... จากปูมโหร อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...
...ดวงชาย เกิดวันที่ ๒๘ ม.ค. ๒๕๒๑ เวลา ๒๐.๓๐ น.
...ดวงชาตานี้เป็นสัตว์แพทย์ มีความสามารถสูง เคยเปิดคลีนิคของตนเองมาแล้วแต่ไปไม่รอดพยายาม...สร้างเนื้อสร้างตัว
โดยการกู้ยืมบุคคลและแบ็งค์ มาลุงทุนในกิจการต่างๆ แต่ก็ประสพกับความล้มเหลวทุกๆ ครั้งไป ... เปลี่ยนไปเล่นการพนัน
ขันต่อ เพราะคิดว่าจะกู้สถานการณ์ทางการเงินที่เสียหายให้ฟื้นคืนกลับ ... มาได้ [ คิดรวยทางลัด ] ... แต่ก็ยิ่งจมดิ่งลงไป
เรื่อยๆ มีคู่มากี่คน แรกๆก็ดูดี อยู่ๆไป ก็ทำตัวเหมือนเป็นผู้คุมนักโทษ เข้มงวด กวดขันกันไปทุกเรื่อง บางครั้งถึงกับลงมือ
ทุบตีเจ้าชาตา ... เมื่อทนไม่ไหวก็ต้องหลบหนีออกมาแต่ตัว ... และไปตายเอาดาบหน้าทุกครั้ง ... คนรักจะเป็นแบบนี้ทุก
คน ... ร่ำไป ... แต่ความที่ตนเองเป็นผู้ที่ศึกษาธรรมะอยู่รู้แจ้งในวัฎสงสาร จึงทำใจได้ ... และต่อมาก็ไปปฏิบัติที่ถ้ำกับพระ
กรรมฐาน แล้วก็คอยดูแลสัตว์ที่อยู่ในถ้ำรักษาโรคให้สุนัข - แมว ช่วยทำหมันให้สัตว์ต่างๆ ... และต่อมาก็ปลงผมเข้าสู่ร่ม
กาสาวพัสตร์เป็นพระภิกษุสงฆ์ในบั้นปลายแห่งชีวิตในที่สุด ...
... เรามาดูตรงจุดแรกกันว่าทำใมถึงเป็นสัตว์แพทย์ ?...
...ดูที่เรือนกัมมะ [ งาน ,หน้าที่ , ภาระ ] ... มีดาว ๕ [ แพทย์ ,พระ ,ครู ] สถิตอยู่ที่ราศีมิถุน เรือนของดาว ๔ ...
...ดูที่เรือนตนุ [ เจ้าชาตา ] ... มีราหู [ สัตว์ ] ... กุมลัคน์อยู่ที่ราศีกันย์ เรือนของดาว ๔ เช่นกัน ...
...เท่ากับ ดาว ๕ [ แพทย์ ] ... ร่วมเรือนเกษตรกับ ราหู [ สัตว์ ] ... คือเรือนของดาว ๔ ทั้งคู่ ...
...ดาว ๕ ยังเป็นเจ้าเรือนภพ พันธุ [ สถานที่ ,คลีนิค ] ... ตำแหน่งประ [คนอื่น ] ...
...ในวิชาโหราศาสตร์ ดาว ๕ + ๘ [ ราหู ] ... แปลว่า สัตวแพทย์ ...
...ราหูเป็นเจ้าเรือนภพ อริ [ เจ็บป่วย ,ลำบาก ,เดือดร้อน ] ... มากุมลัคน์ เรือนดาว ๔
...ดาว ๒ เจ้าเรือนภพลาภะ [ ช่วยเหลือ ] ... ก็มากุมราหูอยู่ที่ลัคนาเรือนดาว ๔ เช่นกัน...
...แปลว่า...เจ้าชาตามีอาชีพเป็นสัตว์แพทย์ที่ดูแลสัตว์ที่เข้ามาให้การรักษาที่คลีนิค ...
... มีจุดขยายความอีกจุดหนึ่งคือ ...
... ดาว ๓ [ กิจกรรม ] ... เจ้าเรือนภพ สหัชชะ [ การติดต่อ ] ... และเป็นเจ้าเรือนภพมรณะ [ เดือดร้อน ] ...
... มาอยุ่ที่ราศีกรกฏภพลาภะ [ ช่วยเหลือ ] ... ซึ่ง ดาว ๒ เจ้าเรือนก็วิ่งไปอยู่ที่ลัคนาเข้าไปชนเรื่องราว ...
... ที่กล่าวมาแต่แรกทั้งหมด ... แปลรวมกันได้ว่า ...
... เจ้าชาตาเป็นสัตว์แพทย์ผู้ดูแลรักษาสัตว์ที่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งหวังมาได้รับการรักษา ...
... ดวงชาตานี้เกี่ยวกับการรักษาสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์นับว่าถูกโฉลกกับดวงเป็นอย่างมาก ...
