วัสดุในงานช่างมีหลากหลายชนิดในบทเรียนนี้จะกล่าวถึงวัสดุสำคัญในการสร้างบ้าน

วัสดุมุงหลังคา

วัสดุมุงหลังคามีกี่ประเภท เลือกแบบไหนดี?

ประเด็นสำคัญ

วัสดุมุงหลังคามีให้เลือกหลายประเภท ตั้งแต่กระเบื้องคอนกรีต ดินเผา เซรามิก เมทัลชีท สังกะสี ชิงเกิ้ล และไฟเบอร์ซีเมนต์ เลือกใช้ให้เหมาะกับที่อยู่อาศัยและสไตล์การตกแต่งได้

การเลือกวัสดุหลังคาแบบต่าง ๆ ต้องดูที่สไตล์การตกแต่ง รูปทรง และการบำรุงรักษาที่สะดวก รวมถึงอย่าลืมทำกันซึมป้องกันการรั่วซึมด้วย

       หลังคาถือเป็นปราการด่านแรกของบ้าน ที่เจอทั้งแสงแดด รังสียูวี ลม และน้ำฝน หากเลือกวัสดุมุงหลังคาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน มักก่อให้เกิดปัญหาตามมาเหมือนพายุลูกใหญ่! ไม่ว่าจะเป็น บ้านร้อนอบอ้าว หลังคาเป็นรู กระเบื้องหลังคาแตก หลังคาเบี้ยว รวมถึงน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน 

       แต่ละปัญหาที่กล่าวมา ล้วนก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวบ้าน และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่บานปลาย ก็ควรจะป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ด้วยการเลือกวัสดุหลังคาแบบต่าง ๆ ให้เข้ากับที่อยู่อาศัย วันนี้จระเข้จะพาทุกคนไปรู้จักกันว่าวัสดุมุงหลังคามีกี่ประเภท เลือกแบบไหนดีให้เข้ากับบ้านเรา

1. กระเบื้องคอนกรีต

หลังคากระเบื้องคอนกรีตเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากคอนกรีตตามชื่อ ใช้กับบ้านได้หลากหลายสไตล์สุด ๆ จึงเห็นได้บ่อยตามที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ในบ้านเรา แถมยังทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี ต้านทานลมพายุที่รุนได้ไม้พัดปลิวหลุดออกไป ที่สำคัญคือมีปัญหารั่วซึมน้อย

       ข้อดี: หาซื้อได้ง่าย แข็งแรงทนทาน ต้านทานลมพายุได้ดี

       ข้อเสีย: น้ำหนักเยอะ ต้องดูเรื่องโครงสร้างให้ดี

2. หลังคาดินเผา

กระเบื้องดินเผาเป็นประเภทกระเบื้องที่เหมาะกับบ้านสไตล์ย้อนยุค เป็นวัสดุที่มีอัตราซึมน้ำต่ำมากกว่ากระเบื้องประเภทอื่น ๆ มีส่วนช่วยทำให้บ้านเย็น ลดการเกิดความร้อนสะสมภายในบ้าน แนะนำให้เลือกที่มีการดูดซึมน้ำต่ำกว่า 6% และเลือกที่ป้องกันน้ำ ป้องกันการรั่วซึม และป้องกันการเกิดเชื้อราดำ

       ข้อดี: สวยเป็นธรรมชาติ ช่วยตกแต่งบ้านให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น อีกทั้งยังราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย

       ข้อเสีย: น้ำหนักเยอะ ดูดซึมน้ำได้ดี มีโอกาสเกิดการรั่วซึม

3. หลังคาเซรามิก

กระเบื้องเซรามิกเป็นวัสุดมุงหลังคาที่ได้รับความนิยอย่างมาก เพราะการเคลือบเงาที่ช่วยป้องกันสีซีดจาง รวมถึงไม่ก่อให้เกิดคราบสกปรกหลังฝนตก ที่สำคัญคือมีความแข็งแรงทนทาน ขนาดเท่ากันทุกแผ่น น้ำหนักเบา พร้อมคงความสวยเหมือนใหม่ไม่เปลี่ยนแปลง

       ข้อดี: แข็งแรง ผิวเงางามดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ มีสีสันให้เลือกเยอะเหมาะกับบ้านหลายสไตล์

       ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก

4. หลังคาเมทัลชีท

หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) เป็นหลังคาที่ทำจากเหล็กคอยล์ เคลือบด้วยสังกะสีและอลูมิเนียม แล้วขึ้นรีดให้เป็นแผ่น หรือดัดโค้งได้ตามรูปทรงของหลังคา เวลาติดตั้งก็ง่ายเพราะมาเป็นแผ่นใหญ่ทำให้ใช้เวลาน้อยลง

       ข้อดี: ช่วยสะท้อนความร้อนได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดการกัดกร่อน และการเกิดสนิมได้ดี ที่สำคัญคือราคาไม่แพง

       ข้อเสีย: เมื่อฝนตกจะเกิดเสียงดัง ต้องติดฉนวนเพิ่มเติม

5. หลังคาสังกะสี

หลังคาสังกะสี (Zinc sheet) เป็นหลังคาที่ที่ทำจากแผ่นโลหะเคลือบสังกะสี 100% ด้วยความร้อน ทำให้ได้แผ่นหลังคาที่มีพื้นผิวมันเงา น้ำหนักเบา นำไปติดตั้งต่อได้อย่างสะดวกสบาย ทุกวันนี้นิยมนำมาทำเพิงชั่วคราว หรือหลังคาพื้นที่เลี้ยงสัตว์มากกว่าทำเป็นหลังคาบ้าน

       ข้อดี: ราคาถูก มีหลายขนาด และน้ำหนักเบา สามารถติดตั้งและรื้อถอนได้รวดเร็ว ไม่เกิดการแตกหักได้ง่าย 

       ข้อเสีย: กักเก็บความร้อนเข้ามาในบ้าน เป็นสนิม และเกิดรูรั่วได้ง่าย อีกทั้งมีอายุการใช้งานที่จำกัด

6. หลังคาชิงเกิ้ล

หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ (Shingle Roof) เป็นหลังคาที่ทำจากวัสดุไฟเบอร์หุ้มด้วยยางมะตอยทั้ง 2 ด้าน มีสีสันให้เลือกหลายแบบ โดยชื่อชิงเกิ้ลมาจากการนำวัสดุมาวางซ้อนกัน หรือจัดให้เข้าล็อกกันจนเต็มทั้งหลังคา ส่วนใหญ่พบเห็นได้บ่อยในต่างประเทศมากกว่าในไทย

       ข้อดี: ราคาถูก มีให้เลือกหลายสี ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิม ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์ดั้งเดิม

       ข้อเสีย: ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ไม่ทนต่อลมแรง และมีโอกาสเกิดปัญหาเรื่องเชื้อรา

7. กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์

หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบหลังคากระเบื้องลอนคู่ เป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ผสมเส้นใยสังเคราะห์ เช่น เส้นใยเซลลูโลส เส้นใยซิลิกา แล้วก็นำไปอบไอน้ำแรงดันสูง รีดเป็นแผ่นตามที่ต้องการ ทำให้ได้วัสดุที่เหนียว ยืดหยุ่น และแข็งแรงทนทาน 

       ข้อดี: แข็งแกร่ง หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลายแบบ และไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน จึงปลอดภัยต่อสุขภาพ

       ข้อเสีย: ต้นทุนการติดตั้งค่อนข้างสูง

วิธีเลือกวัสดุมุงหลังคาให้เหมาะกับบ้านของเรา

ดูที่สไตล์ตกแต่งบ้าน ต้องเริ่มจากสไตล์การตกแต่งบ้านกันก่อนว่าจะเลือกใช้สีอะไร ควรเลือกสีหลังคาให้ตัดกัน เช่น ตัวบ้านสีอ่อนหลังคาสีเข้ม ถ้าตัวบ้านสีเข้มหลังคาก็เป็นสีอ่อนจะดีกว่า

ดูที่รูปทรงหลังคา การสร้างหลังคาต้องดูเรื่องรูปทรงและความชันของหลังคาด้วยว่า เมื่อติดตั้งวัสดุที่ต้องการแล้ว จะมีรอยต่อมากเกินไป ที่ทำให้เสี่ยงต่อการรั่วซึมหรือไม่

ดูที่การบำรุงรักษา อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือการบำรุงรักษา ควรเลือกวัสดุที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ล้างทำความสะอาดได้สะดวก ช่วยให้หลังคาบ้านดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

       ที่มา https://www.jorakay.co.th

วัสดุพื้น

วัสดุปูพื้นชนิดต่างๆ

ไม้จริง (Wood)

