เครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีคุณค่า แต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม เช่น ในงานออกแบบเขียนแบบ
เราอาจใช้เพียงเครื่องมือพื้นฐาน อันประกอบด้วย ไม้ที ปากกา ดินสอ เท่านั้นในงานเขียนแบบ
หากเราไม่ได้เขียนแบบออกแบบเป็นประจำ หรือไม่มีอาชีพในงานเขียนแบบ
เพราะโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในงานเขียนแบบส่วนใหญ่มักมีราคาแพง (บางโปรแกรมราคาเป็นแสน)
ในการเลือกใช้ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์เช่นเดียวกัน ควรจะเลือกที่มีคุณภาพดีและราคาเหมาะสมกับงาน
การเลือกใช้ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ที่มีราคาแพงเกินความจำเป็น ย่อมก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์
การเลือกใช้ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ บางอย่างเราอาจไม่มีความชำนาญในการเลือก
ดังนั้นการเลือกใช้โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ผลิตจึงเป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง
แต่ก็มีข้อเสียคือ สินค้าที่ผลิตจากบริษัทที่มีชื่อติดตลาด มักจะมีราคาแพง ดังนั้นวิธีการเลือกใช้
เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ พิจารณาจากเครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม(มอก.)
ความหมายของ มอก.
มอก.เป็นคำย่อมาจาก"มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม" หมายถึงข้อกำหนดทางวิชาการที่
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)ได้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตในการผลิตสินค้า
ให้มีคุณภาพในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดโดยจัดทำออกมาเป็นเอกสารและจัดพิมพ์เป็นเล่ม
เครื่องหมายสำนักงานรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม
ภายในมอก.แต่ละเล่มประกอบด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น เกณฑ์ทางเทคนิค
คุณสมบัติที่สำคัญ ประสิทธิภาพของการนำไปใช้งาน คุณภาพของวัตถุที่นำมาผลิต และวิธีการทดสอบเป็นต้น
ปัจจุบันสินค้าที่สมอ. กำหนดเป็นมาตรฐาน ครอบคลุมสินค้าที่เราใช้
อยู่ในชีวิตประจำวันหลายๆ ประเภท ได้แก่ ประเภทอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
ความสำคัญของ มอก.
มอก. มีประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องในหลายด้านด้วยกัน ดังนี้
ประโยชน์ต่อผู้ผลิต
1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
2. ลดรายจ่าย ลดเครื่องจักร ลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อน
3. ช่วยให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ
4. ทำให้สินค้ามีคุณภาพดีขึ้น และมีราคาถูกลง
5. เพิ่มโอกาสทางการค้า ในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการที่มีการกำหนดให้สินค้านั้นๆต้องได้รับมอก.
ประโยชน์ผู้บริโภค
1. ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
2. สร้างความปลอดภัยในการนำไปใช้
3. ในกรณีที่ชำรุด ก็สามารถหาอะไหล่ได้ง่าย เพราะสินค้ามีมาตรฐานเดียวกัน ใช้ทดแทนกันได้
4. วิธีการบำรุงรักษาใกล้เคียงกัน ไม่ต้องหัดใช้สินค้าใหม่ทุกครั้งที่ซื้อ
5. ได้สินค้าคุณภาพดีขึ้นในราคาที่เป็นธรรมคุ้มค่ากับการใช้งาน
ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจส่วนรวมหรือประโยชน์ร่วมกัน
1. ช่วยเป็นสื่อกลางเป็นบรรทัดฐานทางการค้า ทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคมีความ เข้าใจที่ตรงกัน
2. ก่อให้เกิดความยุติธรรมในการซื้อขาย
3. ประหยัดการใช้ทรัพยากรของชาติ ทำให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
4. สร้างโอกาสทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย
5. ป้องกันสินค้าคุณภาพต่ำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
6. สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ
หมายเลข มอก.
หมายเลขมอก.คือหมายเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อระบุลำดับที่ของการออกมาตรฐานและปีที่สมอ.
ประกาศเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะระบุอยู่บนตัวสินค้า ตัวอย่างเช่น เครื่องหมายมาตรฐานที่แสดงว่า
สินค้าได้รับมาตรฐานอะไร (ปัจจุบันสมอ.กำหนดออกมา 5 แบบ) ดังภาพคือ เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป
ดังตัวอย่าง มอก. 56 - 2533 คือ ผลิตภัณฑ์น้ำตาลทราย
ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองคุณภาพตามมอก.
ก็จะสามารถแสดงเครื่องหมาย มอก.บนผลิตภัณฑ์นั้นได้
ผู้กำหนด มอก.
