อารัมภบท

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...

Tel. 081 - 977 - 3523 , 089 - 536 - 9522

... ภาพบนสุดก็คือพ่อปู่ฤาษีนารอด และคาถาบูชา ... ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวเองให้ทราบกันก่อนกล่าวคือ …

แต่เริ่มแรกเดิมทีนั้นผมเป็นนักดนตรีโดยตรง …เล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ ๑๓ ปีจนกระทั่งอายุ ๔๒ ปี …ชีวิตเริ่มหันเหมาศึกษาวิชาโหราศาสตร์อย่างจริงจัง และอดทน ...

[ ไม่ใช่ ทน อดนะครับ ] มาจนกระทั่งตราบเท่าทุกวันนี้ ในปัจจุบันนี้ก็ยังศึกษาไม่หยุด ถึงแม้จะได้ดูดวงชาตาคนมากว่า ๕๐๐๐ คนแล้ว จนอยู่ในขั้น … ตามที่ท่านอรุณ ลำเพ็ญ เรียกว่า ...

” นักเลงโหราศาสตร์ “ แต่ยิ่งเรียนไปเรียนไปรู้สึกว่าตัวเองยิ่งมีความรู้น้อยลงไปทุกวันๆ เพราะวิชาโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ และศิลป ค้นคว้าไปยิ่ง ยากขึ้นๆ เพราะคนที่เกิดในวัน เดือน ปีเดียวกัน ตกฟากพร้อมกัน ... ต่างก็มีชีวิตผิดแผกแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ชาติกำเนิดและวิถีของครรลองชีวิต …

... กลไกในโหราศาสตร์ ... ความซับซ้อน เงื่อนงำในวิชาโหราศาสตร์ เป็นสิ่งท้าทาย ที่น่าค้นคว้าหาความรู้ ...

... กลไกโหราศาสตร์ ...มีความลึกลับน่าตื่นเต้น สามารถท้าพิสูจน์ได้ อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งบางคนคิดว่า ...

เป็นศาสตร์แห่งความงมงาย นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ โหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่มีเหตุ และผล ...

คำตอบมีอยู่ในพระไตรปิฎก จากคำตรัสของพระพุทธองค์ ... " ในเรื่องการสังคายนา " ควรมีการประชุมสะสาง ชำระความร่วมกัน ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์ เพราะว่าโลกเราในปัจจุบันนี้ ได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก ดังนั้นกฏเกณฑ์ในการพยากรณ์ต่างๆนั้น จะต้องมาจัดขึ้นมาใหม่ให้รัดกุมขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักโหราศาสตร์ทุกท่าน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ควรจะทำกันได้แล้ว ...

... การที่ตำราบางตำรามีดวงตัวอย่าง ราศีต่างๆ อธิบายว่า ...

... ดวงนั้นต้องเป็นอย่างงั้น ดวงนี้ต้องเป็นอย่างนี้ เป็นแค่หลักเบื้องต้นในการทำนายทั้งสิ้น ไม่ใช่หลักที่ตายตัวว่า ...

... ทุกดวงชาตาจะต้องเป็นไปตามตำรานั้น ๆ ในบางรายเช่นราศีเมษมีดาว ๗ มาเล็งอยู่ในดวงชาตากำเนิด บางคนก็อาจจะยุ่งยากในเรื่องคู่ครอง แต่บางคนในชีวิตจริงกับอยู่กับคู่ครองได้จนยันแก่เฒ่า ... ราบรื่น ไร้ทุกข์ และอุปสรรค ... เหตุการณ์ต่างๆผิดแปลกแตกต่างกันออกไป ...โหราศาสตร์มีลักษณะที่เปรียบเทียบคล้ายๆ กับ ...

