หนังสือและสื่อสารสนเทศ
หนังสือ
ปัจจุบันนี้มีหนังสือออกมาจำหน่ายหลายประเภท ทั้งตำราวิชาการ วารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ นวนิยาย เรื่องสั้น สารคดี ฯลฯ การที่มีหนังสือออกมาจำหน่ายมากมายเช่นนี้ ผู้อ่าน จึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีการเลือกหนังสือ เพื่อจะได้อ่านหนังสือที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง เหมาะกับเวลาและโอกาสวิธีการเลือกหนังสือประเภทต่าง ๆ
ในการเลือกอ่านหนังสือประเภทต่าง ๆ นั้น ผู้อ่านควรพิจารณาให้รอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาคุณค่าของหนังสือนั้น ๆ หนังสือแต่ละประเภทควรเลือกพิจารณา ดังนี้
1. ตำราวิชาการ เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอาจจะเสนอทฤษฎีหรือเนื้อหาสาระอย่างกว้าง ๆ หรือเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง โดยผู้แต่งมีจุดมุ่งหมายทางด้านวิชาการโดยตรง การพิจารณาควรดูรายละเอียดในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.1 พิจารณาด้านเนื้อหา เนื้อหาจะต้องถูกต้องกับชื่อหนังสือ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ กฎหมาย ภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ฯลฯ หนังสือวิชาการแขนงใด เนื้อหาก็ควรจะเน้นแขนงนั้นโดยเฉพาะ
1.2 พิจารณาข้อมูลและภาพประกอบ ข้อมูลและภาพประกอบควรถูกต้องชัดเจน โดยเฉพาะภาพประกอบ ควรดูว่าตรงกับคำบรรยายหรือไม่ และภาพนั้นน่าสนใจเพียงใดเหมาะสม กับวิชานั้นหรือไม่
1.3 การใช้ภาษา ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่เหมาะสมกับแขนงวิชานั้น ๆ และดูการสะกดคำด้วยถ้าหากมีคำผิด ก็ควรจะเลือกดูหนังสือที่มีคำผิดน้อยที่สุดนอกจากนี้การพิจารณาตำราวิชาการควรดูส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น รูปเล่ม ควรมีคำนำ สารบัญ ฯลฯ
2. สารคดี เป็นหนังสือที่มีสาระในด้านให้ความรู้ ความคิด พร้อมทั้งให้ความเพลิดเพลินด้วยหนังสือประเภทนี้มีหลายชนิด เช่น วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญ ฯลฯ หนังสือ สารคดีที่มีคุณภาพนั้นพิจารณาในรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
2.1 พิจารณาด้านเนื้อหาสาระ คุณค่าของสารคดีนั้นอยู่ที่เนื้อหาสาระเป็นประการสำคัญเนื้อหาที่ดีจะต้องถูกต้องและสมบูรณ์ รวมทั้งเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและสังคมส่วนรวม เช่น
2.1.1 สารคดีประเภทชีวประวัติ เนื้อหาสาระจะต้องตรงต่อความเป็นจริง ผู้เขียนจะต้องเขียนด้วยใจเป็นธรรม ไม่อคติต่อเจ้าของประวัตินั้น ๆ เนื้อหาจึงควรมีทั้งส่วนดีและส่วนบกพร่องของเจ้าของประวัติ
2.1.2 สารคดีประเภทท่องเที่ยว ควรมีเนื้อหาที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง รวมทั้งประสบการณ์ที่แปลกใหม่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ
2.1.3 สารคดีประเภทเชิงวิชาการ ควรมีเนื้อหาที่ให้ความรู้อย่างถูกต้องแม่นยำ ควรมีภาพหรือแผนที่ประกอบให้ถูกต้องตรงกับสาระของเรื่องด้วย
2.2 พิจารณาวิธีการเขียน วิธีการเขียนสารคดีพิจารณาได้จากหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
2.2.1 การวางโครงเรื่องและการดำเนินเรื่อง สารคดีต้องมีวิธีการดำเนินเรื่องตามลำดับ