พื้นไม้จริงหรือ Solid Wood Flooring คือไม้จริงตามธรรมชาติ มีอยู่มากมายหลายชนิดตามพันธุ์ไม้ ตัวอย่าง เช่น ไม้โอ้ค ไม้แอช ไม้เมเปิ้ล ไม้สัก ไม้ตะแบก ไม้มะค่า ไม้แดง และอื่นๆ ทั้งนี้ลูกค้าจะเลือกใช้ไม้ชนิดใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเกี่ยวกับ สีธรรมชาติของไม้ชนิดนั้นๆ อาทิเช่นไม้โอ้คจะมีสีเหลือง ไม้บีชสีจะออกส้ม ไม้เมเปิ้ลจะออกขาวนวลๆ และ ไม้วอลนัทจะออกเป็นสีน้ำตาล เป็นต้น ถ้าเรากล่าวถึงความคงทนของไม้นั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ว่าเป็นไม้เนื้อแข็งหรือเป็นไม้เนื้ออ่อน

       พื้นไม้จริงให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ สามารถทำสีได้ หลากหลาย โดยลายไม้สวยงามเป็นไปตามธรรมชาติ สีเข้มอ่อน สลับกันไปเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดได้ แต่ผิวหน้าอาจไม่แข็งแรงคงทนเมื่อเทียบกับวัสดุ พื้นไม้ลามิเนต อย่างไรก็ตามพื้นไม้จริงนั้นสามารถขัดทำสีผิวหน้าไม้ได้หลายรอบ เมื่อผิวหน้าเป็นรอยหลังผ่านการใช้งานไป หลังจากที่ขัดทำสีออกมา ก็จะได้ไม้เหมือนใหม่อีกครั้งหนึ่ง

แต่หากลูกค้าต้องการติดตั้งพื้นไม้จริงในราคาที่ประหยัดลง ในปัจจุบันมีนวัตกรรมพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ออกมา (Engineer Wood Flooring) ซึ่งเป็นการนำไม้จริงมาแปรรูป ประสานกับไม้ยางพารา เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และประหยัดทรัพยาการไม้ เนื่องจากไม้เอ็นจิเนียร์ คือไม้จริงที่สไลต์ผิวหน้าออกมาประมาณ​ 3-4 มิลลิเมตร และ นำมาประสานกับไม้ยางพาราอีก 10 มิลลิเมตร ทำให้ได้ไม้ที่มีความหนา 13-14 มิลลิเมตร โดยหลังจากนำพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ติดตั้งไปแล้วนั้น แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นไม้ก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นไม้ Solid หรือไม้เอ็นจิเนียร์ แถมพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ยังมีคุณสมบัติที่เด่นดีกว่า พื้นไม้จริง คือ ไม่ต้องขัดทำสีที่หน้างาน เนื่องจากผิวหน้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ได้ถูกเคลือบยูวีมาจากโรงงานแล้ว ดังนั้น เมื่อติดตั้งเสร็จ สามารถใช้งานได้เลย และผิวหน้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ยังมีความคงทนมากด้วย

กระเบื้องยาง (Vinyl Tile)

ปัจจุบันกระเบื้องยางมีการพัฒนาลวดลายออกมาหลากหลาย และที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน คือ กระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งผลิตออกมาลอกเลียนแบบ พื้นไม้จริง และ ทดแทน พื้นไม้ลามิเนต เนื่องจากกระเบื้องยางผลิตจากวัสดุ PVC มีคุณสมบัติทนต่อ น้ำและ ความชื้นได้ดี โดยกระเบื้องยาง มีหลากหลายสี และลวดลายให้เลือก ในอดีตกระเบื้องยางนิยมติดตั้งในโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันกระเบื้องยางถูกพัฒนาให้มีความสวยงามมากขึ้น และ เริ่มแพร่หลายมากขึ้นทั้งในอาคารสำนักงาน และ ที่อยู่อาศัย

