นักโหราศาสตร์ ๔ ระดับ

...เป็นข้อความบางส่วนจากหนังสือ "โฮ๋ราสาด" ... ในเรื่อง "ดาวลอย"...

...ประพันธ์โดย หมอเถา [ วัลย์ ] อ.อรุณ ลำเพ็ญ กล่าวถึงว่า "นักโหราศาสตร์ ๔ ระดับ...

... อ.อรุณ ลำเพ็ญ ...

... เนื้อหามีดังนี้ ...

...“อาตมามีศิษย์คนบ้านนอกกะเขาเพียง ๓ คน จะเป็นอาจารย์ใหญ่ได้อย่างไร” ...

หลวงตาค้านเต็มเสียง “นักโหราศาสตร์เขามีอยู่ ๔ ระดับ คือ ๔ นัก นักที่หนึ่งคือ นักเรียนพบตำรับตำราก็ซื้ออ่านดะ จดจำเอาไว้หมดพบทานผู้รู้ก็ถามและจดจำไว้อีก เพื่อนฝูงใครแนะนำไม่ได้ จดจำเอาไว้แม่นยำ บางคนเรียนรู้มากๆเข้าทำให้สติปัญญาเคยฉลาดปราดเปรื่องกลายเป็นโง่ไป เพราะเอาแต่จดจำ ถ้าใครถามจะตอบหลักเกณฑ์คล่องปร๋อตามตำราเปรี้ยะ เขาเรียก นักเรียนโหราศาสตร์ ” ...

คุณพิชิตพี่ชายนายอำเภอถูกใจสำนวนหลวงตา จึงถามต่อ ...

“ แล้วนักที่ ๒ เล่าขอรับ ” ...

หลวงตาจึงวิสัชนาต่อ “นักที่ ๒ คือ นักเล่น ถ้าผ่านนักเรียนที่เรียนรู้มา นำเอาหลักเกณฑ์โหราศาสตร์วิธีนั้นบ้างวิธีนี้บ้างมาลองใช้ทายเขาถูกบ้างผิดบ้างเป็นเครื่องสอนตนเองไป หัดดูดวงลูกหลานและเพื่อนๆไปพลางก่อนเป็นการเล่นๆไม่จริงจังดวงใดดาวใดเข้ากฏทายได้ก็ทายไปตามตำราเขาว่าไว้ ดาวใดภพใดมันซับซ้อนเงื่อนอ่านไม่ออกก็เฉยเสีย เลือกทายเอาแต่ที่พอรู้เขาเรียก นักเล่นโหราศาสตร์ ”

นายอำเภอชอบใจความคิดของหลวงตาชื้นในการจิดอันดับชั้นนักโหราศาสตร์จึงช่วยถามต่อ...

“ แล้วนักที่ ๓ ล่ะขอรับหลวงตา ” ...

หลวงตาชื้นอธิบายต่อคล่องปากคล่องใจไม่ติดขัด “ชั้นที่ ๓ นี้ เขาเรียก นักเลง เป็นขั้นใช้งานได้แล้ว ขั้นนี้เป็นขั้นสำคัญตอนนักเล่นจะเลื่อนชั้นเป็นนักเลงนั้นยากมากและมีน้อย นักเล่น ๑๐ คนจะได้เป็นนักเลงสักคนก็ทั้งยาก ส่วนมากมักจะวนเวียนเป็นนักเล่นโหราศาสตร์ไปตลอดชีวิต บางคนมีความรู้ความสามารถเป็นนักเล่นหนักๆเข้าลดชั้นหวลกลับไปเป็นนักเรียนเสียอีกก็มี บางคนเบื่อหน่ายไม่มีทางก้าวหน้าเลยเลิกเล่นไปเสียก็มาก ขั้นนักเลงนี้เป็นขั้นที่พบว่ากฎเกณฑ์ใดใช้ไม่ได้ก็ทิ้งไปยึดถือกฎเกณฑ์ที่ถูกทางใช้ได้ไว้พยากรณ์เขาได้ทั้งทางเดิมทางจร คล่องตัวบ้างก็ก้าวไปถึงขั้นอาชีพเป็นหน้าเป็นตามีชื่อเสียง ส่วนจะเป็นนักเลงเล็ก นักเลงใหญ่ นักเลงเก่า นักเลงใหม่ สุดแต่อัจฉริยะและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ” ...

หลวงตาไม่ต้องรอให้ใครซักก็อธิบายต่อไปอีก ...

“นักที่ ๔ นี้เป็นนักสุดยอดแล้ว คือ เป็นนักปราชญ์ ซึ่งเป็นผู้รอบรู้โหราศาสตร์โดยแตกฉาน ทั้งเจนจบในหลักเกณฑ์และคัมภีร์ทั้งปวง รอบรู้ทั้งภาคพื้นฟ้าอันเกี่ยวแก่การโคจรของดวงดาวทั้งหลาย และภาคพื้นดินคือการพยากรณ์ชีวิตมนุษย์ได้โดยถูกต้องและแม่นยำ แต่โบราณทานแบ่งวิชาโหราศาสตร์ไว้ ๓ ภาค คือ ...