2.2.2 เร้าความสนใจ ข้อเขียนที่ดีผู้เขียนจะมีวิธีการเขียนที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อ่านให้ติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่เกิดความเบื่อหน่าย เช่น การสอดแทรกความคิดเห็นหรือเหตุการณ์ปัจจุบันที่น่าสนใจหรือการเล่าตำนาน นิทาน เกร็ดขำขันต่าง ๆ เป็นต้น ตอนปิดเรื่องก็จบอย่างซาบซึ้งประทับใจหรือให้ข้อคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้ผู้อ่านอยากติดตามอ่านต่อไป
2.2.3 สำนวนภาษา ภาษาที่ใช้ในการเขียนสารคดีเป็นถ้อยคำภาษาที่ไพเราะงดงาม มีสำนวนกะทัดรัด อ่านเข้าใจง่าย ไม่ใช่สำนวนที่ไม่สุภาพ
2.2.4 ส่วนประกอบอื่น ๆ ควรพิจารณาเกี่ยวกับผู้แต่งและส่วนประกอบรูปเล่มของหนังสือถ้าสารคดีนั้นเป็นหนังสือเล่ม ซึ่งจะมีคำว่า สารบัญ เนื้อเรื่อง บรรณานุกรม ฯลฯ ตามรูปแบบของหนังสือ
3. บันเทิงคดี เป็นหนังสือที่แต่งเพื่อมุ่งให้ผู้อ่านเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน อาจจะแทรกวรรณคดี บทร้อยกรอง บทละคร ซึ่งสามารถแต่งเป็นร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้ตามความเหมาะสม ในการพิจารณาเรื่อง บันเทิงคดี ควรพิจารณาในด้านต่าง ๆ ดังนี้
3.1 โครงเรื่องและเนื้อเรื่องส่วนสำคัญของนวนิยายและเรื่องสั้น คือ การเล่าเรื่อง โดยเล่าว่าเป็นเรื่องของใคร เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไร มีความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่องและระหว่างบุคคลในเรื่องเกี่ยวเนื่องกันไปโดยตลอด มีการสร้างความสนใจให้ผู้อ่านอยากติดตาม นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องควรสมจริง และเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล และมีส่วนประกอบปลีกย่อยอื่น ๆ เพื่อให้น่าติดตาม
3.2 การดำเนินเรื่อง ส่วนสำคัญที่ช่วยให้เรื่องน่าสนใจชวนติดตามขึ้นอยู่กับการดำเนินเรื่อง การดำเนินเรื่องมีอยู่หลายวิธี เช่น ดำเนินเรื่องตามลำดับวัย คือ เริ่มตั้งแต่ตัวละครเกิดจนกระทั่ง ถึงแก่กรรมดำเนินเรื่องย้อนต้น คือ เล่าเหตุการณ์ในตอนท้ายเสียก่อน แล้วย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ เป็นต้น ฉากที่ดีต้องมีสภาพความเป็นจริงทั้งสภาพภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังต้องสอดคล้องกับเรื่องด้วย
3.3 ตัวละคร ผู้เขียนมีวิธีการแนะนำตัวละครได้หลายวิธี เช่น ด้วยการบรรยายรูปร่าง ลักษณะของตัวละครเอง ด้วยการบรรยายพฤติกรรมของตัวละคร หรือด้วยการให้ตัวละครสนทนากัน เป็นต้น การบรรยายลักษณะนิสัยของตัวละครที่ดีนั้น ควรบรรยายอย่างสมจริง ตัวละครตัวหนึ่ง ๆ จะมีลักษณะนิสัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ใช่ดีจนหาที่ติมิได้ หรือเลวจนไม่มีความดีที่จะให้ชมเชย ความต้องการของตัวละครที่ดีควรจะเหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป เช่น มีความรัก ความโกรธ เกลียด หรือต้องการความสนใจจากผู้อื่น เป็นต้น
3.4 แนวคิดของเรื่อง แนวคิดของเรื่องส่วนมากผู้เขียนจะไม่บอกตรง ๆ ผู้อ่านจะต้องค้นหาเองว่าได้แนวคิดอย่างไร ตัวอย่างเช่น เรื่องลูกชายของศรีบูรพา ต้องการแสดงว่า “ลูกผู้ชายนั้น มีความหมายอย่างไร” จดหมายจากเมืองไทยของโบตั๋นต้องการให้เห็นข้อดีข้อเสียของคนไทย โดยเฉพาะ “น้ำใจ” ซึ่งไม่เหมือนกันกับชาติอื่น เป็นต้น นวนิยายหรือเรื่องสั้นที่ดีนั้น ผู้อ่านต้องพิจารณาคุณค่าที่จะได้จากเรื่องนั้น ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งด้วย
