ในงานไม้ก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นงานไม้ครุภัณฑ์ (งานเฟอร์นิเจอร์) หรืองานก่อสร้างใดๆ ก็ตามต้องใช้วิธีการที่จะนำไม้สองชิ้นหรือมากกว่ามาต่อเข้าด้วยกัน ในการต่อนี้ต้องใช้ลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มีความแข็งแรงมากที่สุด สวยงาม ง่ายต่อการทำและเหมาะสมสำหรับงานแต่ละอย่าง ซึ่งมีหลายแบบหลายวิธี พอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
1. การต่อไม้ด้วยวิธีต่อชน
2. การเข้าบาก
3. การเข้าเดือยและการเพลาะไม้
การต่อชนเป็นการต่อไม้ที่ง่ายที่สุด ด้วยการนำเอาปลายไม้ของไม้แผ่นหนึ่งชนกับหน้าไม้หรือขอบของไม้อีกแผ่นหนึ่งแล้วจึงทำการยึดด้วยตะปู การต่อชนมีขั้นตอนการดำเนินงานแบ่งออกได้ดังนี้
1. การต่อชนแบบ 45 องศา
การเข้ามุม 45 องศาให้ความสวยงาม แต่ความแข็งแรงมีไม่มากนัก นิยมใช้กันมากในงานเฟอร์นิเจอร์ ความสวยงามของการเข้าไม้ขึ้นอยู่กับช่างไม้ว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหน ในปัจจุบันเครื่องจักรมีส่วนช่วยในการเข้ามุม 45 องศานี้ทำได้ง่ายขึ้น การจับยึดไม้มักจะใช้ตะปูหรืออาจจะใช้กาวช่วยก็ได้แต่ไม่มีความแข็งแรงเท่าตะปู
2. การต่อชนแบบ 90 องศาหรือการต่อชนธรรมดาหรือชนฉาก
โดยทั่วไปการต่อชนมักไม่ค่อยนิยมใช้งานเฟอร์นิเจอร์ แต่นิยมใช้การก่อสร้างที่ไม่ต้องการความประณีตสูงวิธีการต่อชนแบบนี้ให้ความแข็งแรงน้อย แต่สามารถทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก จึงไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมือของช่างที่ดีมากในการทำ
การเข้าบากเป็นการเข้าไม้ที่ให้ความแข็งแรงพอสมควร มีทั้งบากตรง บากธรรมดา กับบากหางเหยี่ยวที่ต้องการรับแรงดึงมา การบากนั้นเราทำการบากไม้ทั้งสองข้างที่มีการประกอบไม้เข้าด้วยกัน การบากต้องให้หน้าสัมผัสของไม้แนบกันสนิท มิฉะนั้นจะทำให้ไม้จับยึดกันไม่แข็งแรง การเข้าบากเป็นการเข้าไม้ซึ่งมีหลายวิธีดังนี้
1. การเข้าไม้แบบบากบังใบ
การเข้าไม้แบบบังใบเป็นการเข้าไม้ที่มีจุดประสงค์ เพื่อต้องการที่จะเพิ่มหน้าสัมผัสของการจับยึดให้มากขึ้นโดยการบากไม้ชิ้นใดชิ้นหนึ่งเพียงชิ้นเดียว การเข้าไม้ชนิดนี้ให้ความแข็งแรงพอสมควร การจับยึดไม้โดยมากใช้ตะปู หรือตะปูเกลียวยึด
2. การเข้าไม้แบบบากบังใบครึ่งแผ่น
การเข้าไม้แบบบากบังใบครึ่งแผ่น เป็นการเข้าไม้โดยใช้ส่วนของไม้แต่ละชิ้นมาเกยกัน การบากไม้จะต้องทำด้วยความเที่ยงตรงพอสมควร และต้องมีการจับยึดใช้ตะปูหรือตะปูเกลียว ให้มีความสวยงามและมีความแข็งแรงพอสมควร โดยมากจะใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องการความประณีตมากนัก
