ในช่วงนาทีวิกฤตของชีวิต

... จากปูมโหร อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

... เมื่อวันที่ ๓ ก.ย. ๒๕๕๖ ช่วงหัวค่ำ ก่อนกินอาหารเย็น ผมรู้สึกปวดท้อง จึงเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายในระหว่างปลดทุกข์อยู่นั้น สังหรณ์ใจก้มลงไปดู ...

อุจจาระปรากฎว่ามีเลือดปนอยุ่พอสมควร ในตอนนั้นก็ยังไม่คิดอะไรนัก เพราะคิดว่าอาจจะเป็นริดสีดวงทวารกลับมาเรียกถาม หาเท่านั้น ... ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกลับออกมาไปกินข้าวเย็นตามปกติ...พอกินอาหารเสร็จสิ้นสักครู่ รู้สึกปวดท้องขึ้นมาอีก จึงรีบวิ่งไปที่ ... ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แต่เกือบไม่ทัน ... พอถอดกางเกงเสร็จ อุจจาระพุ่งออกมาเป็นลิ่มๆอยู่จำนวนมากพอสมควร เริ่มรู้สึกผิดปกติขึ้นมาบ้าง ออกจากห้องน้ำแป๊บเดียวก็ปวดท้องอีกเป็นครั้งที่ ๓ เข้าห้องน้ำเที่ยวนี้ถ่ายออกมามีแต่เลือดล้วนๆเป็นจำนวนมากโขอยู่ ...

... พอมาเที่ยวนี้ผมไม่รอช้ารีบเรียกลูกชาย [ภู ] ให้รีบสตาร์ท รถพี่เขียวอย่างรวดเร็วพลางกล่าวว่า ...

" พาพ่อไป ร.พ.ด่วนภู " พอพูดเสร็จก็มีอาการหน้ามืด ใจหวิวๆ รีบร้องขอยาหอม และยาดมกับกิ่งฟ้า ...

[ ภรรยา ] ในทันทีอย่างมีสติ ....พอได้กินยาหอมและดมยาดมก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาอีกมาก สามารถก้าวขึ้นรถได้โดยไม่ต้องมีคนประคอง ... เมื่อไปถึง ร.พ.หัวหิน รีบตรงเข้าไปห้องฉุกเฉินในทันที ...

พบหมอ ไบรท์ [ รู้จักสนิทกันในตอนหลัง ] เข้าเวรอยู่รับเรื่องกับหมอ บอย [ รู้จักตอนหลังเหมือนกัน ] น่าแปลก พอมาถึง ร.พ.หัวหินเข้าจริงๆ อาการต่างๆกับปกติไม่มีอาการปวดท้องใดๆปรากฎขึ้นอีก ...

...หมอรอดูอาการอยู่ ๒-๓ ช.ม.จึงจัดส่งคนใข้คือผม นั่นเองไปที่ตึกศัลยกรรมชาย ชั้น ๕ รอดูอาการต่างๆอีกที ... ตกลงวันนั้นวันอังคารที่ ๓ ก.ย.๒๕๕๖ ผมนอน ร.พ.เป็นคืนแรก ในวันที่ ๔ ก.ย.ต่อมา ... เวลาถ่ายก็มีเลือดออกมาพอสมควรยังไม่มากนัก หมอก็ยังเพ่งเล็งไปที่ว่าน่าจะเป็นริดสีดวงทวาร ...

จึงจัดยาเช่น เพชรสังฆาต [ มาให้กินอยู่หลายวัน ] พอมาถึงวันที่ ๕ ก.ย.๒๕๕๖ ช่วงตอนเย็นๆ ...

[ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เข้า ร.พ.มาผมก็ใส่แพมเพิร์สมาโดยตลอดกันเลือดที่จะออกมาโดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า ...]