…ดังนั้นการดำเนินชีวิตย่อมผิดกันไปตามชาติกำเนิด แต่ก็ต้องอยู่ในวิถีชีวิตเดียวกัน เช่นคนราศีพฤษภ ในดวงจร ปีนั้นมีดาวบาปเคราะห์มาเบียน ภพพันธุ [ บ้าน รถยนต์ ที่ทำงาน บิดา มารดาฯลฯ ] ฉะนั้นเหตุการณ์ย่อมผิดเพี๊ยนกันไป บางคนบ้านจะโดนยึดต้องวิ่งเต้นหาเงินไปเคลียร์ บ้างก็บ้านโดนขโมยขึ้นขนทรัพย์สินไปซะเรียบบางคนขับรถ lotus ไปเกิดพลิกคว่ำ ซ่อมไป ๒๕๐๐๐๐ บาท บางคนก็ บืดาหรือมารดาเจ็บหนักอาการปางตายโดยส่วนรวมแล้วก็จะคล้ายคลึงกันเสมอ …

... คนตาบอดคลำช้าง ... ถ้าคนไหนจับงวงช้างได้ก็ชัดหน่อย ... จับงาช้างได้ก็ใกล้เคียงแต่เกิดไปจับหางช้าง อาจเกิดความผิดพลาดได้ ...

... คุยกันในเรื่องการเรียนรู้โหราศาสตร์ ...

... วิชาโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่มีมานานนับหลายพันปีสืบต่อกันมา ... เป็นเรื่่องราวของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์

กับดวงดาวอย่างแน่นแฟ้น...การทำนายดวงชาตาก็ต้องอาศัย "ตกฟาก" ...

คือเวลาที่เกิดของแต่ละบุคคล ... นำมาหาลัคนาที่่แท้จริงของแต่ละบุคคล ... การที่เราเกิดเดือนมกราคมจะเป็นคนราศีมังกร ... เกิดเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นคนราศีกุมภ์ ... เกิดเดือนมีนาคมจะเป็นคนราศีมีนฯลฯ ... ยังเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก ... ความเป็นจริงก็คือ ... การที่่เราจะรู้ว่าลัคนาราศีอะไรนั้้้้น ... ขึ้นอยู่กับเวลาเกิดของเราต่างหาก ...

สมมุติเช่นคนเกิดวันเดียวกันแต่เวลาเกิดต่างกัน ... ย่อมต้องเป็นคนละราศีกันอย่างแน่นอน ...

... ยกตัวอย่างดังนี้้่คือในวันนี้ [ 1 ก.ย. ] ถ้าเกิดเวลาประมาณตี ๕ - ๗.๓๐ น.จะเป็นคนราศีสิงห์ ... ถ้าเกิดเวลา

ประมาณ ๗.๓๑ - ๑๐.๑๐ น.จะเป็นคนราศีกันย์ ... ถ้าเกิดเวลา ๑๐.๑๑ - ๑๓.๐๐ น.จะเป็นคนราศีตุลย์ ...

จะเป็นเช่นนี้ไปจนครบ ๑๒ ราศี ... การที่ทั่วไประบุว่าคนที่เกิดระหว่างกลางเดือน ส.ค.ไปถึงกลางเดือน ...

ก.ย.เป็นชาวราศีสิงห์ ... คนที่เกิดระหว่างกลางเดือนก.ย.ไปถึงกลางเดือน ต.ค.เป็นชาวราศีกันย์ ... คนที่

เกิดระหว่างกลางเดือน ต.ค.ไปถึงกลางเดือน พ.ย.เป็นชาวราศีตุลย์ เป็นต้น ...

...การที่กล่าวกันเช่นนั้นเป็นการทำนายแบบคร่าวๆ รวมๆ ... ซึ่งก็ไม่ถูกต้องนัก ... แต่การจะรู้ว่าเป็นคนราศี

อะไรที่ชัดแจ้ง ... ต้องรู้จากเวลาเกิดของบุคคล คนนั้นต่างหากจึงจะเป็นลัคนาที่แท้จริง ... ก็คือเวลา

ตกฟาก ... ที่กล่าวมาแล้วตั้งแต่ตอนต้นนั่นเอง ... มีกรณีพิเศษเช่น ... บุคคลที่เกิดวันเดียวกัน ปีเดียวกัน ...

เวลาตรงกัน...ลัคนาจะต้องเหมือนกันแน่นอน ... การทำนายก็จะมีกฏเกณฑ์เพิ่มขึ้นมาอีกคือ ...

