โคลงกลอนพระเคราะห์คู่

... ดาวคู่สมพล ...

รวิศุกร์เทพเจ้า ทวยแถลง

จันทร์ราหูสู่สำแดง เด่นชี้

ภุมมะครูพลแข็ง ขานเรียกสมพลนา

พุธเสาร์ดาวเยี่ยงนี้ ยิ่งล้ำกำลัง

... ดาวเคราะห์คู่สมพล ...

* อาทิตย์กับศุกร์แจ้ง จงจำ

จันทร์ร่วมราหูกำ หนดให้

อังคารกับครูสำ เหนียกนึก นาพ่อ

พุธคู่กับเสาร์ไซร้ สี่นี้สมพล

... ดูจากภาพภูมิทักษา จะเห็นว่า คู่ที่ ๑ คือ ... ๑ + ๖ เป็นดาวคู่สมพล ...

... คู่ที่ ๒ คือ ... ๒ + ๘ เป็นดาวคู่สมพล ...

... คู่ที่ ๓ คือ ... ๓ + ๕ เป็นดาวคู่สมพล ...

... คู่ที่ ๔ คือ ... ๔ + ๗ เป็นดาวคู่สมพล ...

... เราลองเอากำลังดาวทุกคู่มา + กัน จะได้ ๒๗ ทุกคู่ ...

... ดาว ๑ กำลัง 6 + ดาว ๖ กำลัง 21 = 27

... ดาว ๒ กำลัง 15 + ราหู กำลัง 12 = 27

... ดาว ๓ กำลัง 8 + ดาว ๕ กำลัง 19 = 27

... ดาว ๔ กำลัง 17 + ดาว ๖ กำลัง 21 = 27

... ดาวพระเคราะห์ทั้ง ๔ คู่นี้จะกุมกัน หรือเล็งกันโดยไม่มีดาวพระเคราะห์ใดๆมาร่วมด้วย

ครูท่านว่า ดาวพระเตราะห์นีได้คู่สมพล " ดวงชาตานั้นได้พละกำลัง " และการให้พลังนั้น

ย่อมต้องดูความหมายของดาว และดูว่าเป็นดาวเจ้าเรือนภพอะไรในดวง อยู่ทีภพใดในดวง

ชาตา แล้วนำมาวิเคราะห์ดูอีกที ...

... พระเคราะห์คู่ ... จากหนังสือ เคล็ดลับการพยากรณ์ ของท่าน อ. บรรเทา จันทรศร ...

... คำกลอนโหราศาสตร์ของอาจารย์ปู่นวม แห่งวัดสังเวชวิการาม โหรยุคกรุงรัตนโกสินทร์

... ว่าไว้ดังนี้ ...