กระเบื้องยางในปัจจุบัน มีหลายขนาด ทั้งที่เป็นกระเบื้องยางลายไม้ และ ลายปูนเปลือย  ได้แก่ขนาดความหนา 2,3 และ 4 มิลลิเมตร สำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตั้งพื้นกระเบื้องยางที่มีขนาดความหนา 2 หรือ 3 มิลลิเมตร จะต้องเตรียมพื้นโดยการปรับระดับให้เรียบ โดยการขัดมัน จึงจะทำให้ผลการติดตั้งออกมาสวยงาม เนื่องจากกระเบื้องยางขนาด 2 และ 3 มิลลิเมตร ค่อนข้างบาง ติดตั้งโดยการทากาว หากปรับระดับไม่เรียบ จะเห็นได้ชัดว่าพื้นเป็นคลื่น ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปในกระเบื้องยางความหนา 4 มิลลิมเตรขึ้นไป เนื่องจากพื้นกระเบื้องยางขนาด 4 มิลลิเมตรขึ้นไปจะเป็นวัสดุที่มีลิ้น ติดตั้งด้วยระบบคลิกล็อก โดยไม่ต้องใช้กาวเลย เป็นการปูลอยคล้ายๆกับการติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต แต่ไม่ต้องใช้ฟิล์มโฟมรองพื้นก่อนติดตั้งพื้นกระเบื้องยาง หลังจากติดตั้งเสร็จ จะต้องมีการลง Wax และ ขัด บ่อย ๆ จึงจะมีความเงางาม 

พื้นไม้กันน้ำ หรือ WPC (Wood Plastic Composite)

พื้นไม้กันน้ำ มีส่วนประกอบที่ผลิตจากใยไม้ และ PVC โดยพื้นไม้กันน้ำของดับเบิลฟลอร์ มีขนาดความกว้างของหน้าไม้ที่ 9 นิ้ว และ ยาว 1.40 เมตร ต่อแผ่น ผิวหน้าเป็นลวดลายไม้ที่เหมือนจริง ด้วยนวัตกรรม Registered Emboss คือการผลิตลวดลายที่ผิวหน้าพื้นไม้กันน้ำให้มี texture หรือ ลวดลายที่เหมือนจริง และมีสีให้เลือกมากถึง 8 สี โดยคุณสมบัติเด่นอีกประการคือ พื้นไม้กันน้ำของ ดับเบิลฟลอร์ รองด้วยโฟมดำ ทำให้มีความหนารวมมากถึง 7 มิลลิเมตร ผิวสัมผัสนุ่ม ดูสวยงาม และ ทันสมัย สามารถใช้ติดตั้งแทนพื้นไม้ลามิเนตเดิมได้เลย โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำ และ ความชื้นอีกต่อไป ลูกค้าหลายท่านรีโนเวทพื้นบ้าน และ ห้องคอนโด สำหรับปล่อยเช่า โดยหันมาเลือกพื้นไม้กันน้ำ มากขึ้น เนื่องจากพื้นไม้กันน้ำเป็นวัสดุที่มีความคงทนสวยงาม ทำให้ห้องดูมีราคาแพง และ ไม่ต้องรื้อรีโนเวทพื้นห้องหลังจากที่ผู้เช่าหมดสัญญาบ่อยๆจากปัญหาเดิมๆ คือพื้นไม้บวมน้ำจากความชื้น และ น้ำ

พรม (Carpet)

พรมเเป็นวัสดุปูพื้นที่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมกันแล้ว เนื่องจากคุณสมบัติดักฝุ่น และมีกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์เมื่อใช้ไปนานๆ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ชั้นดีของเชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ทำความสะอาดค่อนข้างยาก และเก่าเร็ว ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โรงแรม ส่วนใหญ่ค่อยๆทยอย รื้อพรมเดิมออก และ ติดตั้งด้วยวัสดุอื่นแทน ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด เห็นจะเป็นวัสดุพื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้จริง และ รองลงมาคือกระเบื้องยาง

พื้นเซรามิก (Ceramic)

หรือ พื้นกระเบื้อง นั้น ค่าใช้จ่าย ในการติดตั้ง ค่อนข้างสูง เนื่องจากจะต้องมีการ เทปูน และยาแนว นอกจากนั้น กระเบื้องคุณภาพดี และลายสวยๆ ยังมีราคาแพงอีกด้วย ตัวกระเบื้องมีคุณสมบัติเก็บความเย็น จึงไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้ใหญ่อาศัยอยู่ เนื่องจากความเย็นที่พื้น ไม่ส่งผลดีให้กับข้อเท้าของสมาชิกในครอบครัว นอกจากนั้น กระเบื้อง หรือ เซรามิก ยังมีน้ำหนักมาก จึงไม่เหมาะสมในการเลือกเป็นวัสดุเพื่อนำมา renovate ชั้นบนของอาคาร หรือ คอนโดมิเนียม หากอาคารนั้นๆ ไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่เหมาะสม นอกจากนี้ วัสดุกระเบื้องนั้นยังยากต่อการซ่อมแซม เนื่องจากการติดตั้งด้วยปูน จึงต้องกระเทาะออก ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง นอนขากนั้นยังมีปัญหา ยาแนวหลุดร่อนได้เมื่อมีการใช้ไปซักระยะหนึ่ง

