แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการพยายามพึ่งตนเองช่วยตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำให้ “พอมี พอกิน” โดยอาศัยเฉพาะ อาหาร ที่อยู่อาศัย ส่วนที่ไม่สามารถจะผลิตเองได้ก็แลกเปลี่ยนหรือซื้อหาภายนอกบ้าง พยายามก่อหนี้น้อยที่สุด ควรมีชีวิตเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย พอใจในสิ่งที่ได้รับมาโดยชอบธรรม ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย โดยรู้จักการพัฒนาด้านการเกษตร และการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านการใช้ที่ดิน การใช้แรงงานที่มีอยู่ในครอบครัว ปัจจัยการผลิต การปลูกพืช และการเลี้ยงสัตว์ อันจะเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ในแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เกษตรยั่งยืน และเกษตรผสมผสาน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

            เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

เป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

            เป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ แนวทางการดำรงชีวิตและปฏิบัติตนให้สมดุล ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และพร้อมต่อการยอมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม

หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง

            การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบและคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำ

ความพอเพียงต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กัน คือ

1.         ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

            2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ

            3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

            ทั้งนี้การตัดสินใจ และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน นั่นคือ จะต้องประกอบด้วย

1.         เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในการปฏิบัติ

            2. เงื่อนไขคุณธรรมที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความ

ซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียรใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต

            คุณลักษณะ 3 คุณลักษณะ และเงื่อนไข 2 เงื่อนไขนี้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนทางสายกลาง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน และเมื่อเราสามารถนำเอาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนี้มาประยุกต์ใช้ หากเรานำไปใช้กับชีวิต ก็จะนำให้ชีวิตของเราสมดุล หากนำไปใช้กับเศรษฐกิจก็จะได้เศรษฐกิจที่มั่นคง และหากนำไปใช้กับสังคม ก็จะทำให้ได้สังคมที่ยั่งยืน

สามเงื่อนไข

1.         เงื่อนไขหลักวิชา ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอนและ

2.         เงื่อนไขคุณธรรม ขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และ

3.         เงื่อนไขการดำเนินชีวิต ให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มี สติ ปัญญา และความรอบคอบ

เงื่อนไขหลักวิชา-ความรู้

                    w นำหลักวิชาและความรู้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้

                    w ทั้งในขั้นวางแผนและขั้นปฏิบัติงาน

                    w ด้วยความรอบรู้  ความรอบคอบและระมัดระวังอย่างยิ่ง

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ทรงชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ก่อนที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อหลังเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจแล้ว ได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไข เพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤติ สามารถดำรงตนอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