ภาคคำนวณ รู้การคำนวณดาวเดือนบนท้องฟ้าและฤกษ์ยามทั้งปวง

ภาคพยากรณ์ รู้เหตุอันจะเกิดจะเป็นของชีวิต และให้ฤกษ์ให้ยาม

ภาคพิธีกรรม รู้การบวงสรวงและพิธีกรรม

...ในกรมโหรสมัยก่อนแบ่งกันเป็นแผนกๆ ตามภาคพื้นความรู้ พนักงานโหรมักรอบรู้เพียงแต่ละภาคเป็นส่วนใหญ่

ผู้แตกฉานทั้ง ๓ ภาคมักจะได้ตำแหน่งพระยาโหรา เจ้ากรมโหร ...

... นักโหราศาสตร์ ทั้ง ๔ ระดับเอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ละครับ ... สวัสดี ...

... นิทานโหราศาสตร์ ...

... เป็นนิทานที่เกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ ของ ท่าน อ.จำรัส ศิริ ...

... คัดลอกจากหนังสือ ...สมพงศ์และฤกษ์ ...ของ อ.จำรัส ศิริ ...

... นิทาน ...ลูกศิษย์คิดฆ่าอาจารย์เข้าใจว่ารักไม่เหมือนกัน ...

... เรื่องนี้ผมรับฟังจากอาจารย์ผมท่านเล่าให้ฟัง เรื่องเคล็ดลับ คิดว่าเรายกหัวข้อเขียนกันเบาๆสมองก่อนที่จะไปถึงเรื่องหนักสมอง ถ้าไม่ชอบก็เปิดข้ามไปเถิด แต่คิดว่าอาจให้ข้อคิดแก่ท่านได้ ไม่มากก็น้อย เรื่องมีว่า ...

...ศิษย์ สองคนเรียนหมอดูมาจากสำนักเดียวกัน ผมขอสมมุติเพิ่มขึ้นว่า คือคนหนึ่งชื่อหยาบ ... อีกคนหนึ่งชื่อละเอียด

[ ชื่อนี้เดิมไม่มีผมทำขึ้น ] เรียนตำราหมอดูจากอาจารย์จบเสมอกัน ...

ในท้องคำภีร์ปรากฏว่าคนทั้งสองอยู่ภูมิลำเนาใกล้เคียงกัน ก็ลาอาจารย์กลับบ้านพร้อมๆกันทั้งสองคน เดินไปในทางเดียวกัน เมื่อเดินมาตามทางก็มาพบเอารอยปัสสวะของผู้หนึ่ง จึงทดลองการพยากรณ์กันขึ้นมา นายหยาบเป็นคนทำนายก่อนว่า ...

" นี่มันลักษณะของผู้หญิงเยี่ยวไว้นี่หว่า "

นายละเอียดรับว่า " เออใช่เยี่ยวผู้หญิงแต่ว่าผู้หญิงมีท้อง "

...เดินต่อไปก็พบหญิงมีท้องเดินออกหน้าไปไถ่ถามว่า เธอเยี่ยวไว้หรือ ก็ยอมรับว่าเยี่ยวไว้จริง ...เดินต่อมาพบรอยเท้าช้างเดินไปข้างหน้า ก็เกิดการพยากรณ์กันขึ้นมา ...

...นายหยาบ ว่า " รอยช้างตัวผู้ไม่ใช่ตัวเมีย "

...นายละเอียด ต่อให้หลังจากพิจารณาแล้ว " ใช่ตัวผู้งามันหักอยู่ข้างหนึ่ง "

... ครั้นเดินต่อไป ก็พบช้างตามลักษณะที่พยากรณ์กันและถูกต้องที่นายละเอียดว่างาหักข้างหนึ่งจริงๆ อันนี้นายหยาบเกิดความครุ่นคิดว่า เอ อาจารย์เราจะรักเราไม่เท่ากันเสียแล้ว ทีเจ้าละเอียดให้เคล็ดทำนายได้ถูกต้องดีกว่าเรา ส่วนเราท่านไม่ให้เคล็ดลับเลย กลับถึงบ้านก็คิดแต่เรื่องอาจารย์ลำเอียงอยู่เรื่อยไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะว่านายละเอียดมีคนนิยมมากกว่า ทำนายได้ดีและถูกมาก ละเอียดดีกว่า นายหยาบก็คิดจะเป็นเล่นงานอาจารย์ ...

... ฝ่ายอาจารย์เกิดล่วงรู้ถึงความคิดของศิษย์ เพื่อให้ความเข้าใจให้ถูกจึงเรียกศิษย์ทั้งสองไปหา บอกว่า อาจารย์ยังมีตำราอีกตำราหนึ่งเหนือกว่าที่เจ้าทั้งสองเรียนรู้ไปจะให้แก่เจ้าทั้งสอง ...

แต่ต้องมีพิธีการเป็นเคล็ดก่อนสอน ให้เจ้าทั้งสองเอาหม้อใหม่ๆ ใส่น้ำผึ้งมาให้เราพรุ่งนี้ ให้น้ำผึ้งเสมอฝาครอบพอดีอย่าให้พร่องได้ ใครพร่องไม่ได้เรียนตำรานี้ ...

