ดวงชาตาศุกร์เจ็ด

... จากปูมโหร [ โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเอง ] ... ของท่าน อ.สถิตย์ สถิตยืนยง [ ส.ศรีอยุธยา ] ...

... ชาตาศุกร์เจ็ด ...

... มีอาจารย์หลายท่าน และมีตำราหลายเล่มกล่าวไว้ว่า ดาวอะไรจะอยู่ที่ราศีไหนก็ตาม ยกเว้นดาวศุกร์ [ ๖ ] ดวงเดียว นั่น

คือชาตาใดถ้ามีดาวศุกรฺ [ ๖ ] ... อยู่ภพที่ ๗ [ ปัตนิ ] ... ชาตานั้นถือว่าเป็น " ดวงแตก " โดยชีวิตของเจ้าชาตานั้น จะต้อง

เดือดร้อนเรื่องคู่อยู่ตลอดเวลา ...

... ขอได้รับทราบได้ว่ากฏที่กล่าวมาทั้ง ๒ ข้อนั้น ผู้เขียน มิได้นำมาใช้ด้วยเลย ไม่ว่าในกรณีใด เพราะถ้ากฏที่กล่าวมานั้น

เป็นความจริง ดวงที่จะนำมากล่าวต่อไปนี้คือ ...

... วันศุกร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีระกา ...

... วันที่ ๙ พ.ย.๒๔๘๘ เวลา ๑๖.๓๐ น.

... ดวงชาตาที่นำมาเป็นตัวอย่างในที่นี้จะเห็นว่า มีดาวศุกร์ [ ๖ ] เป็น ๗ แก่ลัคน์ คืออยู่ภพปัตนิ ซึ่งต้องด้วยคำว่า ...

" ดวงแตก " ... คือเจ้าชาตาจะต้องเดือดร้อนเกี่ยวกับเรื่องคู่อยู่ตลอดเวลา แต่เจ้าชาตานี้เขามิได้เดือดร้อนเลย ...

... ชีวิตก่อนที่จะมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนของเขานั้น ในวัยรุ่นแม้จะได้เคยมีเรื่องรักๆมาบ้าง แต่นั่นก็มิได้เป็นเรื่องสำหลัก

สำคัญหรือเป็นเรื่องที่หนักหนาอะไร นั่นเป็นแต่เพียงเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ตามที่วัยรุ่นส่วนมากมักประสบกันเท่านั้น ...

... แต่เมื่อเขาได้มีคู่เป็นตัวเป็นตนแล้ว ชีวิตคู่ของเขามีความราบรื่นดีมาก ถึงแม้คู่ของเขาจะเป็นคนที่ได้ผ่านการมีคู่มาแล้ว

ก็ตาม แต่นั่นก็มิได้มาเป็นอุปสรรคในการครองรักครองเรือนของเขาเลย เขากับคู่ได้ร่วมกันสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะ อยู่ในขั้นที่เรียกว่าดีมาก ทั้งหมดนั้นจากคำบอกเล่าของเขา และจากคนใกล้ชิด จากนี้ขอได้มาดูดวงชาตาของเขา โดยเฉพาะ

ดูที่ภพปัตนิดูบ้าง ...

... ภพปัตนิ = ขั้นตอนของการพยากรณ์ ...

๑. ชีวิตคู่ของคุณ กล่าวได้ว่าอยู่ในขั้นที่ดีมาก ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนปัตนิอยู่ราศีตุลย์ เป็นเกษตร ...

๒. แต่ในวัยรุ่น [ ปุตตะ ] นั้น คู่ [ ปัตนิ ] ของคุณ ...