... ต้องดูจากชาติกำเนิดอีกที ... ยกตัวอย่างอธิบายดังนี้คือ ...

... ภูเขาที่สูงใหญ่ย่อมมีตำแหน่งที่สูงสุด ... ส่วนกลางภูเขา ... และส่วนปลายภูเขา ... บุคคลที่เกิดใน ...

ราชวงศ์กษัตริย์ ... ต่อไปภายภาคหน้าย่อมได้เป็นกษัตริย์ ... แสดงว่าเกิดในที่สูงสุด ...

... ส่วนบุคคลที่เกิดในตระกูลพ่อค้าหรือข้าราชการสูงศักดิ์ ... ก็ย่อมต้องเจริญรอยตามบรรพบุรุษ ...

... แสดงว่าเกิดในส่วนกลาง ...

... สุดท้ายบุคคลที่เกิดมาต่ำต้อย ... ยากไร้ ... แต่ต่อมาได้เป็นถึงพระสังฆราช ...

ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสูงสุดของสงฆ์ ... แสดงว่าเกิดที่ต่ำสุดคือปลายภูเขา ...

... ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด ... เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงตามประวัติบุคคลสำคัญต่างๆในโลกใบนี้ ...

... สรปจึงเป็นการยืนยันเรื่องว่าคนที่เกิดวันเดียวกัน...แต่ตกฟากไม่เหมือนกัน...ย่อมต้องเป็นคนละราศีและ...ชีวิตความเป็นอยู่จะต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอน...แต่ถ้าเกิดวันเดียวกันและเวลาตกฟากเหมือนกัน...วิถีชีวิตย่อมต้องคล้ายคลึงกัน ... แล้วแต่ว่าชาติกำเนิดจะมาจาก สูง กลาง ต่ำ ... ตามที่ได้อธิบายไปแล้วในเบื้องต้นแล้วนั่นเอง ...

... พรสวรรค์และพรแสวง ...

...ในระบบโหราศาสตร์ทุกระบบไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ไทยหรือ ...โหราศาสตร์สากล ... จะมีองค์ประกอบที่สำคัญ

อยู่ ๓ ประการก็คือ ...

๑.จักรราศี

๒.ดาวพระเคราะห์

๓.เรือนชาตา

... ส่วนประกอบทั้ง ๓ ประการนี้ี ... จะมีความหมายและหลักในการใช้เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบใด ...

แต่ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ระบบนั้น บางระบบอาจจะสนใจเฉพาะการผสมกันระหว่าง ... ดาวพระเคราะห์กับเรือนชาตาหรือ ... ดาวพระเคราะห์กับดาวพระเคราะห์ ... ส่วนระบบยูเรเนียนบางระบบสนใจเฉพาะการผสมกันของเรือนชาตากับดาวพระเคราะห์ ... เหมือนกับโหราศาสตร์ไทยทั่วๆไป ...

... แต่ก็มีบางระบบที่ใช้การผสมรวมกัน ทั้ง ... จักรราศี ... ดาวพระเคราะห์ ... และเรือนชาตา ... ทั้งหมดเลย ...

... วิชาโหราศาสตร์นี้เป็นทั้ง " ศาสตร์ " และ " ศิลป์ " ซึ่งรวมอยู่ด้วยกัน แยกกันไม่ออก ... มิใช่ว่าการเรียนรู้

โหราศาสตร์จนจบทฤษฎีแล้วนั้น ... จะสามารถทำนายทายทักผู้คนได้อย่างแม่นยำและเฉียบขาด...เพราะ

ความหมายของดวงดาว ... เรือนชาตา ... จักรราศี ... มีความลึกซึ้งเกินกว่าที่ทุกคนจะเรียนรู้ได้แตกฉาน ...

ได้ในเวลาอันสั้นๆ ... เพียงไม่กี่วัน ...ไม่กี่เดือน ... หรือว่าเป็นปี ...ทุกคนจะต้องมีความเข้าใจก่อนเป็นพื้นฐาน ...

และที่สำคัญคนที่จะทายดวงชาตา ... อนาคตได้แม่นยำนั้น ... ต้องมีสิ่งหนึ่งซึ่งขาดไม่ได้คือต้องมี " ญาณ "...

