ไม้แปรรูป
แผ่นไม้แปรรูป คือส่วนที่ตัดจากไม้ซุงตามยาวจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง เมื่อต้นไม้ถูกตัด เนื้อไม้จะเต็มไปด้วยความชื้น ไม้แปรรูปโดยทั่วไปจะต้องแห้งก่อนนำไปใช้
ไม้อัด
การจำแนกประเภทของไม้
เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงแยกประเภทของไม้ตามหนังสือของกรมป่าไม้ที่ กส.0702/6679 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2517 ดังนี้คือให้แบ่งไม้ออกเป็น 3 ประเภท โดยถือเอาค่าความแข็งแรงในการดัดของไม้แข็งและความทนทานตามธรรมชาติของไม้ นั้นๆ เป็นเกณฑ์ตามตาราง ดังนี้
ความแข็งแรงของไม้และความต้านทานของไม้
ไม้เต็ง ลักษณะเนื้อไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน เนื้อหยาบแต่สม่ำเสมอแข็งเหนียวแข็งแรงและทนทานมาก ใช้ทำโครงสร้างอาคาร เช่น ตง คาน วงกบ ประตูหน้าต่าง โครงหลังคา เสา
ไม้รัง ลักษณะเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมเหลือง แข็ง หนัก แข็งแรง ทนทานมาก ใช้ทำเสาและโครงสร้างอาคารต่างๆ
ไม้แดง ลักษณะของเนื้อไม้มีสีแดงเรื่อๆ หรือ สีน้ำตาลอมแดง เหนียวแข็งแรง นิยมในการก่อสร้างในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่น พื้น วงกบประตูหน้าต่าง ทำเกวียน ทำเรือ เครื่องเรือน ไม้แดงนี้ปลวกหรือเพรียงจะไม่ค่อยรบกวน และเป็นไม้ที่ต้านทานไฟในตัวด้วย
ไม้ตะเคียนทอง ลักษณะเนื้อไม้มีสีเหลืองหม่นสีน้ำตาลอมเหลือง แข็ง เหนียว ทนทาน
ทนปลวกได้ดี นิยมใช้ทำเรือมาก และยังใช้การได้ดีทุกอย่างที่ต้องการความแข็งแรง
ไม้ตะแบก ลักษณะเนื้อไม้สีเทาจนถึงสีน้ำตาลอม เป็นมัน แข็งเหนียว ใช้ทำเสาบ้าน ทำเรือ แพ เกวียน ไม้ตะแบบชนิดลายใช้ทำเครื่องเรือนได้สวยงามมาก ใช้ทำด้ามมีด ไม้ถือ กรอบรูป ด้ามปืน เป็นต้น
ไม้สัก เนื้อไม้สีเหลืองทองนานเข้าจะกลายเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแก่ มีน้ำมันใน
แข็งพอประมาณ ปลวกมอดไม่ทำอันตราย นิยมมากในการทำเครื่องเรือนทำบานประตู
แกะสลักต่างๆ
ไม้ชัก เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงแก่ แข็งพอประมาณ เหนียว ใช้ก่อสร้าง เช่น ทำโครงสร้าง ตง คาน โครงหลังคา พื้น
ไม้เคี่ยม ลักษณะเนื้อไม้สีน้ำตาล ทิ้งไว้นานเป็นสีน้ำตาลแก่หรือเกือบดำ เหนียว
แข็งแรงมาก ใช้ในน้ำได้ทนทานใช้ทำ โครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงมากสะพาน แพ พื้น ใช้ในที่แจ้งทนแดดทนฝนดีมาก
ไม้มะค่า ลักษณะเนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่ เป็นมัน เลื่อม แข็งและทนทานมากทนมอดปลวกได้ดี นิยมใช้ในการทำเครื่องเรือน
