... เมื่อปฐมกัป ก่อนหน้านี้ยังไม่มีโลกเกิดขึ้น พระพฤหัสบดีก็ได้ไปชวนพระอาทิตย์ พระอังคาร พระเสาร์ และพระราหูมา
ช่วยกันร่วมมือ ... สร้างน้ำและดินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อโลกขึ้นมา ...
ฝ่ายพระราหูก็บอกว่า ... " อันตัวเรานั้น น้ำก็ไม่ได้อยู่ ดินก็ไม่ได้เดิน เราลอยไปลอยมา ... [ ราหูเป็นธาตุลม ] ... แล้ว
เราจะไปช่วยท่านสร้างด้วยทำใมเล่า " ... ตกลงก็เลยเหลือเพียง พระพฤหัสบดี พระอาทิตย์ พระอังคาร และพระเสาร์
เท่านั้น ... ที่ช่วยกันสร้างโลก ... พระพฤหัสบดีหลังจากสร้างโลกเสร็จก็ไปเป็นพระอินทร์ รักษาเขาพระสุเมรุ พระอาทิตย์
ก็ไปเป็นพญาครุฑอยู่ที่วิมานฉิมพลี หรือวิมานต้นงิ้ว พระอังคารไปเป็นพญาราชสีห์ รักษาป่าหิมพานต์ ส่วนพระเสาร์ก็ไป
เป็นพญานาค รักษามหาสมุทร ปกติพระเสาร์จะเป็นเกษตรอยู่ที่ราศีมังกร ซึ่งหมายถึงแพะทะเล ก็คือหัวเป็นแพะ ตัวเป็น
ปลา จะสังเกตุได้ว่า พระเสาร์จะเป็นตัวแทนอะไรก็ตามที่ยาวๆ เช่นถนนหนทาง รถไฟ เส้นบะหมี่ ฯ ...
...ต่อจากนี้ไปก็เกิดวิบากกรรมคือการมีเวรกรรมต่อกันและกัน พระอาทิตย์ที่เป็นพญาครุฑนั้นเกิดหิวขึ้นมา จึงไล่จับ
พญานาคกินเป็นอาหาร ...
... พญาครุฑ ...
... พญานาค ...
พญานาคเห็นพญาครุฑมา ก็เลยหนีไปพึ่งพระราหู ส่วนพระราหูเห็นพระเสาร์มาพึ่งตนเอง ก็เกิดความโกรธกับพระอาทิตย์
เพราะคิดว่าก่อนหน้านี้ยังช่วยกันสร้างโลกอยู่เลย แล้วพอวันนี้จะมาทะเลาะกันและไล่กินกันทำไม ... พระราหูนั้นตัวใหญ่
พระอาทิตย์เห็นเข้าก็ตกใจบินหนีไปที่เขาพระสุเมรุ ... ระหว่างไล่ล่าพระราหูก็เกิดกระหายน้ำ พอเห็นน้ำก็เลยเข้าไปกินพอ
เข้าไปกินเสร็จแล้วหารู้ไม่ว่า น้ำนั้นคือน้ำอมฤต เมื่อพระอาทิตย์ไปขอร้องให้พระอินทร์ช่วย พระอินทร์ออกมาเห็นปรากฏว่า
มาเห็นตอนที่พระราหูกำลังดื่มน้ำอมฤตอยู่พอดี พระอินทร์ก็เลยโกรธจัด เพราะตอนไปชวนไม่ยอมสร้าง แต่ตอนที่สร้างมา
ด้วยความยากลำบากเมื่อได้ผลแล้ว พระราหู กลับมาดื่มกินได้ อย่างไร เลยขว้างจักรตัดพระราหูออกเป็น 2 ท่อนก็คือท่อน
ยักษ์ แล้วก็ท่อนนาค ... แต่ด้วยความที่พระราหูนั้นดื่มน้ำอมฤตแล้วไม่ตาย พระราหูก็เลยเหลือกายครึ่งท่อน เพราะฉะนั้น
ถ้าเราไปไหว้พระราหู จะเห็นได้ว่าพระราหูนั้นจะมีแค่ครึ่งท่อนเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากใครไปไหว้พระราหูแล้ว เจอพระราหูที่มี
หางเป็นนาคด้วย แสดงว่าตอนนั้นยังไม่เจอพระอินทร์ ...
... พระอินทร์ ...
... พระราหู ...
... ตอนนี้เรามาดูกันว่านิทานชาติเวรเรื่องนี้สอนอะไรพวกเรากันบ้าง ...
... อย่างแรก พระพฤหัสบดี มักหมายถึง ผู้ทรงศีล เป็นนักบวช เป็นผู้มีวิชาความรู้ ฯ ...