หยั่งรู้ที่มีมาแต่กำเนิดด้วย ...

...โหราจารย์แต่โบราณสามารถทายอนาคตได้อย่างแม่นยำน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ... เช่นท่านโหรญาณได้เคยทายกับเพื่อนโหรด้วยกันว่า" ขุดลงไปตรงนี้ ... จะมีปลาอยู่ ๔ ตัว " ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้แต่พอขุดลงไปจริงๆกับปรากฏว่ามีปลา ๔ ตัวอยู่ในแอ่งตาน้ำเล็กๆในดินตรงนั้นจริง ...? อีกท่านหนึ่งคือ ... ท่านขุนชอบ...ปรมาจารย์วิชา ๑๐ ลัคนา ...

ท่านพูดกลับคนสนิทว่า " วันนี้มีเคราะห์ ... คิดว่าจะไม่ออกไปข้างนอก " ...

กล่าวจบท่านก็เดินขึ้นบันไดไปบนบ้านปรากฏว่ากระดานผุ ... ทำให้ร่างของท่านล่วงลงมา ๒ ขั้นบันได ... บาดเจ็บเล็กน้อย ... ท่านก็บ่นพึมพำขึ้นมาว่า " ขนาดรู้ว่ามีเคราะห์ อยู่บ้านแท้ๆ ยังโดนจนได้นะนี่ " ...

... ท่าน อ.พลูหลวงเคยเล่าในบทความท่านว่า ... มีเพื่อนโหรด้วยกันคนหนึ่งชื่อ อ.สังข์ [ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ] ...

ทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำกล่าวคือ ... อ.สังข์มาที่บ้าน อ. พลูหลวงมองไปที่ตู้โชว์มีกล้องถ่ายรูปวางอยู่ ๑ ตัวแต่ท่านกลับกล่าวขึ้นมาว่า " ต่อไปในอนาคต ... คุณจะมีกล้องทั้งหมด ๙ ตัว ..." ในตอนนั้นท่าน ...

... อ.พลูหลวงก็ได้แต่นึกแปลกใจเท่านั้นเอง ... แต่กาลต่อมาอีกหลายปี อ.สังข์ถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วท่านก็มีกล้องถ่ายรูปอยู่ในตู้โชว์ ๙ ตัวจริงตามคำทำนายของ อ.สังข์ ... จริงทั้งหมด ...

...ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ที่ไม่มี ... ญาณพิเศษ ... ก็ไม่ต้องตกใจนัก ... เพราะญาณก็คือ " พรสวรรค์ " ส่วนความขยันก็คือ "พรแสวง" นั่นเอง ...ในเมื่อเราไม่มี ... พรสวรรค์ ... เราก็ต้องยึดมั่นในบทวิชาต่างๆเรียนรู้และซ่อมแซมส่วนที่ขาดตกบกพร่องของเรา ... เช่นพยายามรวบรวมสิถิติ ... แสวงหาตำราจาก อ.ต่างๆที่ทรงคุณวุฒิฯมาเสริมให้รัดกุมขึ้นมาอีก ... การที่คนเราจะเรียนวิชาโหราศาสตร์ในตำราต่างๆซึ่งแตกต่างสำนักกันไม่ใช่เรื่องต้องห้าม ... วิชา โหราศาสตร์จาก อ.ผู้ทรงคุณวุฒินั้นล้วนมาจากรากฐานเดียวกันทั้งสิ้น ... เพียงแต่แตกต่างออกไปจากกันบ้าง ...

แต่ยังคงไม่ทิ้งของเดิมที่ได้ศึกษากันมาแต่แรกเริ่ม ...

... วิทยายุทธ์ในใต้หล้าล้วนมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน ...