พระโหราประสิทธิลิขิตคา

เพศชายหญิงสมสวาทพาสนา

พระเคราะห์คู่ที่มีอยู่ในชาตา

จงพิจารณาปัจจัยเพศเทวัน

พฤหัสจันทร์ปั้นตัวหาผัวเมีย

มิได้พักให้เสียขันหมากหมั้น

อังคารจันทร์เมถุนธนูคู่สำคัญ

มักอาจหาญการชู้คู่เจ้าเครา

อังคารร่วมราหูครูท่านทัก

มักแย่งรักเสพสู่คู่ของเขา

พุธศุกร์อีกคู่อย่าดูเบา

มักมากเมาเสพสมจนซมซาน

พฤหัสเสาร์เสาร์ราหูได้คู่ชิด

มักแผกผิดพรากคู่ดูน่าขัน

กลับเอาทาสชาติชู้ขึ้นชูชัน

ถ้าอยู่สิงห์กุมกันย์กักขลา

อังคารเสาร์กุมกันและจันทร์เล็ง

มักซื้อเซ้งคู่ศักดิ์รักทาสา

ศุกร์ราหูหรือจันทร์กับศุกรา

มักเคล้าคู่โจราระวังภัย

อาทิตย์จันทร์เรือนครูอาจารย์ว่า

ถ้าทำการวิวาห์มักจะร้าย

พระเตราะห์คู่ที่มีอยู่ดังกล่าวนี้

ถ้าตกที่ปัตนิวุ่นวายใหญ่

ตกสหัชชะกัมมะยิ่งเร้าใจ

ตลอดวัยทั้งสามตามเวลา

เป็นนิจเป็นประเป็นกาลี

กุมศรีมนตรีไซร้ว่าไม่ดี

เป็นอุจจาวิลาศมูละดีหนักหนา

ตกตนุพันธุและลาภา

เทพวิวาห์ให้ดีสุขีเอย ฯ

... ยังมีอีกตำราท่านกล่าวไว้ว่า ...

ราหูกุมจันทร์แลเรือนจันทร์

อังคารนั้นราหูครูท่านไข

ชอบแย่งรักสมสู่ดูกระไร

แลมากไปทางเกเรเสน่ห์พาล

พุธศุกร์อีกคู่ดูไม่ละ

ชอบตะกละเสพสมชมคาวหวาน

อยู่เรือนพุธศุกร์จันทร์แลอังคาร

มักร้าวรานหมางเมินห่างเหินกัน

... การเรียนวิชาโหราศาสตร์ก็เหมือนกับเรียนวิชาอักษรศาสตร์ หรือวิชาสถิตินั่นแหละครับ

ต้องขยันจดจำมากๆหน่อย และคำกลอนทั้งหมดที่ลงมานี้ คาดว่าควรจะจำและเมื่อจำได้แล้ว

ผลประโยชน์ในการเรียน จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาลทีเดียว ...

... ในคำกลอนที่กล่าวมานี้ ท่านหมายถึงดาวพระเคราะห์ 2 ดวงหรือ 3 ดวงอยู่ราศีเดียวกัน

หรือเล็งกันและอยู่ในราศีปัตนิ สหัชชะ กัมมะ ท่านว่าร้ายและวุ่นวายตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ถ้า

อยู่ในราศีที่เป็นภพตนุ พันธุ และลาภะท่านว่าจะมีโชคในด้านการแต่งงาน [ แบบเทพวิวาห์ ]

มีความสุขตลอดอายุขัยเช่นกัน ...

... ดวงพินทุบาทว์ ...

ระวิภุมมะทั้ง โสรา

ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า

จันทร์กับชีวา เป็นแปด

ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันตร์

... ตามความหมายของโคลงกลอนก็คือ ... ถ้าดาว ๑ , ๓, ๗ อยู่ในเรือนที่ ห้า คือภพปุตตะ ...

... ดาว ๔ อยู่เรือนที่ เก้า คือภพศุภะ ...

... ดาว ๒ และดาว ๕ อยู่เรือนที่ แปด คือภพ มรณะ ...

... ดาว ๖ อยู่เรือนที่ เจ็ด คือภพปัตนิ ...

... สรุปก็คือ ถ้าดาวดวงใดดวงหนึ่งเป็นไปตามโคลงกลอนนี้ แม้เพียงดวงเดียวก็ถือว่าเข้าเกณฑ์ ...

" พินทุบาทว์ " ... ร้อนนิรันดร์ ... คือเดือดร้อนอย่างไม่สิ้นสุดซ้กที ... และตามความเป็นจริงก็คือถ้าเกิดตรงกับ

วันเช่น เกิดวัน ๑ ดาวอาทิตย์อยู่ภพที่ ห้า ก็ต้องเป็นพินทุบาทว์ ... ดาว ๒ อยู่ภพที่ แปด ก็ต้องพินทุบาทว์ ...

... แต่ผมมาคิดดูว่าถ้าดาวตนุลัคน์ ไปตกตามเรือนดังกล่าวก็น่าจะต้องเป็นพินทุบาทว์เช่นกัน ...

... โคลงกลอนในโหราศาสตร์ยังมีอีกมาก ผมจะค่อยๆรวบรวมออกมาให้รับชมกันอีกนะครับ ...

... สวัสดี ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...