...ทั้งสองก็ไปเตรียมตัวหาหม้อดินใหม่ๆ จากตลาด ...นายละเอียดมีไหวพริบมาคิดดูว่า ...การสั่งของอาจารย์แบบนี้อาจมีนัย ว่าอย่าให้พร่อง ก็ถ้าเราเอาน้ำผึ้งใส่หม้อดินกำลังแห้ง หม้อดินก็จะดูดน้ำพร่องได้ เราก็จะไม่ได้วิชาที่อาจารย์จะให้ ควรเอาหม้อดินไปแช่น้ำให้อิ่มตัวเสียก่อนแล้วจึงใส่น้ำผึ้ง แล้วหม้อดินก็จะไม่ดูดน้ำ ...

...พอรุ่งขึ้นคนทั้งสองก็นำของที่อาจารย์สั่งไปให้อาจารย์ เมื่อท่านอาจารย์เปิดฝาหม้อดินดู ...ก็เรียกนายหยาบมาดูว่า ...ของเจ้าพร่องตั้งเยอะ และของนายละเอียดไม่พร่อง ทำอย่างไร ...

นายหยาบบอกว่า ...พอหาหม้อดินได้แล้วก็เอาน้ำผึ้งใส่ส่วนนายละเอียดก็เล่าถึงความคิดของตนดังที่กล่าวมาแล้ว อาจารย์จึงชี้ให้นายหยาบฟังว่า ... อาจารย์ไม่มีเคล็ดลับให้นายละเอียดดอก แต่ความซึ้งหรือไม่ซึ้งนั้นมันอยู่ที่ความละเอียดรอบคอบเฉพาะตัว ขอได้อย่าเข้าใจผิดที่อาจารย์เรียกมาคราวนี้ไม่มีอะไร วิชาที่สอนก็สอนให้เสมอกันทุกคน แต่การทำได้ดีกว่านั้นมันอยู่ที่บุคคลจะต้องใช้ความรอบคอบ ทุกแง่ทุกมุมมาพิจารณา ก็จะเป็นผลดีได้ ... นายหยาบเริ่มรู้สึกตัวทันที ...

...นี่แหละครับอ่านแล้วลองนึกดู ถึงเรื่องเคล็ดลับด้วยว่ามีหรือเปล่า การกระทำบางคนทำเก่งกว่าผมที่เขียนตำราก็มีมาก เพราะความรอบคอบต่อหลัก การเรียนรู้ในเหตุของธรรมชาติ ...กว้างขวางเหล่านี้ นักพยากรณ์ต้องเรียนรู้เพื่อประกอบการพิจารณา บางรายดูดวงชาตา ...ว่าเขาจะได้เลื่อนชั้นเงินเดือนจากชั้นโทเป็นชั้นเอก แต่ถูกขัดคอทันทีว่า ...ผมจะได้เลื่อนอย่างไร ชั้นวิ่งผมอีกตั้ง ๕ ชั้นถึงเต็มอัตรา อย่างนี้ท่านเห็นไหม เกิดห้าแต้มออกมา ...แบบเป็นไปไม่ได้ทันที ฉะนั้นการละเอียดรอบรู้ในวิธีทางธรรมชาติตามหลักของระเบียบ ...วินัย การศาล การแต่งตั้ง จิปาถะ นักพยากรณ์ที่เก่งจะต้องเรียนรู้ ไม่ใช่ว่าตำราว่าอย่างนี้

จะเถรตรงออกไปก็ใช่ที่ ก็เมื่อสมัยนี้เขาไม่มีการให้ตำแหน่งพระยากันแล้ว เถรตรงว่าจะได้เป็นพระยา ผลก็ถูกเขาหัวเราะเยาะเท่านั้นเอง หรือไปทางสิงคโปร์ มาเลเซีย เห็นเจ้าชาตาเข้าท่า ว่าจะได้เป็นถึงพระยา เราบอกเขาไปมันก็ไม่เข้า ถ้าจะปรับคำพูดว่า ...จะเป็นผู้จัดการใหญ่ หรือนายห้างนายหอก็พอมีทางไป อย่างเมืองไทยสมัยนี้ทายพระยาก็ไม่ได้ ต้องอ่านเป็นข้าราชการขั้นพิเศษไป ที่เขียนนี้ท่านได้อะไรบ้าง อาจมีอคติบางประการไม่เสียหลายที่จะฟังเล่นเพลินแล้วมาหนักสมองกันต่อไป ...

... การจะเป็นนักโหราศาสตร์ที่ดีได้นั้นต้องมี ศีล สมาธิและปัญญา มีสติสัมปชัญญะ ที่มั่นคง การไตร่ตรองหาเหตุ

ผลที่ถูกต้องในการพิจารณาดวงชาตาต่าง ๆ ต้องมีความรอบครอบ แม่นยำในกฏเกณฑ์ของวิชาโหราศาสตร์ ...

... รอบรู้ จดจำ วิเคราะห์ดวงอย่างถี่ถ้วน จึงจะเกิดความแตกฉานในการพยากรณ์ดวงชาตา ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...