พื้นไม้ลามิเนต (Laminate Flooring)

จุดแข็งข้อสำคัญของวัสดุปูพื้น พื้นไม้ลามิเนต คือ ราคาที่ถูกกว่าพื้นไม้จริงอยู่หลายเท่า และ การใช้วัสดุพื้นไม้ลามิเนตยังเป็นการลดการตัดไม้ทำลายป่าไปในตัว ด้วยราคาพื้นไม้ลามิเนตที่ถูกกว่า แต่ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาตติ เหมือนวัสดุพื้นไม้จริง จึงทำให้พื้นไม้ลามิเนตเป็นที่นิยมอย่างมากในหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงในประเทศไทยของเราอีกด้วย เราจะเห็นวัสดุพื้นไม้ลามิเนตหลายในหลายๆอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง เช่น คอนโดมิเนียม อพาตเม้นต์ บ้านเดี่ยว บ้านทาวโฮม บ้านแฝด ในอาคาร สำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการ หรือแม้กระทั่งในโรงงานอุตสาหกรรมเอง ยังไช้พื้นไม้ลามิเนตกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้อายุการใช้งานของพื้นไม้ลามิเนตยังยาวนานนับสิบปี อีกด้วย

การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนตที่รวดเร็ว แต่คงทน ทำให้วัสดุพื้นไม้ลามิเนตเป็นวัสดุชูโรงของวัสดุปูพื้นทั้งหลายมานานับสิบปี แม้กระทั่งปัจจุบัน พื้นไม้ลามิเนตยังถูกใช้อย่างแพร่หลาย และมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก พื้นไม้ลามิเนตในปัจจุบันถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรง คงทนสูง กันปลวก และความชื้นได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ผิวหน้าลวดลายของพื้นไม้ลามิเนตยังถูกพัฒนาให้เหมือนไม้จริง ในราคาที่ประหยัดกว่า

       ที่มา https://www.doublefloor.co.th

วัสดุผนัง

ผนังเบา เป็นรูปแบบหนึ่งของผนังที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งมีวัสดุที่หลากหลายที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ ในที่นี้จะให้ทำความรู้จักกับผนังเบาที่ผลิตจากค่าย Shera

 วัสดุผนังเบาภายนอกของ Shera

1. แผ่นผนัง เฌอร่า บอร์ด โปร รุ่นขอบตรง

          แผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า บอร์ด โปร รุ่นขอบตรง เหมาะสำหรับงานผนังเว้นร่อง รองรับการใช้งานหลากหลายทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดยแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า บอร์ด โปร โดดเด่นด้วยนวัตกรรมใหม่ FyberTec เทคโนโลยีที่เฌอร่านำมาใช้รายแรกและรายเดียวในโลก โดยจะช่วยเรียงเส้นใยพิเศษให้เนื้อวัสดุเหนียวกว่าแผ่นสมาร์ทบอร์ดทั่วไปถึง 4 เท่า ช่วยให้เนื้อเหนียว ผิวหน้าเรียบเนียน และช่วยประหยัดสีถึง 20% นอกจากนั้นแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า บอร์ด โปรยังทนน้ำ ทนชื้น ไม่ลามไฟ และหมดปัญหาปลวกและแมลงที่เป็นอันตรายต่อตัวบ้าน

     ผนัง เฌอร่า บอร์ดโปร รุ่น ขอบตรง ขนาด 120 x 240  สีธรรมชาติ ความหนามีหลายขนาด 0.6 ซม.0.8 ซม. 1 ซม. 1.2 ซม

2. แผ่นสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า รุ่นขอบตรงและขอบลาด