3. การเข้าไม้แบบบากอย่างละครึ่ง
การเข้าไม้แบบบากอย่างละแผ่น เป็นการเข้าไม้โดยการบากไม้อย่างละครึ่ง เมื่อนำมาประกอบกันจะใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวยึดก็ได้ ให้ความแข็งแรงได้เช่นกัน
4. การเข้าไม้แบบบากอม (1)
การเข้าไม้แบบบากอม (1) เป็นการเข้าไม้ที่คล้ายๆ กับการเข้าไม้แบบบากอย่างละครึ่ง แต่ไม่ได้เป็นการต่อที่มุมไม้ คือ ไม้ชิ้นหนึ่งบากเหมือนกับการบากไม้แบบบากอย่างละครึ่ง ส่วนอีกชิ้นหนึ่งบากเป็นร่องตลอดความกว้างของไม้ แล้วยึดให้แน่นด้วยตะปูหรือตะปูเกลียวเพื่อให้แน่น
5. การเข้าไม้แบบบากอม (2)
การเข้าไม้แบบบากอม (2) เป็นการเข้าไม้กรณีที่มีไม้สองชิ้นตัดผ่านกันเป็นมุมฉากซึ่งกันและกัน การบากไม้แบบนี้จะต้องทำให้ไม้เป็นร่องไว้ทั้งสองชิ้น จึงนำมาประกอบกัน ความหนาของไม้ทั้งสองจะเสมอกันพอดี การจับยึดใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวก็ได้
6. การเข้าไม้แบบบากเดือยหางเหยี่ยว
การเข้าไม้แบบบากเดือยหางเหยี่ยว เป็นการเข้าไม้ที่สามารถรับแรงดึงและความแข็งแรงสูง การบากไม้ต้องทำเป็นร่องหางเหยี่ยว ซึ่งต้องใช้ความชำนาญของช่างและความสามารถในการใช้เครื่องมือของช่างด้วย
7. การเข้าไม้แบบบากอมคู่
การเข้าไม้แบบบากอมคู่ การเข้าไม้วิธีนี้คล้ายๆ กับการเข้าไม้แบบบากอมธรรมดา แต่การบากไม้ให้เป็นเดือยเหลี่ยมนั้น ต้องบากเป็นเดือยเหลี่ยมคู่ ส่วนไม้ต้องบากเป็นร่องทั้งสองข้าง เมื่อนำมาประกอบกันแล้วความแข็งแรงจะสูงขึ้น เหมาะสำหรับการงานไม้ที่ต้องรับน้ำหนักสูง การจับยึดใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวก็ได้
การเข้าไม้แบบเข้าเดือยเป็นการเข้าไม้ที่มีความแข็งแรงกว่าการเข้าไม้แบบอื่นๆ การเข้าเดือยเป็นการเข้าไม้ที่นิยมใช้กันอย่างยิ่งในงานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถเข้าเดือยได้หลายวิธีดังนี้
1. การเข้าไม้แบบเดือยตรง
การเข้าไม้แบบเดือยตรง การเข้าไม้แบบนี้มีหลักการคล้ายๆ กัน แต่ความยุ่งยากในการบากไม้เพื่อทำเป็นเดือยมีจำนวนมากกว่า เพื่อให้การจับยึดดีขึ้นกว่าเดิม การเข้าเดือยแบบนี้ต้องใช้ความชำนาญในการใช้เครื่องมือพอสมควร จึงจะได้เข้าไม้ที่สวยงามและแข็งแรง และถ้าจะให้แน่นยิ่งขึ้น ควรจะยึดด้วยตะปูหรือตะปูเกลียวอีกทีก็จะดีขึ้น
2. การเข้าไม้แบบเดือยหางเหยี่ยว
