลงศัตรู พบว่าแมลงที่เป็นศัตรูที่สำคัญต่อมะระคือ แมลงวันทอง (Fruit fly) เพลี้ยไฟ (Thrips) และเพลี้ยอ่อน (Aphid) โดยที่แมลงวันทองจะทำลายโดยการเจาะผลและวางไข่ในผลทำให้ผลเล็ก แกรน และเน่าเสีย การห่อผลเป็นการป้องกันแมลงนี้ได้ หรืออาจฉีดพ่นยา Malathion หรือ Dimethoate สำหรับพวกเพลี้ยไฟและเพลี้ยอ่อนจะเข้าทำลายโดยการเจาะดูดน้ำเลี้ยงที่ยอด ทำให้ยอดหงิก และเจริญเติบโตช้า ไม่มีดอกและผล การใช้ยาพวกดูดซึม ต้องกะระยะเวลาก่อนเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 15 วัน ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดการสะสมสารตกค้างของพิษยาแก่ผลของมะระได้
โดยข้อมูลจาก www.foodsdatabase.com ได้ระบุคุณค่าทางโภชนาการไว้ว่า ผลมะระ 1 ถ้วยหรือประมาณ 93 กรัม จะประกอบไปด้วย