... ผมก็รู้สึกว่าเลือดได้ออกมาเป็นลิ่มๆอีกโดย ไม่ยอมหยุดง่ายๆ ออกมาเรื่อยๆจนรู้สึกใจหวิวๆรู้สึกเพลิน และสบายตัวมากๆ ในตอนนั้นกิ่ง ได้เรียกหมอมาดูอาการอย่างใกล้ชิดผมในตอนนั้นได้ยินเสียงหมอไบรท์บอกว่า ... เจ็บหน่อยนะ จะยัดเครื่องมือพ่นยาเข้าไปที่ทวาร ... สิ้นเสียงหมอไบรท์ที่ตะโกนพูด ผมก็รู้สึกว่าเห็นแสงสว่างวูบวาบขึ้นมาสว่างจ้า ... ตัวเองไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดต่างๆอีกแล้ว แต่จิตกับไปอยู่ที่เตียงคนใข้อื่น ไปได้ยินคนใข้ทะเลาะกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ... ตอนนั้นผมคิดในดวงจิตว่า ... ทะเลาะอะไรกัน ... ตรูจะตายอยู่รอมมะร่ออยู่แล้ว ... เวรกรรม ...

... พอคิดเสร็จจิตก็กลับมาที่เตียงของตนเอง ปรากฏว่าที่ตัวมีสายโยงยางเต็มไปหมดอาทิเช่น สายอ๊อกซิเจน สายน้ำเกลือ สายให้เลือด มองไปที่ตัวเองเห็นเลือดทะลักออกมาจากแพมเพิร์สออกมานองเตียงที่นอนอยู่ ... พยาบาลกำลังจะเปลี่ยนผ้าและเช็ดเลือดออก ทำความสะอาดเตียง ที่นอน ฯลฯ กิ่งมาเล่าตอนหลังว่าในตอนนั้นคิดว่าผมต้องจากเธอไปอย่างแน่นอน ...

... ตอนนี้เรามาดูที่ดวงจรวันเกิดเหตุกัน ...

... ดาวจรวันที่่ ๕ ก.ย.๒๕๕๖ ...

... ดาว ๓ ตนุลัคน์ผมในดวงเดิมเป็นประ อ่อนแออยู่แล้ว ดาว ๓ จรอยู่ที่ราศีกรกฏภพ ศุภะ [สุขภาพ] ได้ตำแหน่ง นิจจ์ อ่อนแอเบิ้ลเข้าไปอีก ทีนี้เรามาดูกันว่า ดาว ๓ มีความหมายถึง เลือด การกระตุ้น อวัยวะหมายถึง ทวารหนัก ดาว ๓ เดิมถูกดาว ๗ อุจจ์ [อย่างแรง ] จรกุมอยู่ที่ราศีตุลย์ภพ วินาสน์ ...

[ ไม่คาดฝัน รวดเร็ว ไม่รู้ตัว ] ดาว ๗ เดิมอยู่ภพ ลาภะ [ ส่วนเกิน ] ตามตำราท่าน อ. ส.ไชยนันท์กล่าวไว้ว่า...ภพลาภะหมายถึงสิ่งที่งอกเงย ถ้ามีดาว ๗ อยู่ที่ภพนี้ มักจะเป็นเนื้องอก เนื้อร้าย ... มะเร็ง ความจริงข้อความนี้ผมเห็นมานานแล้ว แต่เชื่อมั่นว่าดาว ๓ ตนุลัคน์ผมในนวางศ์เป็นอุจจ์สุดจะเข้มแข็งไร้เทียมทาน แต่ตัวเองลืมคิดไปว่า ดาว ๓ นอกจากเป็นตนุลัคน์แล้วยังเป็นเจ้าเรือนภพอริ [ โรคภัย ปัญหา อุปสรรค ] อีกด้วย ...

[ แบบนี้เขาเรียกว่าดูดีแบบเข้าข้างตัวเอง ] ...