... เปรียบเทียบกับวิชาของเสียวลิ้มยี่ซึ่งเป็นวิชาหลักๆมาตราฐาน ... แต่ก็มี อ.หลายๆท่านออกไปตั้งสำนักใหม่ขึ้นมา และคิดค้นวิชาประจำสำนักขึ้นมาใหม่ ... แต่ก็แตกขยายมาจากพื้นฐานเดิมทั้งสิ้น ... เช่นท่านเตียซำฮง ... ปรมาจารย์บู๊ตึ๊งก็มาจากเสียวลิ้มยี่ ... ท่านก๊วยเซียงปรมาจารย์ง่อไบ๊ก็มาจากรากฐาน ... ของเสียวลิ้มยี่เช่นกัน ... หากเรียนรู้วิชาต่างๆได้ครบสิ้นเวลาออกรบ ... ก็สามารถใช้ได้ทั้ง ... มีด ... ดาบ ... หอก ... ธนู ... ปืนฯลฯแล้วแต่จะหยิบฉวยอะไรได้ก่อน ... ดังนั้นเวลาดูดวงชาตาผู้คน ... สามารถหยิบฉวยวิชาของ อ.ต่างๆมาใช้ได้ทันท่วงทีไม่มีการอับจนอย่างเด็ดขาด ...

... สรุปได้ว่า...ในเมื่อเราไม่มี ... พรสวรรค์ ... เราก็ต้องขวนขวายให้มี ... พรแสวง ... ให้จงได้ ... แต่ถ้าผู้ใด

มีทั้ง ... พรสวรรค์และพรแสวง ... ทั้ง ๒ อย่าง ... จัดเป็นสุดยอดโหราจารย์ในทางโหราศาสตร์อย่างแท้จริง

คือมีทั้ง ๓ ภาคของโหราศาสคร์ครบถ้วนคือ ...

๑.ภาคคำนวณ

๒.ภาคพยากรณ์

๓.ภาคพิธีกรรม

...ท่าน อ.โหรที่สมบูรณ์เพียบพร้อมจน ท่าน อ.ส.ไชยนันท์ได้ตั้งฉายาชื่อว่า " วิญญาณโหราศาสตร์ " ...

...โหราจารย์ท่านนั้นก็คือ ... อ.พลูหลวง ... ผู้ล่วงลับไปแล้ว ... นั่นเอง ... และท่าน อ.ส.ไชยนันท์ย่อมเป็น

วิญญาณโหราศาสตร์ด้วยเช่นกัน ... เปรียบดัง ... พระอรหันต์ด้วยกัน ... ย่อมรู้วาระจิตซึ่งกันและกัน ...

... เป็นเช่นนี้อย่างแน่แท้ ... แล้วพบกันใหม่ ... สวัสดีครับ ...

…ในปัจจุบันผมมีความตั้งใจอยากจะให้ทุกคนเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์กันทุกคน ให้สามารถอ่านดวงชาตาตนเอง ครอบครัว และญาติมิตร โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น และยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อีกด้วย วิธีการเรียนโหราศาสตร์จากบทความผมก็เป็นการอ่านแบบเจาะลึก รวบรัด ไม่นอกตำราและไม่นอกครู …ทำให้สามารถที่จะดูดวงชาตาได้ในทันที เช่นเมื่อเขาบอกว่าเขาอยู่บ้านแม่ยาย ...บ้างก็บอกไม่ได้ทำงานแต่มีสามีเลี้ยง ฯลฯ เราต้องดูตามให้ทันว่าในดวงของเขาเป็นไปตามที่บอกเรามาหรือเปล่า ถ้าไม่มีเป็นอันว่าผิดดวงอย่างแน่นอน ...

…[ ลักษณะคล้ายกับหวยออกแล้วทาย ... แต่ความจริงไม่ใช่ ... เพราะบางครั้งทั้งๆที่รู้อยู่ว่าดวงชาตานี้อยู่บ้านแม่ยาย ...

และเป็นญาติกับแม่ยาย ยังหาที่ไป ที่มากันไม่ได้กันเลย ... ดังนั้นผู้ทำนายต้องเจาะดวงชาตาผู้ที่มาดูดวงให้ขาดด้วยตัวเอง ... ซึ่งในความเป็นจริง ...การหาผู้อ่านดวงได้ตามคำบอกเล่าของผู้ที่มาดูดวงได้ในปัจจุบันนั้น [ ภายใน 1-2 วินาที ] ... ตอบว่านับคนได้เลยว่ามีน้อย ... นิด แน่นอนครับ ] ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...