          แผ่นสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า รุ่นขอบตรงเหมาะสำหรับงานผนังเว้นร่อง ส่วนรุ่นขอบลาดเหมาะสำหรับงานผนังฉาบเรียบ ติดตั้งง่าย ทนน้ำและทนชื้นได้ดีเยี่ยม ไม่ลามไฟ นอกจากนี้ แผ่นสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า ยังได้รับรองมาตรฐานการผลิตทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมระดับโลก ผู้ใช้งานจึงสามารถมั่นใจได้ในคุณภาพของแผ่นสมาร์ทบอร์ด เฌอร่า

3. ไม้ฝาเฌอร่า รุ่นดีไลน์

          ไม้ฝาไฟเบอร์ซีเมนต์ คือวัสดุทดแทนไม้หรือไม้สังเคราะห์ที่ใช้ปูนซีเมนต์พอร์ตแลน์และเส้นใยเซลลูโลสเป็นวัสดุหลัก เฌอร่าผลิตด้วยนวัตกรรม Hatcheck ชั้นสูงในการรีดน้ำออกจากแผ่นวัสดุให้ได้มากที่สุด ทำให้ไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์แข็งแกร่ง ไม่หดตัวง่าย ไม่ผุ ปลวกไม่กิน ทนน้ำ ทนชื้น และทนทานต่อทุกสภาวะอากาศภายนอก สำหรับไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ เฌอร่า รุ่นดีไลน์นั้นโดดเด่นด้วยเส้นสายลวดลายที่คมชัด เซาะร่องสวย มีให้เลือกทั้งแบบเรียบและแบบลายเสี้ยน พร้อมรูปแบบการเซาะร่องที่มีให้เลือกถึง 5 ดีไซน์สามารถติดตั้งร่วมกันเพื่อรังสรรค์สไตล์ได้หลากหลาย และออกมาให้ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเก็บโป้วหัวสกรู

ไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่า สีธรรมชาติ

4. ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่า รุ่นวิจิตรนนทรี ลายเสี้ยน สีบีช

          ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่าคือ ไม้ยอดฮิตอันดับหนึ่งที่ทุกคนนึกถึงด้วยสัมผัสอบอุ่นธรรมชาติดุจไม้จริง สามารถผสานความสดชื่นของบริบทภายนอกลงในการแต่งบ้านได้ง่ายๆ โดยรุ่นสเปลนดิดจะมอบทางเลือกใหม่ให้แก่งานผนังไม้ เน้นความประณีตของงานด้วยการกลึงขอบแบบงานไม้ธรรมชาติ เหมาะสำหรับนำไปแต่งบ้านทั้งแบบร่วมสมัยและสไตล์โมเดิร์น ติดตั้งง่ายทั้งแบบซ้อนเกล็ดและบังใบได้เรียบเนียน เพิ่มความปลอดภัยด้วยการซ่อนหัวสกรูด้วยระบบบังใบยาว ไร้รอยย้อนเกล็ดระหว่างแผ่น เพื่อการเติมสุนทรียะธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ

          ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่าจำลองสีของไม้บีชที่เป็นไม้ยอดนิยมในแถบสแกนดิเนเวียได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีผิวสัมผัสให้เลือกทั้งแบบเรียบ ลายชัยพฤกษ์ และลายเสี้ยน

5. แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าลายอิฐและลายปูนสลัด

          เพราะเสน่ห์ของสัจจะวัสดุนั้นน่าหลงใหลเสมอ แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าลายอิฐและลายปูนสลัดจึงออกแบบตอบรับกับผู้ที่กำลังมองหาวัสดุที่มีกลิ่นอายดิบเท่สไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ลายอิฐส่งบรรยากาศให้พื้นที่อบอุ่น และงดงามเติบโตไปตามร่องรอยแห่งกาลเวลา ส่วนลายปูนสลัดสามารถนำสัมผัสปูนเปลือยลงสู่พื้นที่ โดยทั้งสองลวดลายได้รับความนิยมด้วยสุนทรียะดุจการเผยเนื้อแท้ของผิวสัมผัส มีสไตล์โดดเด่น ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติทนทาน คุ้มค่า ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา และปลอดสารอันตรายต่อสุขภาพที่ใช้ระหว่างการก่อฉาบปูนแบบเดิม ๆ ได้อีกด้วย

