ดวงชาตา อ.ผู้เรืองเวทย์

... คัดมาจากปูมโหร ของท่าน อ.พลูหลวง [ จากในหนังสืออาถรรพณ์ พยากรณ์ ] ...

... ดวงพิสดาร ...

... ดวงชาตาที่ ๑. อ.ผู้เรืองเวทย์ ...

ชายเกิด ๔ ฯ ๑๒ ปีมะเส็ง

๕ พฤศจิกายน ๒๔๘๔

เวลา ๑๑.๕๕ น.

... ดวงนี้หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็ก ภายหลังได้ไปบวชเณรติดตารมอาจารย์ธุดงค์ไปจนถึงป่ากระเหรี่ยงชายแดนพม่า อาจารย์ถึงแก่กรรมกลางป่า ตนเองกลับมามีชื่อเสียงขลัง คนนับถือมาก ภายหลังบวชแล้วถูกเกณฑ์เป็นทหาร ปลดจากทหารก็ท่องเที่ยวพเนจรไปทั่วสาระทิศ ... และมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์ อยู่ไม่ติดที่ ...

... กฏเกณฑ์ที่ทำให้ต้องพเนจรที่เห็นได้ชัดมีสองประการคือ ...

๑.เสาร์บาปเคราะห์ไปครองอยู่ภพที่ ๔ คือบ้าน เมื่อบาปเคราะห์เบียนบ้าน จึงทำให้อยู่ไม่ติดที่ ร้อนที่อยู่ ...

๒.เมื่อเกิดอาทิตย์อยู่กลางศรีษะพอดี คู่กับดาวพุธอันเป็นดาวพเนจร ทั้งยังเป็นเจ้าเรือนภพที่เก้า หมายถึงการเดินทางไกลโดยตรง จึงส่งผลให้ต้องจรไปยังสาระทิศต่างๆ ผู้ใดอยู่ภายใต้อิทธิพล ของดาวอาทิตย์ มักจะอยู่ไม่ติดที่เสมอ ...

... ส่วนดาวที่ทำให้ขลัง เก่งทางเวทย์มนต์คาถา การพยากรณ์ ให้สังเกตว่า ดาวเกี่ยวกับอำนาจจิตและของขลังสัมพันธ์ถึงลัคนาหมดทุกจุด คือ ๕ ๐ กับเนปจูนตรีโกณถึงลัคนา พลูโตและ ๙ ... เล็งลัคนา ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

... ต่อไปนี้ผมจะอธิบายเพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น ...

... ที่ต้องหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เล็กติดตามอาจารย์ไปจนถึงชายแดนพม่า ...

...ให้ทุกคนดูไปที่ ดาว ๗ ... ตนุลัคน์ที่สถิตอยู่ราศีเมษ ภพพันธุ [บ้านช่อง,ถิ่นกำเนิด ] ได้ตำแหน่งนิจจ์ [ ลำบาก ] ซึ่งดาว ๗ เมื่ออยู่ในภพพันธุ ก็มีความหมายเพิ่มขึ้นมาว่าพลัดพรากจากบ้านช่อง

ดาว ๗ มีความหมายถึง ประเทศพม่า ...

... ต่อไปเราก็ตาม ดาว ๓ เจ้าเรือนภพ พันธุ [บ้าน ] และภพลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่ราศีมีนภพสหัชชะ [ การติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ] ซึ่งเป็นเรือนของดาว ๕ ซึ่งมีความหมาย ถึงผู้ทรงศีล , พระ ฯลฯ...ดาว ๕ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภ ภพปุตตะ [ อ่อนวัย ] และภพกัมมะ ... [ กิจกรรม, การงาน , ภาระกิจ ] ซึ่งดาว ๖ ก็ไปอยู่ราศีธนูภพ วินาสน์ ...

[การโยกย้าย,การเดินทาง ] สลับเรือนเป็น เกษตรเทียม กับดาว ๕ ...แถมยังมีดาว มฤตยู [ผจญภัย ] กุมดาว ๕ [ พระ ]

อยู่อีกด้วย...

... แยกดาวทีละดวงออกมาได้ว่า ...

...ดาว ๗ ตนุลัคน์ [ ตัวเอง ] อยู่ภพพันธุ [บ้านช่อง ] ขยายความย่อๆว่า ...

... เจ้าชาตาได้จากบ้านช่องของบรรพบุรุษ [ พันธุ ] ...

...ดาว ๓ เจ้าเรือนพันธุ [ บ้าน ] และลาภะ [ ความต้องการ ] ไปอยู่เรือนดาว ๕ [ พระ ] ...

... ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ ติดตาม ] และภพวินาสน์ [ การจากถิ่น ] ...

...ขยายความว่า...ต้องการที่จะเดินทางติดตามไปกับพระ,ผู้ทรงศีล ...

... ดาว ๖ เจ้าเรือนภพ กัมมะ [ กิจกรรม,ภาระกิจ ] และภพ ปุตตะ [ เยาว์วัย อ่อนวัย ] ...

... ขยายต่อได้อีกว่า ... เป็นกิจกรรมที่ทำขึ้นมาตั้งแต่ยังเยาว์วัยอยู่ ...

... ดาว ๐ กุม ดาว ๕ แปลว่า ... การผจญภัย [ ธุดงค์ ] ไปกับ พระ [ ผู้ทรงศีล ] ...

... แยกคู่ดาว ...

... ๗ + ๓ = เจ้าชาตาต้องจากบ้าน

... ๓ + ๕ = ที่จากบ้านเพราะติดตามพระไป

... ๕ + ๐ = พระพาไปธุดงค์

... แปลออกมาอย่างรวบรัดได้ว่า ...

