... ขุนชอบ รักตะประกร ...
... [ กลั่น หิมะกลัด เจ้าตำรับ ๑๐ ลัคนา ] ...
... วันจันทร์ แรม ๖ ค่ำเดือน ๔ ปีมะเส็ง ...
... วันที่ ๑๗ มี.ค.๒๔๒๖ เวลา ๗.๑๔ น.
... ท่านขุนชอบรักตะประกร อุปสมบทที่วัดราชประดิษฐ์ เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๕๓ มี ฉายาว่า “กัลลจิตโต” และได้ศึกษาโหราศาสตร์อย่างจริงจัง กับท่านเจ้าพระคุณพระพรหมมุนี [ อุปวิกาโส แย้ม] ... ตั้งแต่ทรงสมณะศักดิ์ เป็นพระอวาจีคณานุสิชฌน์ [ ที่ว่าศึกษาอย่างจริงจังก็เพราะเมื่อตอนที่เป็นศิษย์วัดอยู่ไม่มีโอกาสศึกษา] ... หลังจากเข้ารับราชการแล้วก็ได้ศึกษากับขุนหลวงโลกทีป [ สุด ภาณุทัต] ... ปลัดกรมโหรหลวงอีกท่านหนึ่ง ...
... จากปูมโหร อ.พลูหลวง ...
... ดวงชาตา ขุนชอบ รักตะประกร [ กลั่น หิมะกลัด ] ...
... ถึงแก่กรรม ๑๑ ก.ค. ๒๔๘๑ อายุ ๕๕ ปี ...
... ดาวพฤหัสบดีเสวยอายุ พลูโตแทรก ...
... โยคเกณฑ์ ...
... ๑. ดวงได้ตรีโกณชั้นสอง คือ ลัคนากุมดาวอาทิตย์กับพุธ มีดาสพฤหัสบดีมหาอุจจ์กุมอังคารและเกตุตรีโกณถึง และดาวจันทร์ตรีโกณถึง ...
... วิจารณ์ ...
... ๑. ดาวตนุลัคน์ คือ เนปจูน กุมดาวพลูโต [ โหราศาสตร์ ] ... จึงทำให้ท่านผู้นี้เชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ และยังเป็นต้นตำรับในวิชาการบางอย่างด้วย ...
... ๒. ดาว๖ มรณะนำหน้าลัคนาประการหนึ่ง ดาวเสาร์ตัวโทษทุกข์ กุมดาวเนปจูนตนุลัคน์อีกประการหนึ่ง ทำให้เจ้าชาตาสุขภาพไม่สมบูรณ์ มีโรคภัยใข้เจ็บเบียดเบียน ...
... ๓. ดาวอาทิตย์กุมลัคนา ทำให้เป็นคนถือตัวและยึดมั่นหลักการของตน โดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ...
... ๔. ดาวเสาร์ เนปจูนคู่บาปเคราะห์โยคหน้าลัคนา ชีวิตมีอุปสรรคขัดขวาง และมีคู่แข่งขันมาก ...
... ๕. ดาวพุธกุมลัคนาร่วมอาทิตย์ มีฤหัสบดีมหาอุจจ์ตรีโกณถึง ทำให้สติปัญญาแตกฉาน ...
... ผมขออธิบายเสริมเพิ่มเติมดังนี้ ...
... ที่ว่าท่านเป็นปรมาจารย์ โหราศาสตร์ ๑๐ ลัคนา ...
... ดูจากดาว ๕ ตนุ [ เจ้าชาตา ] + กัมมะ [ ภาระกิจ ] อุจจ์ [ ที่ยิ่งใหญ่ ] ... กุมเกตุ จิตวิญญาน , สูงสุด มีดาว ๐ โหราศาสตร์เป็นศูนย์พาหะนำพา มีดาว ๗ , เนปจูน , พลูโต โยคหลังเพิ่มความขลังเข้าไปอีก ... ดาว ๐ และ ราหู เจ้าเรือนวินาสน์ ...
เร้นลับ ดับศูนย์ ทำมุมปลายหอกไปที่ลัคนา ...
... รวมความว่า เจ้าชาตามีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวิช่าโหราศาสตร์ มีความขลังและแม่นยำ ยากที่จะหาผู้ใดมาเทียบเทียมได้ ... คือการที่ท่าน เป็นปรมาจารย์ ของวิชา ๑๐ ลัคนา ที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเอง ...
