ดวงชาตาหม้าย

... ปัญหาโหร ...

... คัดมาจากปูมโหรของท่าน อ.พลูหลวง ...

... ตอน ดวงชาตาหม้าย ...

ชาย

๑๒

๖ ฯ ๙ ชวด

วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๔๗๙

๖.๑๒ น.

๑. ถามว่า ...ในการพิจารณาดวงชาตาเป็นหม้าย มีอะไรเป็นกฏเกณฑ์ สำคัญที่สุด ...

ตอบ ... กฏเกณฑ์ในการพิจารณาดวงชาตาเป็นหม้ายนั้น จะต้องดูดาวปัตนิเป็นสำคัญอันดับแรก ... ถ้าดาวปัตนิถูกบาป

เคราะห์กุมหรือกุมดาวมรณะ หรืออยู่ในเรือน อริ , มรณะ , วินาศนะ ล้วนแต่ถูกเบียนเป็นเหตุให้ร้างคู่ทั้งสิ้น ...

...นอกจากนี้จะต้องดูดาวอาทิตย์และจันทร์ประกอบ คือดวงชายให้ดูจันทร์ ส่วนดวงหญิงให้ดูอาทิตย์ หากว่าถูกเบียนดัง

เช่นกฏเกณฑ์แรกก็เป็นเหตุร้างคู่ด้วย ... จะต้องดูสองเหตุนี้ประกอบกัน ...

... ดวงนี้ภรรยาตายต้องเป็นหม้ายเมื่อตนเองอายุ ๓๒ ปี กำลังเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ...

[ ๑ ] ดาว ๗ ปัตนิอยู่ในภพมรณะมีเนปจูนเล็ง และมีบาปเคราะห์ ๐ กับ ๘ โยคหน้า-หลัง ให้โทษมาก ...

[ ๒ ] ดาว ๒ ซึ่งเป็นคู่ครองในดวงชายอยู่ภพอริ กุมราหู ทั้งยังถูกดาว ๐ กับเนปจูนตรีโกณตรึงเบียนสนิท ...

[ ๓ ] ดวงนี้ดาว ๐ เจ้าเรือนมรณะโคจรเหนือศรีษะขณะเกิด จึงส่งผลให้พบกับความตายจากบุคคลอันเป็นที่รักของตน ...

... ต่อไปนี้ผมจะขออธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนขึ้นมาอีกนะครับ ...

... เราลองตั้งลัคนาที่ ๒ ขึ้นมาจากดาว ๒ ตนุลัคน์ที่ ๑ ...

...ลัคนาที่ ๒ อยู่ที่ราศี ธนู ภพปัตนิ [ คู่ครอง ] อยู่ที่ราศีมิถุน ดาว ๔ เจ้าเรือนปัตนิไปอยู่ที่ราศีกรกฏภพมรณะ [ ตาย ] ดาว ๒

เจ้าเรือนมรณะมากุมลัคนาที่ ๒ ที่ราศีธนู ดาว๕ ตนุ [ ตนเอง ] เจ้าเรือนลัคน์ที่ ๒ ไปอยู่ราศีพฤศจิกภพ วินาสน์ [ ทุกข์ใจ ] ...

...อ่านได้ว่า ... คู่ต้องตายจากตนเองสร้างความทุกข์ระทมใจให้ในการจากไปนั้นๆ

...จากตนุลัคน์ที่ ๒ วิ่งไปภพวินาสน์แล้วไปภพมรณะแล้วกลับมาลัคนาที่ ๒ วนเวียนอยู่ไม่หยุด ...

เรียกว่า...มหาเกษตร ... เป็นวิถีชีวิตที่มักเกิดซ้ำซากอยู่เรื่อยๆ ...

... ที่ว่าภรรยาตายต้องเป็นหม้ายเมื่อตอนอายุ ๓๒ ปี กำลังเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ...

... ให้นับจากลัคนาเป็น 1 ปี ไปถึงราศี กุมภ์เป็น 8 ปี นับต่อไปเรื่อยนับมาถึงราศีกุมภ์รอบสองเป็นอายุ 20 ปี ... นับต่อไปอีก

ถึงราศีกุมภ์รอบที่สาม มีอายู 32 ปี ... เจอดาว ๗ ปัตนิ ตกมรณะพอดี ...

... ตั้งราศีกุมภ์เป็นลัคนาปี จะเห็นว่า ดาว ๑ ปัตนิ [ คู่ ] ไปกุมอยู่กับดาว ๔ มรณะ [ ตาย ] ที่ราศีกรกฏภพอริ [ โรคภัย ] ...

... แปลได้ว่า ... คู่ครองได้ตายจากไปเพราะโรคร้ายที่รุมเร้า ...

... ดูไปที่ดาว ๕ กฎุมภะ [ ได้มา ] + ลาภะ [ รายได้ ] จรปี ... ไปอยู่ที่ราศีพฤศจิกภพกัมมะ [ งาน ] ... จึงทำให้เป็นอาจารย์

สอนในมหาวิทยาลัย ...

... ทีนี้เรามาตั้งลัคนาที่ ๓ ที่ราศีพฤศจิกกัน ...

...ที่ราศีพฤษภเป็นภพปัตนิ [ คู่ ] ดาว ๖ ไปอยู่ราศีกรกฏภพ ศุภะ [ สุขภาพ, อนาคต ] กุมอยู่กับดาว ๔ เจ้าเรือนภพมรณะ

[ ตาย ] และดาว ๓ เจ้าเรือนภพ อริ [ ปัญหา,โรคภัย ] ดาว ๖ นอกจากจะเป็นเจ้าเรือนปัตนิ [ คู่ ] แล้วยังเป็นเจ้าเรือนภพ

วินาสน์ [ การจาก ] อีกครึ่งหนึ่งอีกด้วย ...

... แปลว่าในอนาคตคู่ครองจะต้องเจ็บไข้ได้ป่วยและจากเจ้าชาตาไปในที่สุด ...

... เข้าตำราตามกฏเกณฑ์ที่ระบุมาแล้วทั้งสิ้นจากเบื้องต้น ...

... ตอนนี้เราย้อนมาดูที่ภพปัตนิจากลัคนาที่ ๑ กันดู ...

...ดาว ๗ ปัตนิ ไปอยู่ที่ราศีกุมภ์ภพมรณะ [ ตาย ] ดาว ๐ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีเมษภพกัมมะ [ กรรม ] และภพปุตตะ

[ การเกิด ] ดาว ๓ เจ้าเรือนทั้งสองที่กล่าวนี้ไปอยู่กุมลัคน์ ...

... ลองจับคู่ดาวต่างๆกัน ...

... ๗ + ๐ คู่ร้าย

... ๐ + ๓ คู่ร้ายแน่นอน

... ๓ + ๒ คู่ชู้ คู่เอาใจใส่

... ๑ + ๓ +๔ +๖ + พลูโต ... ได้หลายคู่ ๑ + ๓ คู่ศัตรู ...

... ๓ + ๔ คู่คิด+คู่ทำ ๔ + ๖ คู่ธาตุ แถมยังมีดาว ๕ ทำมุมตรีโกณกับดาวทั้งหลายนี้อีก ...

... ดังนั้นตามตำนานชาติเวรกีมีดาวครบถ้วนคือ ... ดาว ๑ + ๓ + ๒ + ๕ ถึงกันหมดเลย ...

... รวมแล้วเป็นเรื่องของ ... กรรมเก่า ... อย่างแท้จริง ...

... วันนี้เท่านี้กันก่อนนะครับ พบกันใหม่ในบทความ + บทเรียนหน้ากันนะครับ ...

... สวัสดี ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...