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติ
มีหน้าที่ดำเนินการกำหนดมาตรฐาน โดยมี คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(กมอ.)
ซึ่งประกอบด้วยบุคคลจากสามฝ่าย ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้ใช้ และนักวิชาการ มาร่วมกันกำหนดมาตรฐานนี้
เพื่อให้มาตรฐานแต่ละเรื่องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้
ตลอดจนมีความถูกต้องทางวิชาการซึ่งสามารถนำไปใช้อ้างอิงได้
ความน่าเชื่อถือ
ผลิตภัณฑ์ที่แสดงเครื่องหมายมอก.ได้นั้น ต้องได้รับการตรวจสอบจากสมอ.แล้วว่ามีคุณภาพเป็นไปตามที่กำหนด
การตรวจสอบของสมอ. จะนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาตรวจสอบคุณภาพ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่
ซึ่งจะตรวจสอบทั้งระบบการผลิต และระบบการควบคุมคุณภาพของโรงงานด้วยว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่
ถ้าผ่าน สมอ.จะออกใบอนุญาตให้ผู้ผลิตแสดงเครื่องหมายมอก.ที่ผลิตภัณฑ์ของตนได้
โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สมอ.กำหนดด้วย
หลังจากนั้นสมอ.ก็จะมีการติดตามผล โดยการตรวจสอบระบบควบคุมคุณภาพของโรงงาน
และสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้งจากโรงงานสถานที่นำเข้าและสถานที่จำหน่าย มาตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้แน่ใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่แสดงเครื่องหมายมอก.
จะมีคุณภาพตามมาตรฐานและโรงงานยังสามารถรักษาคุณภาพไว้ได้ตามที่กำหนด
ประเภทของเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม
1. เครื่องหมายมาตรฐาน หรือเครื่องหมาย มอก.ที่ สมอ.อนุญาตให้แสดงกับผลิตภัณฑ์ขณะนี้มี 5 เครื่องหมาย คือ
เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป
เป็นเครื่องหมายที่แสดงกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานไม่บังคับ ผู้ผลิตสามารถยื่นขอใบอนุญาต
แสดงเครื่องหมายมาตรฐานได้ด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดออกมามากที่สุด โดยปัจจุบันมีกว่า 2,000 รายการ
เครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม
2. เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ
เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจของประเทศ
ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องผลิต นำเข้าและจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น
เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ
3. เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความปลอดภัย
เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่เน้นความปลอดภัยในการใช้งาน ตามมาตรฐานเฉพาะด้านความปลอดภัย
เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเครื่องหมายนี้เป็นทั้งมาตรฐานบังคับและไม่บังคับ กรณีที่เป็นมาตรฐานบังคับ
กฎหมายบังคับให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องผลิต นำเข้าและจำหน่ายแต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐาน
ทั้งนี้สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐาน ได้โดยสมัครใจ ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นมาตรฐานไม่บังคับ เช่น พัดลม
เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความปลอดภัย
4. เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม
เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยการรักษาสภาพแวดล้อมตามมาตรฐานเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม
เพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยเครื่องหมายนี้เป็นทั้งมาตรฐานบังคับและไม่บังคับ
กรณีที่เป็นมาตรฐานบังคับ กฎหมายบังคับให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายจะต้องผลิตนำเข้าและจำหน่าย
แต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานและสามารถยื่นขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายโดยสมัครใจ
ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นมาตรฐานไม่บังคับ เช่น ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศที่ไม่ใช้สาร CFC
เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม
5. เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า
เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติของความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า
ตามมาตรฐานเฉพาะด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
โดยเครื่องหมายนี้เป็นทั้งมาตรฐานบังคับและไม่บังคับ กรณีที่เป็นมาตรฐานบังคับ
กฎหมายบังคับให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้จำหน่าย จะต้องผลิตนำเข้าและจำหน่ายแต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐาน
และสามารถยื่นขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายโดยสมัครใจในกรณีที่เป็นเครื่องหมายไม่บังคับ เช่น เครื่องสำรองไฟฟ้า
เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า
จะเห็นได้ว่า มอก. เป็นเครื่องหมายรับรองที่ได้มาโดยการตรวจสอบของผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง
การเลือกใช้ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ โดยพิจารณาจากเครื่องหมาย มอก. เป็นวิธีการที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง
ที่จะช่วยให้เราได้ใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ที่มีคุณภาพดี เหมาะสมกับงานและราคาไม่แพงเกินไป