... จากปูมโหร อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
... ดวงชาย ... เกิดวันที่ ๔ พ.ค.๒๕๐๓ ...
... เวลา ๑๕.๒๓ น. วันพุธ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด ...
... ชีวประวัติ ...
... เจ้าชาตาเป็นทหารเรือยศนายพล เป็นคนพูดจาโผงผางไม่เกรงกลัวผู้ใด มีเจ้านายรักใคร่เอ็นดูคอยแอบช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ทำให้หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองดี มีบุตร ๓ คน คนที่ 1. เป็นหญิง ... ดื้ออยู่บ้างแต่คุยกันรู้เรื่องหน่อย คนมี่ 2. เป็นชาย ... คนนี้สุดๆ เป็นตัวเจ้าการเรื่อง " ดวงทุกข์ใจเพราะบุตร " ... สร้างปัญหา และความเดือดร้อนต่างๆ ให้พ่อตนเองสารพัดสารพัด รักเพื่อน คบเพื่อนไม่รักดี การเรียนไม่สนใจ ฯลฯ ... คนที่ 3. เป็นหญิง ... คนนี้ว่านอนสอนง่าย ...
... เจ้าชาตาเป็นทหารเรือ ...
... ดาว ๓ หมายถึง ทหาร อยู่ราศีมีน ธาตุน้ำ ตรีโกณกับดาว ๒ หมายถึง น้ำ เป็นเกษตร แน่นอน ...
... ทหาร + น้ำ = ทหารเรือ ...
... มียศ เป็นนายพล ...
... ที่จริงคนที่จะได้เป็นนายพล ดาว ๑ กับดาว ๓ มักกุมกันอยู่ อย่างดวงนี้ไม่กุมกัน แต่ถ้าตั้งดาว ๓ ทหารเป็นตนุก็จะมีดาว ๑ ยศศักดิ์ เป็นศูนย์พาหะนำหน้าอยู่ ดาว ๑ อยู่เรือน ๓ ... ดาว ๑ ก็จะตามกระแสไปกุม ดาว ๓ ได้เช่นกัน ... ในตอนนี้ดาว ๓ มีความหมายคือ เรือนศุภะ [ ความสำเร็จ ความก้าวหน้า ] ... + กฎุมภะ [ การได้มา ] ... มา
กุมลัคน์ มีน ... เท่ากับว่ามีสิทธิ์มียศได้เป็นนายพลแน่ๆ ...
... ที่ว่าเป็นคนพูดจาโผงผางไม่เกรงกลัวผู้ใด ...
... ตามตำรา อ.พลูหลวง กล่าวไว้ว่า ... ดาว ๔ อยู่เมษเรียกกันว่า พุธนักเลง เพราะ ดาว ๔ หมายถึงปาก ดาว ๓ หมายถึง บาดแผล, ความคมของมีด ... ดังนั้นดาว ๔ อยู่เรือน ๓ จึงเรียกว่า " พุธนักเลง " ...
... มีเจ้านายรักใคร่เอ็นดูคอยแอบช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ...
... ดาว ๖ เจ้าเรือน กฎุมภะ [ ได้มา ] + ศุภะ [ เจ้านาย ] ... กุม ดาว ๔ ตนุ [ เจ้าชาตา ] + กัมมะ [ งาน ] ...
... ๖ + ๔ ได้คู่ธาตุ และยังกุมกับดาว ๑ ยศศักดิ์ ... ๖ + ๑ ได้คู่สมพลอีกคู่ ...
... ทั้งหมดที่กล่าวนี้กุมกันอยู่ที่เรือนมรณะ [ แอบ, ปิดบัง,ลับๆ ] ...
... แปลได้ใจความว่า ... ในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานของเจ้ชาตามีผู้ใหญ่คอยแอบช่วยเหลืออยู่เป็น ประจำ ...
... ดาว ๓ มรณะไปอยู่เรือนปัตนิ [ ประจำ ] ...