อธิบาย ... ดาวอาทิตย์ [ ๑ ] เจ้าเรือนปุตตะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์ภพปัตนิ = ปุตตะ + ปัตนิ คำว่าปุตตะหมายถึง ... วัยรุ่น ชีวิตใน

วัยรุ่น ระยะแรก เริ่มต้น คำที่กล่าวมานี้ ที่แล้วมาไม่ได้บอกไว้ ด้วยเกรงว่าจะเฟ้อไป แต่ในที่นี้เป็นขั้นตอนที่จะต้องใช้ จึงได้

นำมากล่าว ...

๓. ค่อนข้างจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตัว ...

อธิบาย ... ดาวอาทิตย์ [ ๑ ] เจ้าเรือนปุตตะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์เรือนของดาวศุกร์ [ ๖ ] = ๑ + ๖ , ดาวคู่สมพล , ที่นำด้านเสีย

ของคู่ดาวมาใช้ เพราะดาวอาทิตย์ [ ๑ ] มาอยู่ในตำแหน่งที่เสีย ซึ่งจะมีกล่าวในต่อไป ...

๔. ไม่น้อยเหมือนกัน ...

อธิบาย ... ดาวอาทิตย์ [ ๑ ] เจ้าเรือนปุตตะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์ เป็นนิจจ์ ...

๕. อีกอย่างหนึ่งการเงิน [ กฎุมภะ ] ของคุณ เมื่อมีคู่ [ ปัตนิ ] แล้ว ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนกฎุมภะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์ภพปัตนิ = กฎุมภะ + ปัตนิ

๖. จะมีความเป็นปึกแผ่น ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนกฎุมภะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์เรือนของดาวศุกร์ [ ๖ ] = ๖ + ๖ , ดาวคู่เกษตร ... จึงนำความ

หมายของดวงเกษตรมาใช้ ...

๗. และมีฐานะมั่นคงดี ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนกฎุมภะ มาอยู่ที่ราศีตุลย์เป็นเกษตร ...

๘. แต่เป็นที่น่าคิดนั่นคือ คู่ [ ปัตนิ ] ของคุณ เขาน่าจะได้เคยมีเพื่อน [ สหัชชะ ] ... มาแล้ว ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนปัตนิอยู่ที่ราศีตุลย์ แสงพุ่งไปตกที่ราศีมิถุนภพสหัชชะ = ปัตนิ + สหัชชะ , คำที่ว่าเพื่อนในที่นี้หมายเอาว่า ได้เคยมีคู่มาแล้ว เป็นสำคัญ ...

๙. อย่างเป็นตัวเป็นตน หรืออย่างเปิดเผยมาแล้วด้วย ...

อธิบาย ... ดาวศุกร์ [ ๖ ] เจ้าเรือนปัตนิอยู่ที่ราศีตุลย์ แสงพุ่งไปตกที่ราศีมิถุนเรือนของดาวพุธ [ ๔ ] = ๖ + ๔ ,ดาวคู่ธาตุ

ซึ่งหมายถึงความปึกแผ่น ในที่นี้หมายเอาว่า ได้เคยมีมาแล้วอย่างเปิดเผย ...

๑๐. แต่ว่าเขากับเพื่อน [ สหัชชะ ] นั้น ได้เลิก [ มรณะ ] กันแล้ว ...

อธิบาย ... ดาวพุธ [ ๔ ] เจ้าเรือนสหัชชะ เมื่อต้องแสงของดาวศุกร์ [ ๖ ] เข้าแล้ว ดาวพุธ [ ๔ ] ได้สะท้อนไปตกที่ภพมรณะ

= สหัชชะ + มรณะ , เพื่อนเสีย หรือ เพื่อนได้จากกัน

๑๑. เนื่องจากมีปากเสียงกัน ...

อธิบาย ... ดาวพุธ [ ๔ ] เจ้าเรือนสหัชชะ เมื่อต้องแสงของดาวศุกร์ [ ๖ ] เข้าแล้ว ดาวพุธ [ ๔ ] นั้นได้สะท้อนไปตกอยู่ที่ราศีพฤศจิก เรือนของดาวอังคาร [ ๓ ] = ๔ + ๓ , ดาวคู่วาทะ , ในที่นี้หมายถึงได้มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น ...

