ดวงชาตา อ.ศรีนวล [ วัดทุ่งสาธิต ]

... จากปูมโหรของ อ.พลูหลวง ...

... ดวงชาย เกิดวันที่ ๒๘ ก.ค. ๒๔๘๐ เวลา ๙.๐๕ น.

... วันพุธ แรม ๕ เดือน ๘/๘ ปีฉลู ...

... โยคเกณฑ์ ...

๑ ... ดวงได้ตรีโกณ มีดาวพุธ เนปจูน กุมลัคนา พฤหัสบดีเกษตร และ มฤตยูตรีโกณถึง ...

๒ ... ดาวศุกร์อยู่ในภพที่ ๑๐ ต่อลัคนา เป็นปํศวะเกณฑ์ ถือว่าเป็นองค์เกณฑ์ที่ให้คุณ ...

๓ ... ดาวอังคารเป็นเกษตรอยู่ในภพที่ ๔ อันเป็นภพเกณฑ์ ได้เกณฑ์ปัญจมหาบุรุษโยค ตามหลักโหราศาสตร์ฮินดู ...

... วิจารณ์ ...

๑.ดาวอาทิตย์ตนุลัคน์กุมดาวพลูโต ทำให้สนใจในเรื่องไสยศาสตร์ และการปฏิบัติทางจิต ด้วยพลูโตเป็นดาวเกี่ยวกับทางนี้โดยตรง ตนุลัคน์ไปอยู่วินาศนะ ทำให้ท่านต้องไปศึกษาความรู้ยังที่ไกล และไปสร้างวัดอยู่ในที่ห่างไกลจากชุมชน โดยไปอยู่ยังทุ่งนาที่ห่างไกลจากถนนหลวงลึกเข้าไปมาก ...

๒.ดาวเนปจูน พฤหัสบดี และมฤตยู สามดวงนี้เป็นดาวเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตรีโกณถึงลัคนา ทำให้ท่านมีวิชาและความโน้มเอียงไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเร้นลับ และสามารถใช้วิชานั้น ได้ผลอย่างดียิ่ง ...

๓.ดาวมฤตยูเจ้าแห่งการเดินทางไปสถิตอยู่ภพที่ ๙ อันเป็นภพเกี่ยวกับการเดินทางไกล อาจารย์ศรีนวลจึงได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ...

๔.ท่านสามารถสร้างวัดด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองอย่างใหญ่โต และสวยงาม ก็เพราะว่าดาวอังคารเจ้าเรือนภพที่ ๔ อันเป็นภพเกี่ยวกับสถานที่อยู่ หรือวัดของท่านเป็นดาวเกษตรมีพฤหัสบดีเกษตรนำหน้าให้คุณ ดาวศุกร์คู่มิตรของอังคารเล็งให้คุณเข้มแข็ง ...

๕.ดาวศุกร์ศิลปลอยกลางฟ้าเหนือศรีษะขณะเกิด ทำให้ท่านสนใจต่อการสร้างวัดอย่างสวยงาม ดาวศุกร์ยังเป็นดาวเกี่ยวกับสมาธิด้วย จึงมีส่วนส่งเสริมให้สมาธิของท่านได้รับการฝึกฝนแล้วอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ...

๖.ท่านประสพความสำเร็จในการสร้างวัด และมีชื่อเสียงโด่งดังในวัยหนุ่มก็เนื่องด้วยดาวประจำวัยหนุ่ม คือ ดาวพุธ ...

[ ๑๑ - ๒๐ ปี ] ... ดาวศุกร์ [ ๒๑ - ๓๐ ปี ] ... และดาวอังคาร [ ๔๑ - ๕๐ ปี ] ... ล้วนแต่เป็นดาวเด่นทั้งสิ้น ...

๗.ดาวราหูไปเบียนอยู่ภพที่ ๔ [ ภพที่ ๔ = บ้าน, สถานที่อยู่ ] ... ทำให้ท่านต้องโยกย้ายวัดอยู่ตลอดเวลา จนสามารถสร้างวัดของตนเองได้สำเร็จ แม้กระนั้นก็อยู่ไม่ติดวัดต้องเดินทางจากวัดอยู่เสมอ รวมทั้งไปต่างประเทศครั้งละนานๆ ...

... ผมขอวิจารณ์เสริมเพิ่มเติม ขยายความให้ชัดเจนขึ้นนะครับ ...

... ตามตำราโบราณครูโหร [ อ.พันเอก เอื้อน ] ... ท่านกล่าวไว้ว่า ดวงชาตาใดตนุลัคน์ ไปอยู่เรือนวินาศน์ หรืออยู่เรือนมรณะ เรียกว่า " คนมีดวง " ...

... จะเป็นคนมีลางสังหรณ์แม่นยำ มีความผูกพันธ์กับจิตวิญญาน สามารถที่จะเป็นร่างทรงได้ ... มีพลังที่เข้มแข็ง เป็นคนที่มีอาคมขลัง ในตัวเอง ฯ ...

... ดาวเนปจูน กุมลัคน์ เป็นเจ้าเรือนมรณะ ทำให้ตลอดชีวิตของท่านต้องเดินทางอยู่เสมอ ไม่จบสิ้นถึงแม้ว่าจะมีวัดของท่านเองแล้วก็ตาม แต่ตามประวัติมักจะต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ...

... เพราะเหตุที่ว่าดาวเนปจูนเป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ [ การเดินทาง, ลำบากลำบน ,ทุกข์ยาก,เดือดร้อน ] ... ดังนั้นท่านจึงมีชีวิตที่ค่อนข้างจะอาภัพในยามเยาว์วัย ...