... มีบุตร ๓ คน คนที่ 1. เป็นหญิง คนที่ ๓ เป็นหญิง ...
... ดาว ๗ บุตรอยู่เรือนดาว ๕ ... ดาว ๓ อยู่ราศีมีนแฝงเกษตรมาที่ราศีธนู ทำให้เจ้าชาตามีบุตร ๓ คน ...
... คนที่ ๑ นับที่ราศีมังกรดาว ๗ อยู่ราศีธนูเรือนพันธุ [ มารดา ] เป็นเกษตร [ แน่ๆ ] ... ลูกคนที่ 1 เป็นเพศเดียวกับมารดา จึงเป็นลูกสาว ...
... คนที่ ๓ นับที่ราศีมีน เป็นดาว ๕ มาอยู่เรือนพันธุ - แม่อีก ก็เลยเป็นลูกสาวอีกคน แต่นิสัยไปทางผู้ชายเพราะมีดาว ๓ ผู้ชายกุมลัคน์อยู่ ...
... คนที่ ๒ เป็นตัวเจ้าการเรื่อง " ดวงทุกข์ใจเพราะบุตร " ...
... คนที่ ๒ นับที่ราศีกุมภ์เป็นลัคนา ๘ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีสิงห์ อยู่เรือนดาว ๑ - ผู้ชาย ... ซึ่งดาว ๑ เป็นอุจจ์มีกำลังแรง กุมดาว ๔ บิดา [ เจ้าชาตา ] ... ดังนั้นจึงเป็นลูกชาย ... และลูกชายนี่แหละที่ทำความทุกข์ให้บิดาเพราะ ๘ ลูกชายอยู่เรือนวินาสน์ [ ทุกข์ใจ ] ... ดาว ๑ ไปเป็นอุจจ์อยู่ที่ราศีเมษเรือนมรณะ [ เดือดร้อน ] ... และอย่าลืมว่า ๘ ก็มาจากเรือนอริ [ ตัวปัญหา ] ...
... ดังนั้นลูกชายคนที่ 2 ก็คือตัวปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนและความทุกข์ใมาสู่เจ้าชาตาโดยตรงเป็นประจำ ...
... ตั้งราศีกุมภ์เป็นลัคนาของลูกคนที่ ๒ ... ดาว ๔ เจ้าเรือน ปุตตะ [ การเกิด ] + มรณะ [ ความเดือดร้อน ] ...
ไปอยู่ราศีเมษเรือนสหัชชะ [ เพื่อน ] + กัมมะ [ การกระทำ ] ... กุมดาว ๖ ประ เจ้าเรือนศุภะ [ บิดา ] + พันธุ ...
[ มารดา ] ... ยังกุมดาว ๑ เจ้าเรือนปัตนิ [ ปัญหา ] ... ดาว ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมีนเรือนกฎุมภะ [ เงิน ] + ลาภะ ...
[ ความโลภ ] ... ดาว ๕ เจ้าเรือนไปกุมดาว ๗ วินาสน์ [ หายนะ, เห็นผิดเป็นชอบ ] ...
... แปลว่า การที่ตัวลูกชายคบเพื่อนไม่ดี กระทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่งาม ละโมบในทรัพย์ มัวเมาในอบายฯลฯ จะทำให้เกิดความหายนะและนำความเดือดร้อนมาสู่บิดาและมารดาของตนเองได้ในที่สุด ...
... การวิจารณ์ดวงชาตาต่างๆในดวงชาตานี้เน้นวิจารณ์ตามหัวข้อที่เป็นข้อมูลจากชีวประวัติเท่านั้น ไม่ได้ตอบไปเสียทุกเรื่อง ... อย่างเรื่องคู่ครอง การงานในดวงนี้จะเห็นได้ว่ามิได้กล่าวถึงเลย เพราะในชื่อเรื่องเน้นไปเกี่ยวกับ " ดวงทุกข์ใจเพราะบุตร " ... เท่านั้น ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...