3.5 สำนวนภาษา เป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง ในการพิจารณาเลือกอ่านนวนิยายและเรื่องสั้นผู้อ่านมักจะรู้สึกว่าตนเองชอบหรือไม่ชอบสำนวนของนักเขียนคนนั้นคนนี้ แต่บางคนก็ไม่สามารถบอกว่าเพราะเหตุใด สิ่งที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับสำนวนภาษาคือสำนวนภาษาของตัวละคร ในบทสนทนา ต้องสมจริงและเหมาะสมกับตัวละคร ประโยคที่แตกต่างควรกะทัดรัด สละสลวย เข้าใจง่าย หากเป็นประโยคยาวก็ควรเป็นสำนวนที่สามารถสร้างอารมณ์ และความรู้สึกได้ดี
4. วารสารและหนังสือพิมพ์ หนังสือประเภทนี้คนทั่วไปได้อ่านบ่อยกว่าหนังสือประเภทอื่น ๆ ในการผลิตหนังสือประเภทนี้ต้องแข่งกับเวลา ดังนั้น โดยการพิจารณาหนังสือประเภทนี้ควรพิจารณา ดังนี้
หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่จะกระจายข่าวคราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปทั่วประเทศหรืออาจทั่วโลก โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นเครื่องมือสื่อสารที่เสนอข่าวที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ดังนั้นหัวใจของหนังสือพิมพ์รายวันก็คือ “ข่าว” การพิจารณาหนังสือพิมพ์รายวันจึงควรพิจารณาเกี่ยวกับข่าวว่ามีส่วนในการช่วยยกระดับสังคมให้สูงขึ้นหรือมีประโยชน์ต่อชนหมู่มากหรือไม่ หากข่าวนั้นไม่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของคนหมู่มาก หรือกระทบกระเทือนต่อประชาชนส่วนใหญ่ เหตุการณ์เหล่านั้นก็ไม่ควรนำมาเสนอในหน้าหนังสือพิมพ์ ข่าวที่ควรนำเสนอควรเป็นข่าวที่เกี่ยวกับ การปกครอง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การอนามัย การประกอบอาชีพ ฯลฯ เหตุการณ์ที่ไม่สมควรนำมาเสนอเป็นข่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เหตุการณ์ที่อาจจะส่งผลทำลายความมั่นคงของชาติ หรือทำลายวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงาม บทวิจารณ์ ในหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับจะมีบทวิจารณ์ หรือบทวิเคราะห์ข่าว ซึ่งเป็นลักษณะ บทความ แสดงความคิดเห็นของผู้เขียนเอง ประกอบกับข่าวที่ต้องการวิจารณ์ หรือวิเคราะห์นั้น การพิจารณาบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ ควรพิจารณาถึงลักษณะต่อไปนี้
1. พิจารณาข้อมูลที่ผู้เขียนอ้างอิงว่าถูกต้องและมีข้อเท็จจริงเพียงใด
2. พิจารณาว่าผู้เขียนบทความนั้น ชี้ให้เห็นปัญหาและวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
3. พิจารณาว่าผู้เขียนบทวิจารณ์ใช้อารมณ์ และนำความรู้สึกส่วนตัวเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
4. พิจารณาภาษาที่ใช้ว่ามีความประณีตและถูกต้องตามหลักภาษาเพียงใด
วารสาร เป็นหนังสือพิมพ์จำหน่ายตามกำหนดระยะเวลา เช่น 7 วัน 10 วัน รายเดือน ราย 3 เดือน หรือรายปี เป็นต้น หนังสือวารสารจึงมีเนื้อหาเน้นทั้งสารคดี และบันเทิงคดี ข่าวสารที่ปรากฏมักเป็นข่าวสารที่มีระยะเวลาต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เช่น ข่าวเกี่ยวกับนโยบายโครงการต่าง ๆ หรือข่าวเกี่ยวกับการเมืองบางเรื่อง เป็นต้น
ดังนั้น การอ่านวารสาร จึงควรพิจารณาเลือกอ่านเรื่องที่เราสนใจ และควรพยายามอ่านอย่างสม่ำเสมอ นอกจากพิจารณาเกี่ยวกับข่าวสารดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ควรพิจารณาอีกอย่างหนึ่ง คือ รูปเล่ม ควรพิจารณาความเรียบร้อยและความคงทนของการจัดรูปเล่มให้เหมาะสมกับราคาด้วย