... หรือจะอ่านจากดาว ๕ มรณะ [ ทุกข์ยาก ,ความเดือดร้อน ] ... มาอยู่เรือนปุตตะเป็นเกษตร [ ตั้งแต่เยาว์วัยมาเสมอ ] ...

... แปลว่า ... ท่านมีชีวิตที่ต้องเดินทางและประสบกับความทุกข์ยาก ลำบากลำบนมาเบียดเบียน ... ตั้งแต่ยังอ่อนวัยอยู่เสมอ ๆ ...

... เราลองตั้งจากดาว ๑ ตนุลัคน์ที่ราศีกรกฏเป็นลัคนาที่ ๒ จะเห็นว่าดาว ๖ พันธุ [ วัด,สถานที่,บ้าน ] ... ไปอยู่เรือนลาภะ ...

[ ความสำเร็จ,ดังใจหวัง ] ... เป็นเกษตร [ แน่ๆ ] ...

... แปลว่า ท่านสามารถสร้างวัดที่สวยงาม [ ดาว ๖ ] ... ขึ้นมาได้แน่ๆ [ เกษตร ] ... ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ [ ลาภะเกษตร ] ...

... ย้อนกลับมาดูดาว ๒ ตนุลัคน์ ตัวที่ ๒ ไปอยู่เรือน ศุภะ [ ฝักใฝ่ในศาสนา ] ... ดาว ๕ เรือนศุภะไปอยู่เรือนอริ ...

[ ความบากบั่น , ความสำเร็จในกิจกรรม ] ... เป็นเกษตร [ มีความสำเร็จอย่างแน่นอน ] ... แถมยังมีดาว ๑ [ ได้มา ] ... และ

ดาว ๖ พันธุ + ลาภะ = สถานที่ + ความสำเร็จ ...

... ในกรณีที่ดาวในดวงชาตาเดิมเป็นเกษตร ไม่ไปไหน เราก็ขับดาวที่เป็นเกษตรในระบบแสงของดาว ตามวิธีขับระบบแสงของดาวของ ...

... อ.สถิตย์ สถิตยืนยง [ ส.ศรีอยุธยา ] ...

... อย่างในดวงนี้ดาว ๕ ปุตตะ + มรณะ [ สิ่งที่เกิดขึ้น + การเดินทาง ] ... อยู่ที่ราศีธนูเรือนปุตตะ ขับแสงของดาว ...

... ดาว ๕ กำลัง ๑๙ ... นับจากราศีธนู เป็นกำลัง ๑ ... กำลัง ๑๙ ... ดาว ๕ แสงจะตกที่ราศีมิถุน เรือนลาภะ ...

... ได้ตำแหน่งประ ... [ ประปราย, ประจำ,บ่อยๆ ] ...

... ส่วนดาว ๓ พันธุ + ศุภะ [ การเดินทาง + ต่างถิ่นต่างแดน ] ... อยู่ที่ราศีพฤศจิกเรือนพันธุ ขับแสงของดาว ...

... ดาว ๓ กำลัง ๘ ... นับจากราศีพฤศจิก เป็นกำลัง ๑ ... กำลัง ๘ ... ดาว ๓ แสงจะตกที่ราศีมิถุน เรือนลาภะ ...

... เท่ากับ ดาว ๓ แสงอยู่ที่เดียวกับ แสงของดาว ๕ = ๓ + ๕ ... ได้คู่สมพลมีพลังที่สมบูรณ์เต็มพิกัด ...

... ทั้งนี้ทั้งนั้น ดาว ๓ + ๕ ต่างอยู่ที่ราศีมิถุนเรือนลาภะ [ ความตั้งใจ, ความสำเร็จ , ชัยชนะ ] ...

... ดาว ๔ เจ้าเรือนไปกุมลัคน์ อ่านว่า ... ลาภะ + กฎุมภะ [ ความสำเร็จ + ได้มา ] ... มาสู่เจ้าชาตา ...

... ส่วนดาว ๖ กัมมะ + สหัชชะ [ ภาระกิจ + การเกี่ยวข้อง ] ... อยู่ที่ราศีพฤษภเรือนกัมมะ ขับแสงของดาว ...

... ดาว ๖ กำลัง ๒๑ ... นับจากราศีพฤษภ เป็นกำลัง ๑ ... กำลัง ๒๑ ... ดาว ๖ แสงจะตกที่ราศีมังกรเรือนอริ ...

... [ บากบั่น, ฟันฝ่า ,อดทน ] ...

... ถ้าตั้งราศีพฤษภเป็นลัคนาของกัมมะ ราศีมังกรย่อมเป็นเรือนศุภะ [ ความสำเร็จ ] ... ของลัคนากัมมะทันที ...

... ในทุกมุมใน ๑๒ ราศีเราสามารถตั้งภพเรือนขึ้นมาซ้อนลัคนาเดิมได้ในทันที เช่นจะดูเรื่องกัมมะ ก็ตั้งเรือนกัมมะเป็นลัคนาของกัมมะ ... ถ้าจะดูเรื่องพันธุ ก็ตั้งเรือนพันธุเป็นลัคนาของพันธุ ... จะดูเรื่องอะไรก็ตั้งเรือนนั้นๆเป็นลัคนาได้ในทันทีที่เราจะพยากรณ์ เรื่องราวต่างๆ ... ซึ่งถ้านักศึกษาไม่ชำนาญในเรื่องภพ + เรือน ก็อาจจะเกิดอาการมึนงงขึ้นมาได้ ในฉับพลัน ...

แต่ถ้าคล่องเรือนคล่องภพ ... การทำนายก็จะเกิดความวิจิตรพิสดาร ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ... สุดท้ายนี้ขอให้นักศึกษาโหราศาสตร์ทุกคนจงประสบความสำเร็จตามใจปรารถนาทุกประการ ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...