แผ่นผนังตกแต่ง เฌอร่า รุ่น ลายอิฐ ขนาด 120 x 240 x 0.6 ซม. สีธรรมชาติ

6. ไม้ระแนงเฌอร่า สีโอ๊คแดง ชายน์ไลท์

          ไม้ระแนง เฌอร่า รุ่นชายน์ไลท์ เป็นไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ที่เหนือกว่าไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ทั่วไป เพราะรุ่นนี้ได้รับการเคลือบเงาหนาพิเศษด้วยเทคโนโลยี Crystal Coating เน้นเสริมความแข็งแรงให้เนื้อสีติดทนยาวนาน ไม่ซีดจางแม้ผ่านการใช้งานระยะยาว และสีมีมิติดุจไม้ธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี Nano Pigment ลงสีลึกถึงระดับนาโน ไม้จึงมีมิติแวววาวและโดดเด่นกว่าการลงสีแบบอื่น อีกทั้งยังมาพร้อมนวัตกรรมเซลฟ์ คลีนนิ่ง สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ ลดการเกาะของฝุ่น เผยให้เห็นลวดลายคมชัดเหมือนไม้ธรรมชาติโดยแทบไม่ต้องดูแลรักษา ที่สำคัญคือไม้ระแนง เฌอร่า รุ่นชายน์ไลท์ผลิตด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐานระดับประเทศ และยังได้รับฉลากรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ

ไม้ระแนง เฌอร่า รุ่น ชายน์ไลท์ ขอบวี ลายเสี้ยน ขนาด 7.5 x 300 x 0.8 ซม. สีโอ๊กแดง

7. แผ่นผนังตกแต่ง เฌอร่าบอร์ด ลายชัยพฤกษ์

          แผ่นผนังตกแต่ง เฌอร่าบอร์ด ลายลายชัยพฤกษ์ ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีน้ำหนักเบา แต่สามารถเติมเสน่ห์ของธรรมชาติลงในพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย โดยลายชัยพฤกษ์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไม้ชัยพฤกษ์จริง ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นและพิถีพิถัน เหมาะกับแสดงอัตลักษณ์ของเจ้าของบ้านให้แก่ผู้ที่พบเห็น หรือส่งต่อสัมผัสธรรมชาติให้กับผู้อยู่อาศัย แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าบอร์ด ลายชัยพฤกษ์ มีคุณสมบัติทนน้ำ ทนความชื้น และทนต่อแรงกระแทกได้ดี ไม่ลามไฟ และไม่มีปัญหาปลวกและแมลง โดยให้คุณสามารถสะท้อนเส้นสายธรรมชาติในการแต่งบ้านได้ดั่งใจ สามารถตัด ตอก เจาะ และทำสีได้ง่าย ได้รับรองมาตรฐานการผลิตจากทั้งในและนอกประเทศ

8. ไม้ฝาเฌอร่า ลายสัก สีสักทรายทอง

          ไม้ฝาเฌอร่า ลายสัก สีสักทรายทองได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจากไม้สักจริง จำลองธรรมชาติแท้ ๆ ลงในพื้นที่ด้วยความแข็งแกร่งของไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ ไม่หดตัว แข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และให้สัมผัสดุจไม้ธรรมชาติ ไม้ฝาเฌอร่าลายสักยังมีหลายสีและหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ทั้งผิวสัมผัสเรียบและลายเสี้ยน เหมาะแก่การตกแต่งทุกรูปแบบ และติดตั้งง่ายทำให้งานเสร็จได้ไวกว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี พร้อมดีไซน์ที่ซ่อนหัวสกรูทำให้ไม่ต้องเก็บโป๊วหัวสกรู ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว

ไม้ฝา ลายสัก เฌอร่า รุ่น ขอบตรง ขนาด 15 x 300 x 0.8 ซม. สีสักทรายทอง

ไม้ฝา ลายสัก เฌอร่า รุ่น ขอบตรง ขนาด 20 x 400 x 0.8 ซม. สีสักทรายทอง

9. ไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่า รุ่นฟอเรสต้า ลายเสี้ยน สีดาร์ค กราไฟต์

          ไม้ฝาสเปลนดิด เฌอร่า รุ่นฟอเรสต้า เป็นทางเลือกใหม่ของงานผนังไม้ที่โดดเด่นด้วยความประณีต มีสีสันที่แตกต่างออกไปจากไม้จริง เพื่อให้ได้สัมผัสความโมเดิร์นเท่ เมื่อนำไปตกแต่งสามารถสร้างมิติใหม่ ๆ ให้พื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ครบทั้งลุคสมัยใหม่และความสุนทรีย์ที่ธรรมชาติมอบให้

          ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่า รุ่นฟอเรสต้า ลายเสี้ยน สีดาร์ค กราไฟต์ มอบเสน่ห์ล้ำลึกของสีดำ สร้างความน่าสนใจแกมหรูหราอบอุ่นได้เป็นอย่างดี โดยยังคงคุณสมบัติของไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์เฌอร่าที่ครองอันดับหนึ่งในดวงใจผู้ใช้งานไว้ครบถ้วน มีผิวสัมผัสให้เลือกหลากหลายเหมาะกับการตกแต่งทุกรูปแบบ ติดตั้งง่าย ผนังสวยปลอดภัยด้วยระบบบังใบยาว ซ่อนหัวสกรูเรียบร้อย และกันน้ำย้อนได้ดีกว่า

10. แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าผิวเรียบและลายเสี้ยนเซาะร่องวี

          แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าผิวเรียบและลายเสี้ยนเซาะร่องวีให้ลุคล้ำสมัย เรียบหรูแกมอบอุ่น เรียบง่ายแต่ก็มีสไตล์ มาพร้อมคุณสมบัติจากนวัตกรรมการผลิตแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์แบบ Hatchek ที่แข็งแรง ไม่เปราะแตกง่าย ทนน้ำ ทนชื้น ดัดโค้งได้ ไม่บิดตัวเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง และหมดปัญหาเรื่องปลวกและแมลง แผ่นผนังตกแต่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถตกแต่งผนังเพิ่มเติมได้สะดวก เจาะได้ไม่แตกเปราะ ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟติดผนัง กรอบรูป หรือชั้นวางของ เพื่อเติมเต็มบรรยากาศห้องในฝันมาแล้วทั่วไทยและทั่วโลก

แผ่นผนัง ลายผิวเสี้ยน เฌอร่า รุ่น เซาะร่องวี 3 นิ้ว ขนาด 120 x 240 x 0.6 ซม. สีธรรมชาติ

11. ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่า รุ่นฟอเรสต้า ลายเสี้ยน สีไวท์โอ๊ค

          ไม้ฝาสเปลนดิดเฌอร่า รุ่นฟอเรสต้า สีไวท์โอ๊ค ออกแบบมาให้เป็นทางเลือกใหม่ของงานผนังไม้ที่โดดเด่นด้วยความประณีต มีสีกลางที่เป็นที่นิยมในดีไซน์แถบนอร์ดิกที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยคม มีสไตล์ เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณภาพและรายละเอียดที่ใช้งานได้จริง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มบ้านโมเดิร์นยุคใหม่ ครบทั้งความทันสมัยและความสุนทรีย์ที่ธรรมชาติมอบให้ ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และมีผิวสัมผัสให้เลือกหลากหลายเหมาะกับการตกแต่งทุกรูปแบบ ตลอดจนออกแบบให้ผนังสวยปลอดภัยด้วยระบบบังใบยาว ซ่อนหัวสกรูเรียบร้อย และกันน้ำย้อนได้ดีกว่า พร้อมการติดตั้งง่าย ประหยัดแรง ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีเยี่ยม

12. แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าลายสายฝน หยดน้ำ และลายบลอสซั่ม

          แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่าในดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอันงดงามมี 3 ลายยอดนิยม ได้แก่ (1) ลายสายฝนให้ความรู้สึกสดชื่น รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาของสายฝนพรำ (2) ลายหยดน้ำถ่ายทอดมิติและสุนทรียะแห่งธรรมชาติร่วมสมัย โดดเด่นและมีสไตล์ไม่ซ้ำใคร และ (3) ลายบลอสซั่มในลุคอ่อนโยน อบอุ่น และนุ่มนวลตามแบบฉบับของดอกไม้บาน ทั้ง 3 ลายเปรียบเสมือนงานศิลปะที่นำไปตกแต่งพื้นที่ได้ตามชอบ แผ่นผนังตกแต่งเฌอร่ามีครบถ้วนด้วยคุณสมบัติทนทาน แข็งแรง คุ้มค่า มีหลากลวดลายให้เลือกตามชอบ ติดตั้งง่ายทำให้ประหยัดเวลาและคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ตลอดจนเป็นการเพิ่มมิติน่าสนใจให้แก่ผนังสวยที่แกร่งทนนับสิบปี

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นยังมีอีกมากนะครับ