... ที่ทำงานแล้วไม่ประสพกับความสำเร็จเพราะ ...
... ดาว ๔ กัมมะ [ งาน ] ...ไปกุมอยู่กับดาว ๑ วินาสน์ [ ล้มเหลว ] ... และ เกตุ [ ๙ ] ... ตัวนกสองหัว และยัง
... ตรีโกณกับ ราหู [ ๘ ] ... เจ้าเรือนภพอริ [ ปัญหา ,หนี้สิน ,อุปสรรค ] ... แถมยังมีดาว ๓ เจ้าเรือนมรณะ
... [ หมดสิ้น เสียหาย เดือดร้อน ] ... เล็งอยู่อีกเท่ากับว่า ...
... ดาว ๓ กัมมะ โดนดาว อริ มรณะและวินาสน์ รุมเบียนทำร้ายครบเครื่องชุดใหญ่ ...
...แล้วที่เล่นการพนันแล้วก็ ขาดทุน และเพิ่มหนี้ขึ้นมาอีก เพราะ ... ดาว ๔ กัมมะสถิตอยู่ที่ราศีมังกรภพปุตตะ ...
[ การเกิดใหม่ ,การริเริ่ม , การเสี่ยง ] ... ดาว ๗ ...โทษทุกข์ ...ยังไปอยู่ราศีสิงห์ภพวินาสน์ [ ล้มเหลว ] ... แล้วสลับเรือน
กันเป็นเกษตรเทียมอีกด้วย ...
... อ่านตามดาวและความหมายได้ว่า ... ทำขึ้นมาแล้วก็พัง ทำมาใหม่ก็พังอีก เสี่ยงการพนันก็ล้มเหลวไม่จบสิ้น ...
... แปลได้ว่า ... เมื่อริเริ่มทำงานอะไรขึ้นมา พอทำๆไปก็ล้มครืน หงายหลังทุกครั้ง พอมาทำอะไร ... ขึ้น ... มาใหม่ก็เป็น
เหมือนเดิม คือขาดทุนย่อยยับปราชัย อยู่เสมอมา ในเรื่องของการเสี่ยงโชคก็เช่นกัน พังและล้มเหลวตลอด ...
... ราศีมังกรภพปุตตะ ยังมีความหมายถึง การพนัน ขันต่อต่างๆ ก็สามารถแปลได้ว่า ...
... ทุกครั้งที่เจ้าชาตาเล่นการพนันเสี่ยงโชคก็มักกับความล้มเหลว เจ๋ง สูญเสียอยู่โดยตลอด ...
... ในตำราโหราศาสตร์ ดาว ๒+๘ เป็นคู่หนี้สิน และเป็นคู่สมพล ...
...[ ความสมบูรณ์ ,เพียบพร้อม ,เต็มเปี่ยม ] ...
...ดาว ๒ เจ้าเรือนภพลาภะ [ ความมุ่งหวัง ] ... กุมลัคน์ ... [ เจ้าชาตา ] ...
...ราหู [ ๘ - ก้อนใหญ่ ] ... เป็นเจ้าเรือนภพอริ [ หนี้สิน ] ... กุมลัคน์ ... เช่นกัน ...
...แปลได้ว่า ... เป็นคนที่มักมีหนี้สินก้อนโตๆอยู่เสมอ ไม่จบสิ้น ...
... ที่ว่ามีคู่แล้วก็อยู่กันไม่รอดต้องแยกทางกัน แถมยังโดนคนรักทำร้ายอีกก็เพราะ ...
... ดาว ๖ เป็นดาวแห่งความรักก็สถิตอยู่ที่ราศีมังกรภพ ปุตตะ [ คนรัก ,ความรัก ] ... เรือนเกษตรของ ...
...ดาว ๗ โทษทุกข์ ... ดาว ๖ + ดาว ๗ เท่ากับเป็นคู่แตกแยก คู่ศัตรู และดาว ๑ ที่กุมอยู่ก็มีตำแหน่ง
...เป็นพินทุบาทว์ [ จุดรั่ว ,จุดช้ำ ,ความแตกแยก ] ...
...แถมยังมี ราหู [ ๘ ] ... เจ้าเรือนภพ อริ [ ทำร้าย ,ศัตรู ] ... กุมอยู่ด้วย ...
...ยังมีดาว ๗ แฝงตามดาว ๑ ไปเป็นพินทุบาทว์เทียมอีก
...ส่วนดาว ๕ ก็แฝงตัวตามดาว ๔ เจ้าเรือนไปเป็นพินทุบาทว์ เทียมด้วยอีกดวงหนึ่ง ...
... รวมแล้ว ก็เป็นดั่งคำกลอนที่ว่า ...
... ระวิภุมมะทั้ง โสรา ปัญจะแก่ลัคนา เป็นโคลงดวงพินทุบาทว์ ...