... จากขั้นตอนต่างๆของการพยากรณ์ ๑๑ ข้อที่ผ่านมา จะเห็นได้แล้วมิใช่หรือว่า " ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันดร์ " ...

นั้น สำหรับเจ้าชาตานี้เขามิได้ร้อนอะไรเกี่ยวกับเรื่องคู่เลย แม้คู่ครองเขาจะได้ชื่อว่า เป็นพ่อม่าย , แม่ม่าย คือได้ผ่านการมีคู่

มาแล้วก็ตาม แต่นั่นก็มิได้ทำให้เขาต้องเดือดร้อนอะไร กลับตรงกันข้ามเมื่อเขาได้มาอยู่ร่วมกัน ก็ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว

มีหลักฐานมั่นคงขึ้นมาเป็นอย่างดีเสียอีก ...

... ฉะนั้น จึงขอให้ทราบไว้ว่า กฏเกณฑ์ต่างๆ ที่หลายอาจารย์ท่านใช้กัน และมีกล่าวอยู่ในตำราเป็นส่วนมากนั้น ผู้เขียนมิได้นำมาใช้ ด้วยถือเอาการผสมภพผสมดาว และเดินตามขั้นตอนของการพยากรณ์ ตามที่ได้ใช้และทำมาให้ดูเป็นหลัก ...

... การพยากรณ์ภพปัตนิของดวงชาตานี้ เมื่อได้พยากรณ์ข้อ ๑ ถึงข้อ ๔ แล้ว ก็นำข้อ ๘ ถึงข้อ ๑๑ มาว่าตาม จากนั้นจึงนำ

ข้อ ๕ ถึงข้อ ๗ มาว่าต่อ ก็จะได้ความชัดเกี่ยวกับเรื่องที่คู่ของเขาได้เคยมีคู่มาก่อนแล้ว และเมื่อมาอยู่กับเขาเกิดผลดีอย่างไรนั้นจับความได้ง่าย ส่วนที่ได้จัดหัวข้อตามที่ได้ทำมาแล้วนั้น นั่นเป็นขั้นตอนของการพยากรณ์ ที่จะต้องเรียนต้องสอนกัน แต่เวลาออกสู่สนามพยากรณ์ คือพยากรณ์ให้แก่เจ้าชาตา เราจะต้องรู้จักดัดแปรงให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้นมาทุกครั้งไป ...

... ระบบเกี่ยวกับแสงของดาว นั้นหมายถึงกำลังส่งของดาวต่างๆ เช่น ดาว ๑ กำลัง 6 , ๒ กำลัง 15 , ๓ กำลัง 8 ,

๔ กำลัง 17, ๕ กำลัง 19, ๖ กำลัง 21 , ๗ กำลัง 10 , ๘ กำลัง 12 ... ตามตัวอย่างดวง ดาว ๖กำลัง 21 ให้นับจากดาว ๖ ที่

ราศีตุลย์เป็น 1 เมื่อนับถึง 21 จะตกราศีมิถุน เรือนสหัชชะ จากราศีมิถุนเรือนดาว ๔ ดาว ๔ ในดวงสะท้อนไปอยู่ราศีพฤศจิก

เรือนดาว ๓ = ๔ + ๓ ดังนี้แล ...เราอยากดูดาว อะไร เป็นเจ้าเรือนภพ อะไร ก็นับกำลังขึ้นมาจากดาวดวงนั้นได้ในทันที ...

ไปอยู่ราศีอะไรดาวเจ้าเรือนไปอยู่ไหนในดวงชาตาก็ตามไปอีก ก็คือการสะท้อนของดวงดาวนั่นเอง ...

... โอกาสหน้าผมจะลงบทความของ ท่าน อ. สถิตย์ สถิตยืนยง เกี่ยวกับ " แสงของดาว " ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...