... พระอาทิตย์ หมายถึง พญาครุฑ จะสังเกตุได้ว่ารถที่เป็นขบวนเสด็จจะมีธงพญาครุฑอยู่ ซึ่งพญาครุฑนั้นก็หมายถึง ...
... พระมหากษัตริย์ เพราะพญาครุฑนั้นเป็นพาหนะของพระนรายณ์ ซึ่งในคนไทยในสมัยก่อนนั้น เราจะให้พระมหากษัตริย์
นั้นเป็น ... สมมุติเทพ ... คือเปรียบเสมือนเป็นเทวดานั่นเอง ในเมื่อเป็นเช่นเทวดาก็ย่อมต้องผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ก็คือ
พญาครุฑ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ... เครื่องหมายแทนพระมหากษัตริย์ก็คือพญาครุฑ ...
... ส่วนพระอังคารในเรื่องนี้ไม่ได้มีบทบาทอะไรนัก มีแค่บอกว่าเป็นพญาราชสีห์ ซึ่งเราจะตีความได้ว่า พระอังคารนั้นก็คือ
สัตว์มีเขี้ยว เป็นของแหลมคม ...
... ส่วนพระเสาร์นั้นเป็นพญานาค ความหมายก็เกี่ยวกับสิ่งที่ยาวๆ เช่นเส้นก๊วยเตี๋ยว ขนมจีน เส้นหมี่ ถ้าเป็นพาหนะก็หมาย
ถึง รถไฟ รถไฟฟ้า ฯ ... พระเสาร์แปลว่าอะไรที่ยาวๆ ถนนหนทาง ก็ใช่ด้วย ...
... ตอนนี้เรามาเน้นกันดูว่าดาวอะไรไม่ถูกกับดาวอะไร? ...
... สรุปว่า ...
... พระอาทิตย์ไม่ถูกกับพระเสาร์ เพราะพระอาทิตย์ไปไล่ล่าพระเสาร์ ...
... พระเสาร์เป็นมิตรกับพระราหู เพราะพระราหูไปช่วยพระเสาร์ เพราะฉะนั้น เสาร์กับราหู จึงเป็นคู่มิตรต่อกัน ...
... พระราหูจึงหมายถึงบุคคลที่ใจดีอย่างไม่มีเหตุผล เพราะพระเสาร์ก็ไม่ได้มีบุญคุณกับพระราหู อยู่ๆพระเสาร์ก็บอกให้
พระราหูช่วยตนเอง พระราหูก็ช่วยแบบไม่มีเหตุผลคือไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ช่วย ให้ทำอะไรก็ทำให้ ดังนั้นพระราหูจึงหมาย
ถึง การไม่มีเหตุผล นึกจะทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจ ฯ ...
... พระอาทิตย์เป็นคู่มิตรกับพระพฤหัสบดี เพราะเวลาที่พระอาทิตย์เดือดร้อนก็ให้พระพฤหัสบดีมาช่วย ...
... ดังนั้นเราจะได้คู่มิตร 2 คู่คือ ...
... พระเสาร์เป็นมิตรกับพระราหู ...
... พระอาทิตย์เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี ...
... สุดท้ายนี้ พฤหัสบดีเมื่อเจอ พระราหู ครูท่านว่า ... ลาภนั้นจะหายไปครึ่งนึง ลาภนั้นได้ไม่เต็มคือจะโดนขัดลาภ ...
เพราะว่า ... เวลาที่พระพฤหัสบดี กับพระราหูมาเจอกัน พฤหัสบดีก็จะใช้จักรตัดพระราหูขาดออกไปครึ่งหนึ่ง ถ้าในดวง
ชาตาใดมีพระพฤหัสบดี และพระราหู จรมาเจอกันหรือถึงกัน ส่วนมากทำอะไรก็ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จะได้แค่ครึ่งเดียว
แต่ ... ด้วยพฤหัสบดีนั้นเป็นครูบาอาจารย์เป็นผู้มีความรู้ และมีสติปัญญา ... ส่วนพระราหูเป็นดาวมัวเมา ... เมื่อเอาสติ
ปัญญากับความมัวเมามารวมกันจะทำให้เป็นคนกะล่อน ... ในดวงเดิมของผู้ใดถ้ามีพฤหัสบดีและราหูถึงกันจะเป็นคน ...
กะล่อน ไหวพริบดี แต่พลิกแพลงเจ้าเล่ห์ ฯ ... และในดวงเดิมมี เสาร์ กับ ราหู กุมกันโดยมากจะเป็นคนใจถึง ... เพราะว่า
คู่มิตรคู่นี้เป็นคู่นักเลง ... ส่วนอาทิตย์กับพฤหัสบดี ถ้ากุมกันหรือถึงกัน มักจะได้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่ จากที่ได้กล่าวมา
แล้วนี้เราสามารถนำไปใช้ได้กับดวงเดิมและดวงจร ...
... นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ...
... เมื่อดาว ๕ ,๑ ,๓ ,๗ มามีความสัมพันธ์กัน มักจะได้ร่วมมือกันทำกิจการที่ใหญ่โต และมีความสำคัญมาก ...
... อาทิตย์ จะเป็นครุฑ รักษาเขาสัตตะบริภัณฑ์ ต้องเป็นเขาที่เป็นที่รับลม เช่นอยู่ ราศีธาตุลม ...
... อังคาร จะเป็นราชสีห์ เมื่อได้รักษาป่าหิมพานต์ เมื่อเป็นป่าก็ต้องเป็น ราศีที่เป็นธาตุดิน ... ทำให้เกิดป่าไม้
... เสาร์ จะเป็นพยานาครักษามหาสมุทร ก็ต้องอยู่ในน้ำ เช่น ราศีธาตุน้ำ ...
... พฤหัสบดี จะเป็นพระอินทร์ รักษาเขาพระสุเมรุซึ่ง ก็ต้องอยู่ ราศีธาตุไฟ ... เพราะไฟหมายถึงสิ่งซึ่งเป็นแสงสว่างดุจดัง
ปัญญา คง มีแต่ในสวรรค์ คือเขาพระสุเมรุนี่เอง ...
... และ พระราหู อยู่ที่ไหนก็เขาเคยบอกว่าเขาไม่ต้องอาศัยน้ำและดิน ดังนั้นก็อยู่กลางอากาศ ก็คงต้องให้อยู่ ...
... ราศีธาตุลมและไฟ ...
... เมื่อเกิดความวิปริต แสดงว่า ๑ ครุฑ อาจกลายเป็นนิจ เป็นประ จึงหิวเพราะอาหารไม่พอ ที่มีก็น้อย หรือ ไม่สมบูรณ์ มี
มาไม่ต่อเนื่อง จึงไปไล่กินพยานาคแทน ดังนั้น เมื่อ ๑ เป็น ประ เป็น นิจ แล้วมีความสัมพันธ์กันกับ ๗ จะทำให้ เกิดความ
เดือดร้อนต้องหนีภัย ต้องเดินทางไกลเพราะถูกรังแก จนต้องไปหาที่พึ่งเพื่อให้พ้นความทุกข์ ซึ่งตอนนั้นกรรมมันบังทำให้
คิดไปพึ่ง ๘ เป็นคนที่ถือว่าไม่ได้ใยดีกับตนเองมาก่อนก็ตาม [ ตอนสร้างโลก] ... แต่เพราะเสาร์ ได้เข้าไปอ่อนน้อม
ยอมรับพระราหูเป็นที่พึ่ง ... พระราหู จึงเข้าไปช่วย เสาร์ ในทันที ...
... ดังนั้น เมื่อ ๗ สัมพันธ์กับ ๘ ก็จะได้ที่พึ่งเพราะความอ่อนน้อมเข้าไปหาผู้มีอิทธิพล เพื่อให้ได้มาซึ่งความช่วยเหลือเป็น
ลักษณะมิตรที่เป็นนักเลง ดังนั้น ส่วนมากก็จะเป็นช่วงที่ ๗ สัมพันธ์กับ ๘ ที่อยู่ธาตุลม หรือธาตุไฟ ...
... เมื่อ ๑ เป็น นิจ หรือ ประ เมื่อถูก ๘ สัมพันธ์ถึงกัน ก็ทำให้เดือดร้อนมากขึ้น ต้องถูกผู้มีอิทธิพล ก่อกวน ทำให้ต้องจาก
ที่ ลาภที่จะได้ ก็ถูกขัดขวาง ต้องเดินทางโดยเร่งรีบไปยังที่อื่น เพื่อแสวงหาลาภผลเป็นที่พึ่งแห่งตน ...
... เรื่องราวจากนิทานชาติเวร นี้ถ้าเราจดจำเนื้อเรื่องว่าดาวดวงใดที่เป็นคู่มิตรกัน หรือว่าดาวดวงใดเป็นคู่ศัตรูกัน จะทำให้
สะดวกต่อการวินิจฉัยดวงชาตาเป็นอย่างมาก อย่างที่ถ้าดาวพฤหัสบดีจะมาเจอกับ ราหู ถ้าเป็นลาภก้อนใหญ่ก็อาจจะโดน
เชือดตัดแบ่งออกไปตามชาติเวรที่ได้กล่าวไว้แล้วในนิทานชาติเวร ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...