... ๕ ตนุ + กัมมะ กุม ดาว ๓ ขยันขันแข็ง เจ้าเรือนศุภะ [ ฝักใฝ่,ที่พึ่ง,ดูแล ] + กฎมภะ [ ได้มา ] ...
... มีเรื่องเล่ากันมาเกี่ยวกับความขลังและแม่นยำของท่าน ดังนี้ ...
...ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ...ท่านขุนชอบ... ปรมาจารย์วิชา ๑๐ ลัคนา...ท่านได้พูดกับคนสนิทว่า ...
" วันนี้มีเคราะห์...คิดว่าวันนี้จะไม่ออกไปไหนดีกว่า " ... พอกล่าวจบ ท่านก็เดินขึ้นบันไดไปบนบ้าน เพียงไม่กี่ขั้นบันได
...ปรากฏว่ากระดานไม้ผุ...ทำให้ร่างท่านล่วงลงมา ๒ ขั้นบันได...บาดเจ็บเล็กน้อย...ท่านก็บ่นพึมพำขึ้นมาว่า ...
... " ขนาดรู้ว่าจะมีเคราะห์ อยู่บ้านแท้ๆ ยังโดนจนได้นะนี่ " ...
... เรื่องนี้จึงยืนยันในเรื่องของความแม่นยำในการทำนายของท่าน ...
... ส่วนที่ท่านมีสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ มีโรคภัยใข้เจ็บเบียดเบียนละ ! ...
... ก็มาจาก ดาว ๓ กฎุมภะ [ ได้มา ] + ศุภะ [ สุขภาพ ] ... ได้ตำแหน่งนิจจ์ [ อ่อนแอ ] ... ทำมุมจตุโกณกับดาว ๖ สหัชชะ
... [ เกี่ยวกับ ] + มรณะ [ โรคที่เป็นนานๆ ] ... และ ราหู เจ้าเรือนวินาสน์ [ เบียดเบียน ] ... ทำมุม 4 ร่วมกันกับดาว ๖ ...
... ส่วนดาว ๐ เจ้าเรือนวินาสน์อีกดวงที่อยู่เรือนอริ [ โรคภัย ] ... ก็เป็นศุนย์พาหะนำพาดาว ๓ สุขภาพ + ดาว ๕ [ เจ้าชาตา ]
+ กัมมะ [ กรรม ] ... + เกตุ [ ไม่หยุดยั้ง ] ... ส่วนดาว ๑ เจ้าเรือนอริก็ไปสถิตย์อยู่ที่ลัคนา ...
... นอกจากนี้ดาว ๗ ยังส่งกำลัง 3 ไปที่ ๓ + ๕ + ๙ อีกเต็มๆ ... แถมดาว + ดาวเนปจูน + พลูโต เข้าไปอีกด้วย ช่วยกันทำร้ายเจ้าชาตาอย่างเต็มพิกัด ...
... แปลรวมๆได้ว่า ... เจ้าชาตามีโรคภัยมาเบียดเบียน ทำให้สุขภาพร่างกายเจ็บออดๆแอดๆ อยู่นานๆ ... รักษาไม่หาย ...
... ในดวงชาตาใดมีดาวพฤหัสบดี ดาวมฤตยู เข้ามาเกี่ยวข้องกับตนุลัคน์ หรือลัคนาแล้วไซร้ ดวงชาตานั้นมีความยอดเยี่ยมในวิชาโหราศาสตร์อย่างแน่นอน ... เพราะ ๕ + ๐ = โหราศาสตร์ ... ถ้ามีดาว ๑ และ ๒ เข้ามาเกี่ยวข้องยิ่งชัดเข้าไปใหญ่
... ๑ + ๒ หมายถึงตาซ้ายขวา + ๕ ครูบาอาจารย์ + ๐ โหราศาสตร์ = ครูโหร ...
... ส่วน ๗ ,๘ ,เนปจูน ,พลูโต = ความเก๋า , ความขลัง , ความเร้นลับ , ความโบราณ ฯ ...
... ดวงชาตา ของ ขุนชอบ รักตะประกร [ กลั่น หิมะกลัด ] ... ล้วนเกี่ยวข้องกับดาวที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ทั้งสิ้น ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...