...เมื่อตอนอายุยังน้อยอยู่ มีปัญหากับครอบครัว จึงได้จากถิ่นฐานบ้านช่องของตน ติดตามอาจารย์

[ พระ ] ออกไปผจญภัย [ ธุดงค์ ] อยู่ที่ชายแดนประเทศพม่า [ ดาว ๗ ] ...

... ดวงนี้ยังได้ตรีโกณ - ตรีกูล อยู่ ๒ มุมคือ ...

๑.จากดาว ๗ ที่ราศีเมษตรีโกณกับราหูที่ราศีสิงห์และดาว๖ ที่ราศีธนู ...

๒.จากลัคนาราศีมังกรถึงแม้จะไม่มีดาวกุมอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะได้ตรีโกณจาก ดาว ๕ ๒ ๐ ที่กุมกันอยู่ที่ราศีพฤษภ และดาวเนปจูนที่ราศีกันย์ ...

... ที่ได้เป็นทหารก็เพราะ ...

... ดาว ๖ กัมมะ [ งาน ] ร่วมแฝงเรือนเกษตรกับดาว ๓ ทหาร แต่เป็นไม่ตลอดเพราะดาว ๓ ทหารมีดาว ๗ นิจจ์ พลัดพราก เป็นศูนย์พาหะ [ นำพา ] ...

... นอกจากนี้ดาว ๓ ทหารอยู่เรือนดาวเนปจูน ซึ่งดาวเนปจูนก็เป็นประ [อ่อนกำลัง ] จึงทำให้เป็นทหารไม่ได้นาน ...

... ทำไมจึงมีอาชีพเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง การพยากรณ์ มีชื่อเสียง คนนับถือมาก ...

... ข้อนี้ไม่ยาก ให้ดูไปที่ราศีพฤษภ มีดาว ๒ + ๕ + ๐ กุมกันอยู่ ...

... ดาว ๒ = ดวงตา เป็นเจ้าเรือนภพ ปัตนิ [ คนอื่น ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ]

... ดาว ๕ = หมอ เป็นเจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ การศึกษา ] +ภพวินาสน์ [ วิชาเร้นลับ ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] ...

... ดาว ๐ = เร้นลับ มองไม่เห็น เป็นเจ้าเรือนภพ กฎุมภะ [ได้มา ] อยู่ภพปุตตะ [ น่ายินดี ] ...

... ดาว ๒ +๕ +๐ มีความหมายเฉพาะว่า ... หมอดู ... ผู้มีอาคมขลัง ...

... เพื่อความชัดเจนในเรื่องวิชา อาคมขลัง ฯลฯ...ลองมาดูจากลัคนาที่ ๑ +๒ +๓ +๔ กันดู ...

...จากลัคนาที่ ๑ ราศีมังกร ดาว ๖ กัมมะไปอยู่ภพวินาสน์ ...

... แปลว่า มีอาชีพที่ลึกลับ ,ซ่อนเร้น, ขลัง ...

... ทีนี้เราลองมาตั้งลัคนาที่ ๒ จากราศีเมษ ภพกัมมะคือดาว ๗ ไปตกที่ตนุที่ราศีเมษดาว ๓ ตนุไปอยู่ภพวินาสน์ที่ราศีมีน

... แปลได้ว่า งานของตนเองเป็นงานที่ขลัง แน่นอน สุดยอด ...

... คราวนี้เรามาดูลัคนาที่ ๓ ที่ราศีมีนที่ดาว ๓ สถิตอยู่ กัมมะก็คือราศีธนูมีดาว ๖ เจ้าเรือนภพมรณะ ...

... [ ลึกลับ , เก่าแก่ , นานมาแล้ว ] ...

... ก็แปลได้อีกว่า งานที่ทำเป็นงานที่เก่าแก่และมีมานานมากแล้ว ...

... ตอนนี้เรามาดูกันที่ลัคนาที่ ๔ ที่ราศีพฤษภ กัมมะคือราศีกุมภ์ ดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะไปอยู่ที่ราศีเมษภพ วินาสน์อีก ...

... แปลว่า มีกิจกรรมที่เร้นลับ ขลังฯลฯ ...

... ถ้าผมจะขับลัคนาจาก ดาวพลูโตและเน็ปจูนเสริมขึ้นมาอีกก็จะมีผลลัพท์ออกมาเหมือนกัน ...

... สุดท้ายนี้เรื่องงานที่มีผู้คนนับถือมากนั้นเพราะ ...

...ดาว ๑ มรณะ [ ลึกลับ ] กุมดาว ๔ ศุภะ [ ความสำเร็จ ] ได้คู่วิชาการ [ วิชาขลัง พยากรณ์แม่น ] สถิตย์ที่ราศีตุลย์ภพกัมมะ [ งาน ] แถมดาว ๖ ยังโยคหน้าช่วยอยู่ที่ราศีธนูอีกด้วย ... และดาว ๑ + ๔ ยังเล็ง ดาว ๗ ที่ราศีเมษซ้ำซ้อนชัดเจนเข้าไปอีก

ราศีตุลย์ยังเป็นภพกัมมะ [งาน ] ของลัคนาและเป็นภพปัตนิ [ ลูกศิษย์ ] ของลัคนาโลก แปลรวมกันว่า งานดีเยี่ยม มีลูกศิษย์ลูกหามาหาสู่มากมาย ... เสมอ ...

[ดาว ๖ งานเป็นเกษตรอยู่ที่ราศีพฤษภ ในนวางศ์จักร ] ...

... พบกันใหม่กับดวงชาตาพิสดารอันดับต่อไปกันนะครับ ...

... สวัสดี ...

... อ.ธนทพ ปฏิพิมพาคม ...