การเข้าไม้แบบเดือยหางเหยี่ยว เป็นการเข้าไม้ที่ให้ความแข็งแรง ถ้าช่างไม้ที่มีฝีมือดีๆ จะทำให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น การเข้าเดือยหางเหยี่ยวจะต้องใช้ความสามารถของช่างไม้ เพราะเป็นงานละเอียดมาก ช่างไม้ที่ทำจะต้องมีความชำนาญในการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น สิ่ว ค้อน เลื่อยรวมทั้งการขีดขาดต่างๆ อย่างเที่ยวตรง โดยมากงานเข้าเดือยหางเหยี่ยวนี้จะใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความประณีตและแข้งแรง
3. การเข้าไม้แบบเดือยหางเหยี่ยวคู่
การเข้าไม้แบบเดือยหางเหยี่ยวคู่ การเข้าไม้วิธีนี้คล้ายๆ กับการเข้าไม้แบบบากอมคู่ แต่ลักษณะของเดือยแทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกับแบบบากอมคู่ แต่เป็นแบบเดือยหางเหยี่ยว และร่องทั้งสองข้างก็ต้องทำร่องหางเหยี่ยวด้วย เมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกันจะเกิดการจัดตัวขึ้นทำให้ความแข็งแรงสูง และใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวจับยึดเพื่อให้แน่น การเข้าไม้แบบนี้ยากกว่าแบบอื่น ช่างไม้จะต้องมีฝีมือพอสมควร ราคาการเข้าไม้แบบนี้จึงแพงกว่าการเข้าไม้แบบอื่น
4. การเข้าไม้แบบเดือยตลอด
การเข้าไม้แบบเดือยตลอด เป็นการนำไม้สองชิ้นมาต่อกันให้เป็นมุมฉากซึ่งกันและกัน การจัดยึดทำได้โดยการบากไม้เหมือนกับการเข้าไม้แบบเข้าเดือยไม่ตลอด ต่างกันเพียงแต่รูสี่เหลี่ยมทะลุตลอด เมื่อเวลาต่อจึงเห็นเดือยอย่างชัดเจนวิธีการต่อเเบบนี้ทำได้ง่ายกว่าการเข้าไม้แบบเดือยไม่ตลอดการยึดใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวยึดอีกทีก็ได้
5. การเข้าไม้แบบเดือยไม่ตลอด
การเข้าไม้แบบเดือยไม่ตลอด เป็นการนำไม้ทั้งสองชิ้นมาต่อกันให้เป็นมุมฉาก แต่การยึดทำได้โดยการบากไม้ชิ้นหนึ่งให้เป็นเดือยสี่เหลี่ยม และเจาะรูไม้อีกชิ้นหนึ่งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม เพื่อให้เดือยลอดเข้าไปได้แต่ไม้ตลอดหน้าไม้เมื่อประกอบกันจึงไม้เห็นเดือยสี่เหลี่ยม จึงทำไห้เกิดความสวยงาม การยึดใช้ตะปูหรือตะปูเกลียวยึด
6. การเข้าไม้แบบเดือยกลมทะลุ
การเข้าไม้แบบเดือยกลมทะลุ เหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์แต่ต้องมีเครื่องมือละอุปกรณ์ช่วย เช่น เครื่องทำเดือยและเครื่องมือเจาะ มิฉะนั้นการเข้าเดือยวิธีนี้ จะทำได้ลำบากการเข้าเดือยวิธีนี้ให้ความแข็งแรงสูง การจับอาจจะใช้กาวหรือตะปูช่วยจับยึดอีกทีก็ได้ เมื่อประกอบกันแล้วจะเห็นเดือยที่ใช้ยึดอย่างชัดเจน
7. การเข้าไม้แบบเดือยกลมไม่ทะลุ
การเข้าไม้แบบเดือยกลมไม่ทะลุ เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความแข็งแรงและความประณีตสูง เมื่อประกอบชิ้นงานเรียบร้อยแล้วจะมองไม่เห็นเดือยที่ใช้ยึดเลย ตัวที่ช่วยในการจับยึดมักจะใช้กาวหรือตะปูตัวเล็กๆ ช่วยอีกที