ไม้ประดู่ ลักษณะเนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดง มีลวดลายสวยงาม แข็ง ใช้ในการก่อสร้าง ทำเกวียน เครื่องเรือน และสิ่งอื่นๆ ที่ต้องการความแข็งแรง
ไม้ยาง (เป็นคนละชนิดกับต้นยางพารา) ลักษณะเนื้อไม้สีแดงเรื่อหรือสีน้ำตาลหม่น
แข็งปานกลางใช้ในร่มทนทานดี ใช้เป็นไม้ฝา ไม่คร่าว ฝ้าเพดาน คร่าวฝา
ไม้กระบากหรือไม้กะบาก มีสีตั้งแต่นวลเหลืองถึงน้ำตาลอ่อนแกมแดง แข็ง เหนียว ใช้ทำแบบหล่อคอนกรีตได้ดีเพราะถูกน้ำแล้วไม่บิดงอหรือโค้ง ทำเครื่องเรือนราคาถูก ทำกล่องใส่ของเก้าอี้
ไม้ซุม ลักษณะเนื้อ สีแดงเข้มเมื่อทิ้งไว้ถูกอากาศจะเป็นสีน้ำตาลอมแดงเป็นมันเลื่อม เหนียวแข็ง ใช้ในร่มทนทาน ใช้ก่อสร้าง เช่น ทำฟื้น ฝา
ไม้นนทรี ลักษณะไม้สีชมพูอ่อน ถึงน้ำตาลแกมชมพู เป็นมัน ใช้ทำไม้พื้นเพดานและฝา ทำเครื่องเรือน หีบใส่ของต่างๆ
ไม้มะม่วงป่า ลักษณะเนื้อไม้ไม่มีแก่นมากนัก สีน้ำตาล แข็งเหนียว ใช้ทำเครื่องเรือน หีบใส่ของ ไม้บรรทัด ปอกออกมาเป็นแผ่นบางๆ ใช้ทำไม้อัด
ไม้กระท้อน ลักษณะเนื้อไม้สีแดงเรื่อๆ ปนเทา แข็งแรงปานกลาง ใช้ในร่มทนทานพอสมควร ใช้ทำพื้น เพดาน เครื่องเรือน
ไม้สยาขาว ลักษณะเนื้อไม้สีชมพูอ่อนแกมขาวถึงน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเหนียว ทนทาน
ใช้ทำเครื่องเรือนและส่วนของอาคารที่อยู่ในร่ม เปลือกใช้ทำไม้อัดได้
ไม้ก้านเหลือง เป็นต้น ลักษณะเนื้อไม้สีเหลือง เข้มถึงสีเหลือง ใช้ทำพื้น ฝา เครื่องเรือน
ไม้มะยมป่า ลักษณะเนื้อไม้ไม่มีแก่นสีจากถ้าถูกอากาศนานๆ สีจะนวลขึ้น ใช้ทำก้านไม้ขีดไฟ กลักไม้ ขีดไฟ หีบใส่ของ ปัจจุบันใช้ทำเครื่องเรือนต่างๆ
ไม้ต้นมะพร้าว เนื้อมีความหนาแน่นใช้เป็นโครงสร้างได้ ความหนาแน่นตรงริมมีมากกว่าตรงกลาง
ไม้อัดประกอบด้วยแผ่นไม้บาง ๆ ที่ทำจาการอัดกาวในขี้เลื่อยแล้วอัดกันเป็นชั้น ๆ ที่ชั้นนอกสุดจะเป็นแผ่นไม้ เรียกว่า แผ่นหน้า หรือแผ่นหน้าและหลัง ส่วนด้านในเป็นขี้เลื่อย หรืออาจเป็นเศษไม้ ความหนามาตรฐานของไม้อัด มีตั้งแต่ 3.2, 4.0, 6.0, 10.0, 15.0 และ 20.0 มม. ส่วนขนาดของไม้อัดแบบมาตรฐานมีขนาด 4 x 8 ฟุต
ประเภทของไม้อัด
ไม้อัดแผ่นแข็ง ทำมาจากการอัดแผ่นไม้เข้าไปในใยไม้ ภายใต้ความร้อนและความดัน แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดมาตรฐาน และชนิดใช้อุณหภูมิ โดยจะถูกจุ่มลงในน้ำมันและอบแห้ง
ไม้อัดแผ่นแข็งบางชนิดผิวด้านหนึ่งจะมันลื่น ส่วนอีกด้านหนึ่งจะหยาบ ชนิดทั่วไปจะมีหน้าทั้ง 2 ด้านเป็นมันลื่น
ไม้พาติเกิลบอร์ด เป็นแผ่นไม้สำหรับการตกแต่งอีกชนิดหนึ่ง ทำมากจากเศษไม้โดยการอัดและบีบภายใต้ความร้อนสูง
การใช้งาน ไม้อัดจะใช้งานได้ดีเมื่ออยู่ในร่ม ไม่โดนแสงแดด ไม่โดนน้ำหรือความชื้น