... แปลว่า ...ในดวงถ้ามี ดาว ๑ ดาว ๓ และดาว ๗ เป็นภพที่ ๕ จากลัคนา เป็นดวงพินทุบาทว์...
... และดาว ๕ ยังเป็นเจ้าเรือนภพ พันธุ [ ครอบครัว ] ... และเป็นเจ้าเรือนภพปัตนิ [ คู่ครอง ] ... อีกด้วย ...
... ยังมีอีกว่า ... ดาว ๒ หมายถึง คนรักในดวงชายก็โดนราหู กุมอยู่อีก ... รอดยากครับในเรื่องการโดน
... ทำร้ายจากคู่ ...
... ส่วนที่ว่าชอบปฏิบัติธรรมและศึกษาธรรมะนั้นก็เพราะ ...
...ให้ดูที่ดาว ๕ [ พระ ] ... อยู่ที่ภพกัมมะ [ ภาระ ,หน้าที่ ] ... ตรีโกณกับดาว ๐ [ ค้นคว้า ,การศึกษา ,สืบเสาะ ] ...
... ดาว ๕ + ๐ แปลว่า ... การศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอน ...
... ตั้งดาว ๔ ที่ราศีมังกร เป็นลัคนาที่ ๒ ดาว ๐ ก็อยู่เรือนกัมมะ [ งาน ] ... ดาว ๖ เจ้าเรือนก็มากุมดาว ๔
... ที่ภพอริ [ บากบั่น ,คร่ำเคร่ง ,อดทน ] ... ก็มีดาว ๕ [ พระ ] ... ตรีโกณถึงดาว ๐ อยู่ เจ้าเรือนคือดาว ๔ ก็วิ่งเข้า
... ไปอยู่ที่ลัคนาที่ ๒ อีกด้วย ...
... สรุปก็คือชีวิตบั้นปลายของเจ้าชาตาก็ต้องสละเพศ ฆารวาส [ การอยู่ครองเรือน ] ... เข้ามาสู่ ...
... เพศบรรพชิต [ เพศพระภิกษุ สมณะเพศ ] ... จนได้ในบั้นปลายของชีวิต ...
... หลุดพ้นจาก ... ปฏิจสมุปบาท ...
... ปฏิจจสมุปบาท ... เป็นธรรมที่แสดงกฎของธรรมชาติ ถึงความเป็นเหตุเป็นผล และความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน จนเป็นผลให้เกิดทุกข์ และแสดงเหตุที่ทำให้ทุกข์นั้นดับลงไป โดยทุกข์ที่ว่านี้ คือทุกข์ชนิดที่ดับหรือทำลายลงไปได้ นั่นก็คือ อุปาทานทุกข์ นั่นเอง ...
... โดยหลักการของปฏิจจสมุปบาท นั้นตั้งอยู่บนหลักการของวิทยาศาสตร์โดยสิ้นเชิง เพียงแต่สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้นั้น เป็นเรื่องของจิตที่ละเอียดลึกซึ้ง อันจะจับต้องไม่ได้ หรือสัมผัสให้เห็นเป็นรูปธรรมไม่ได้ [ นามธรรม ] ... แต่จะบังเกิดผลได้แก่ผู้รู้ที่เข้าใจและปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น [ ปัจจัตตัง] ... จึงเป็นที่เคลือบแคลงแก่ปุถุชนทั่วไป ที่นิยมจับต้องสิ่งอันเป็นวัตถุนิยม ...
คำว่า ปฏิจจสมุปบาท มาจากศัพท์ว่า ปฏิจจ สํ และ อุปปาท
ปฏิจจ หมายถึง เกี่ยวเนื่องกัน สัมพันธ์กัน
สํ หมายถึง พร้อมกัน หรือ ด้วยกัน
อุปปาท หมายถึง การเกิดขึ้น
... ปฏิจจสมุปบาท จึงหมายถึง สิ่งที่อิงอาศัยกันเกิดขึ้น ได้แก่ ภาวะของสิ่งที่ไม่เป็นอิสระของตนต้องอาศัยกันและกันจึงเกิดขึ้นได้ ...
... คำว่า ปฏิจจสมุปบาท นี้ พระพุทธโฆษาจารย์ ได้แปลไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคว่า สภาวธรรมที่เกิดขึ้นได้เพราะอาศัยซึ่งกันและกัน ...
... ในปัจจุบัน [ พ.ศ.๒๕๕๖ ] ... เมื่อดาว ๕ จร มาทับ ดาว ๕ ในดวงเดิม เท่ากับตอกย้ำ ซ้ำกับดวงดาวในพื้นดวงชาตา
... เดิมเป็นดับเบิ้ล ... ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเป็นสมณะเพศจึงได้อุบัติขึ้นมา ...
... สรุปว่าดวงชาตานี้ดีเด่นในทางธรรม ยิ่งกว่าทางโลก ...
...พบกันใหม่อีกในบทความ + บทเรียน หน้า ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...