...ในวันเกิดเหตุ ผมดูดาว ๓ ดาว ๒ และดาว ๑ แล้วก็นึกขำว่าเข้าตำราโบราณดีแท้ กล่าวคือ ... ดาว ๒ กุมอยู่กับดาว ๑ ซึ่งเป็นเกษตร [ เข้มแข็ง ] เท่ากับ ดาว ๒ คือภรรยา มาอยู่กับ ดาว ๑ เกษตร ก็คือสามีผู้เข้มแข็ง แต่ทว่า

ที่เรือนดาว ๒ มีดาว ๓ นิจจ์ [ เลวร้าย ] ดาว ๓ ก็คือคู่ชู้ที่แอบซ่อนนั่นเอง ...

[ ดาว ๓ นิจจ์อยู่เป็นวินาสน์กับดาว ๒ ] ในเมื่อดาว ๓ ได้แอบแฝงแบบนี้ มีหรือดาว ๑ เกษตร มีหรือจะไม่รู้ประสีประสาอะไร ... ดังนั้นเท่ากับ ...

ดาว ๓ หมายถึง ตนุลัคน์ [ตัวเรา ] + อริ [โรคภัย ] เลือด และทวารหนัก ...

ดาว ๑ หมายถึง ร่างกาย กิจกรรม การกระทำ ...

สมกับโคลงกลอนที่ว่า ๑ ผิด ๓ ... อาทิตย์ผิดอังคาร ...

๒+๓ หมายถึง คู่ชู้ ...

๑+๒ หมายถึง คู่ผัวเมีย ...

... สังเกตุในดวงเดิม ดาว ๕ ราชาโชค ที่คอยเล็งดูแล ดาว ๓ ประ เดิมนั้น ตอนนี้ดาว ๕ เดินอยู่ที่ราศีมิถุนภพมรณะ [เดือดร้อน เจ็บหนัก ] เป็นวินาสน์กับดาว ๓ นิจจ์ที่โคจรอยู่ที่ราศีกรกฏภพศุภะ[ สุขภาพ ] เกตุจรไปทับเกตุเดิม เพิ่มความวุ่นวายขึ้นมาอีก ดาว ๒ จรก็กุมทับดาว ๒ ในดวงเดิม ดาว ๖เจ้าเรือนภพวินาสน์ก็ไปกุม ดาว ๗ ในดวงเดิม ...

เข้าตำรา ศุกร์กับเสาร์เป็นเสี้ยนศัตรูเข้าไปอีกดาว ๔ เจ้าเรือนมรณะก็กุมดาว ๗เดิมอีกเหมือนกัน ได้คู่สมพลก็น่าจะดีอยู่บ้างแต่กลับให้โทษ ... เพราะดาว ๗ จรอยู่ที่ภพวินาสน์ลัคน์ ทับดาว ๓ ประเดิม ให้โทษ 100 %แถมยังมีดาว ๐ จรอยุ่ที่ราศีมีนภพ ปุตตะ [การเกิด ] เล็งดาว ๔ และดาว ๖ ที่กำลังพูดถึงอยู่พอดี ...

[ ดาว ๐ ในดวงเดิมอยู่ภพมรณะ ] แทบไม่รอด ...

... สรุปผมเป็นมะเร็งลำใส้ใหญ่ ต้องมีการผ่าตัด...ซึ่งการผ่าตัดก็เกิดขึ้นวันที่ ๑ ต.ค.๒๕๕๖ในวันนั้นดาว ๓ อยู่ที่ราศีกรกฏโอบหลังดาว ๒ ที่ราศีสิงห์ มีดาว ๑ กุมดาว๒ อยู่ที่ราศีสิงห์เข้าตำราเหมือนเดิมทุกประการ ...เป็นอุทาหรณ์ว่าโหราจารย์ทุกท่านเวลาดูดวงตัวเองอย่าเข้าข้างตัวเองเหมือนผมเป็นอันขาด ...

... นับว่าเป็นบทเรียนที่สุดแสนจะประเสริฐจริงๆครับ ...

... พบกันใน อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม โหราศาสตร์ไทย บทเรียน+บทความ ...

... ตามลิงค์ด้านล่างกันได้เลยนะครับ ...

อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม โหราศาสตร์ไทย

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...