... โคลงกลอนโหราเบ็ดเตล็ด ...
... โคลงพินทุบาทว์บทหนึ่งท่านว่า ...
ระวิอังคารพุธนั้น สามลัคน์
แลสิบสองนั้นจัก หมดแก้
ครูศศิร้ายนัก พูนเพิ่ม
เป็นสิบสองแน่แท้ โทษทั้งอันตราย
... ในโคลงกลอนนี้หมายความถึง อาทิตย์ , อังคาร , พุธ อยู่ที่ราศีที่สามจากลัคน์ จันทร์กับพฤหัสบดีอยู่ในราศีที่สิบสอง
ให้ทั้งโทษภัยอันตรายต่างๆ มากหลาย ...
... โคลงพินทุบาทว์อีกบทหนึ่งท่านว่า ...
ศุกราอาจารย์เจ้า กล่าวไว้
เป็นสิบสองปองร้าย แรงร้อน
เสาราหนึ่งสองไซร้ ทรามยิ่ง แท้เอย
ราหูสี่สองซ้อน แทรกซ้ำสิบสอง
... โคลงบทนี้หมายถึง ดาวศุกร์เป็นสิบสอง ดาวเสาร์เป็นหนึ่ง สอง ราหูเป็นสี่ สองและสิบสองต่อลัคนา ต่ำทรามยิ่งแท้ ...
... โคลงพินทุบาทว์บทสุดท้ายท่านว่า ...
เสารากล่าวโทษทุกข์ ทวยแถลง
ดาวเกาะหน้าอย่าแคลง กล่าวเศร้า
เกาะหลังยังส่องแสง ส่ำสอด มานา
ตกยากลำบากเจ้า จุ่งแจ้งจำทรง
... โคลงบทนี้หมายถึง ดาวที่อยู่หน้าเสาร์ และดาวที่อยู่หลังเสาร์ เรียกว่า " ทุระทุราโยค " จะประสบกับความทุกข์ยาก
อยู่เนืองนิตย์ ดาวดวงใดเป็นทุระทุราโยค ดาวดวงนั้นย่อมประสบกับความทุกข์ยากอยู่ตลอด ...
... ต่อจากนี้เป็นคำกล่าวจากหนังสือ " เคล็ดลับการพยากรณ์ " ของท่าน อ. บรรเทา จันทรศร ...
... โคลงพินทุบาทว์อีกโคลงหนึ่งท่านว่า ...
เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุรา
ภุมเมนท์อัษฎา ว่าไว้
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ ราหูเล่า
อาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ประเหินหิน
... ในคำโคลงกลอนนี้ หมายความถึงดาว เสาร์เล็งลัคน์ ราหูและอังคารอยู่ราศีที่แปดจากลัคน์ จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่
ราหู จะให้โทษคือทำให้มีชีวิตอาภัพอัปภาคย์ ...
... คราวนี้เรามาว่าถึงโคลงบาทสุดท้าย คือ ...
" จันทร์เป็นสิบเอ็ด แก่ราหูเล่าจะอาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ประเหินหิน "
...ซึ่งหมายถึง ดวงชาตาที่มีดาวจันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ราหู และความหมายของโคลงนี้ ให้นับจากราหูทวนเข็มนาฬิกาไป
๑๑ ราศีแล้วมีจันทร์สถิตอยู่นะครับ จึงจะถูกตำราไม่ใช่นับจากราหูทวนเข็มนาฬิกาไป ๓ ราศีแล้วมีดาวจันทร์อยู่เป็น ...
พินทุบาทว์ อย่าเข้าใจผิด ...
... จันทร์ล่าราหู ... ราหูล่าจันทร์ ...
... ในโคลงบทนี้เห็นจะต้องนำ เอาคำสอนของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสุเมธีวรคุณ แห่งวัดเกาะหลัก จังหวัดประจวบ -
- คีรีขันธ์ มาอธิบายเสียแล้วครับ ความสมบูรณ์จึงจะเกิดขึ้น หากไม่นำมาก็คาดว่าการอธิบาย ในหลักการนี้จะไม่สมบูรณ์
... หลักการของท่านเจ้าคุณฯ ท่านมีว่า หากนับจากราหูไป ๓ ราศีแล้วมีจันทร์เรียกว่า " จันทร์ล่าราหู " และนับจากราหูไป
๑๑ ราศีมีดาวจันทร์เรียกว่า " ราหูล่าจันทร์ " และหากจันทร์ล่าราหู ราหูก็เสีย และตรงกันข้าม หากราหูล่าจันทร์ ...
จันทร์ก็เสีย ...
... ในหลักอันนี้ก็คงเป็นไปตาม ความหมายของดวงดาวนั่นแหละครับ หากจันทร์ล่าราหู ดาวราหูก็ให้ร้ายแก่ชาตา การที่
ราหูให้ร้ายก็มีลักษณะเป็นไปเหมือนเช่นราหูเป็น ๘ แก่ลัคนา คือ หูเบา ใจง่าย ใจอ่อน ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือคนโดย
ปราศจากเหตุผล และเดือดร้อนเพราะความช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นอยู่เนืองๆ และราหูสถิตอยู่ภพใดของเจ้าชาตา ก็จะทำให้
ภพนั้นได้รับอิทธิพลแห่งความร้ายกาจของราหูเข้าไปด้วย เช่น อยู่เรือนปัตนิ ก็มีคู่โดยความมัวเมาหรือโดยการถูกหลอก
เป็นต้น ...
ศุภเคราะห์เกาะอุ้ม กุมลัคน์
บาปเคราะห์จรจักร เล็งชี้
จะอาภัพอัปลักษณ์ อุปสรรค ไม่หยุด
พรหมลิขิตนี่นี้ เหล่าล้วนควรจำ
... โคลงนี้ไม่มีในตำราไหนหรอกครับ ผมแต่งใว้ในหนังสือ แก่นโหราศาสตร์ ซึ่งในโคลงดังกล่าว หมายความว่า ดวงชาตา
ที่มีดาวศุภเคราะห์กุมลัคน์ และมีดาวบาปเคราะห์ จะเป็นชาตาที่อาภัพ อัปลักษณ์พบอุปสรรค ตลอดกาล ...
... โคลงกลอนในโหราศาสตร์ เป็นเรื่องของครูโหรรุ่นเก่าแก่ ได้รจนาขึ้นมาเพื่อที่นักโหราศาสตร์จะได้เข้าใจและจดจำเรื่องราวของดวงดาวในตำแหน่งต่างๆ มุมมอง ในหลายๆจุด มีสาระและเป็นประโยชน์ต่อการพยากรณ์อย่างมหาศาล ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...