8. การเข้าไม้แบบเดือยอัดลิ่ม
การเข้าไม้แบบเดือยอัดลิ่ม เหมือนกับการเข้าไม้แบบเดือยตลอดทุกอย่าง เพียงแต่ต่างกันที่เดือยสี่เหลี่ยมที่มีลอยบากเป็นรูปสามเหลี่ยมเอาไว้ เมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้วต้องใช้ลิ่มอัดเข้าไปในช่องสามเหลี่ยม ทำให้การเข้าไม้แบบนี้มีความแข็งแรงสูงขึ้นอีกมาก แต่การเข้าไม้แบบนี้จะเห็นการเข้าไม้อย่างชัดเจน
9. การเข้าไม้แบบเดือยโผล่ลิ่มอัด
การเข้าไม้แบบเดือยโผล่ลิ่มอัด เป็นการเข้าไม้ที่เหมาะสำหรับงานบางประเภทเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เดือยที่โผล่พ้นงานขึ้นมามาก วิธีการนำโดยไม้ชิ้นหนึ่งเจาะรูสี่เหลี่ยมเอาไว้ ส่วนไม้อีกชิ้นหนึ่งบากไม้ให้เป็นรูเดือยสี่เหลี่ยม และเจาะรูตรงกลางเดือยอีกครั้ง
การเพลาะไม้ คือ การเอาแผ่นไม้มาวางเรียงแล้วอัดเข้าด้วยกันให้เป็นแผ่นใหญ่หรือการนำไม้หลายๆ แผ่นมาเสริมออกในทางกว้าง ซึ่งกรณีที่มีไม้หน้าแคบๆ เราต้องการที่จะให้หน้าไม้กว้างออกไปก็นำไม้อีกชิ้นด้วยวิธีทำให้เรียบหรือใช้กบใสผิวหน้าไม้ที่จะนำมาอัดเข้าด้วยกัน เพื่อให้แนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน การเพลาะไม้ที่นิยมกันในงานช่างไม้มีดังนี้
1. การเพลาะไม้ด้วยกาว
1.1 การเพลาะไม้ด้วยกาว คือ การใช้กาวเป็นตัวช่วยยึดให้ไม้ติดกัน โดยการนำแผ่นไม้ที่จะเพลาะเข้าด้วยกันมาแต่งขอบไม้แต่ละแผ่นให้เรียบตรงและได้ฉาก เพื่อที่จะเพลาะเข้าด้วยกันให้สนิท ไม้ที่จะนำมาเพลาะจะต้องเป็นไม้ที่แห้งสนิทไม่บิดงอกลางเดือยอีกครั้ง
ดือยที่โผล่พ้นงานขึ้นมามาก วิธีการมำโดยไม้ชิ้นหนึ่งเจาะรูสี่เหลี่
1.2 เมื่อได้ไม้ที่ตรงและเรียบแล้ว ก็ทดลองนำไม้มาประกบกันโดยจัดวางให้ไม้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ไม้แบบสนิท
1.3 หลังจากทดลองวางไม้แล้ว ถ้าแนบสนิทดีก็นำกาวมาทาที่ขอบไม้ที่ประกบกันทั้งสองข้างบางๆ จากนั้นจึงใช้แม่แรงมาอัดให้ไม้แนบสนิทกันยิ่งขึ้น
2. การเพลาะไม้ด้วยตะปู
การเพลาะไม้ด้วยกาวบางทีอาจจะหลุดง่าย จึงจำเป็นจะต้องมีสิ่งมายึด เพื่อให้การเพลาะไม้แน่นยิ่งขึ้น โดยใช้ตะปูช่วย วิธีการหรือขั้นตอนในการเพลาะไม้ก็เหมือนกับการเพลาะไม้ด้วยกาวแต่ใช้ตะปูเป็นสลักยึดก่อนอัดด้วยกาว และใช้แม่แรงช่วยในการอัด จะทำให้แนวเพลาะแข็งแรงขึ้น
3. การเพลาะไม้ด้วยตะปูเกลียว
การเพลาะไม้บางทีต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องจะยึดด้วยตะปูเกลียว ขั้นตอนและวิธีการทำเหมือนกันกับการเพลาะด้วยกาวแต่ใช้ตะปูเกลียวยึด เพื่อให้เพลาะแข็งแรงกว่าวิธีการอื่นๆ