... จากหนังสือ " อ่านชะตาด้วยตนเอง " เล่ม ๑ ของท่าน อ.จำรัส ศิริ ...
... ดวงสตรี ... เกิดวันที่ ๑๑ ก.ย.๒๔๔๐ ... เวลา ๑๙.๒๕ น.
... วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีระกา ...
... ดวงสตรีที่ชอบมีสามีหนุ่มๆมากด้วยตัณหา ...
... เจ้าของดวงส่งไปแจ้งว่า " เจ้าชะตาไม่นิยมการมีสามีเป็นล่ำเป็นสัน แต่นิยมการสมสู่กับหนุ่มๆ ซึ่งอายุคราวน้องๆ หรือลูกหลาน ฝึกหัดเด็กหนุ่มให้รู้รสการอภิรมณ์ โดยอุบายเป็นหมอนวด รูปร่างค่อนข้างขาว ตะโพกเป๋ ผ่านการอภิรมณ์มาแล้วไม่ต่ำกว่า ๗ - ๘ ชาย " ...
... ข้อ ๑.ลัคนาสถิตราศีมีน เจ้าเรือนลัคนาคือ " พฤหัสบดี " ... ไปอาศัยเรือน " อริ " ... เมื่อเจ้าเรือนลัคนาไปอาศัยเรือนนี้ คือ เรือน ลัคนา - เรือนอริ ท่านต้องการทราบอะไร? ...
... ก.รูปร่างจะอาภัพ สุขภาพไม่ดี ผิวพรรณไม่ผ่องใส เพราะถูกเรือนอริตัดอยู่ ซึ่งถอดเป็นใจความง่ายๆว่า ...
" เจ้าชะตาอาภัพ " ... [ คำว่าอาภัพเป็นคำกว้างๆซึ่งพิจารณาถึงไม่สามารถเป็นไปได้ การไม่มีวาสนา ] ...
... ข.พึงกำหนดดูว่า " พฤหัสบดี " ... เป็นเจ้าเรือนอยู่อีกเรือนหนึ่งคือ " กัมมะ " ... และในดวงขะตานี้ เจ้าเรือนกัมมะจึงไปอาศัยเรือนอริอีก ... แสดงถึงงานอาชีพ จะพิจารณาได้ถึงว่า เจ้าชาตาไม่มีกิจการเป็นล่ำเป็นสัน เพราะเป็นอริมีอุปสรรคในการดำเนินอาชีพเสมอ ...
... ค.เจ้าเรือนทั้งสองเป็นสามัญราศี ไปครองเรือนสถิตราศี ผลทำนายนี้หนักไปทางเรือนอริแบบกรรมบังคับ ให้ผลที่ไปช้าๆหนักหน่วงแน่นแฟ้น ...
... ข้อ ๒.อังคาร จะเป็นเจ้าเรือนกฎุมภะ และ ศุภะ จะเห็นว่าเจ้าเรือนทั้งสองนี้ไปอาศัยอยู่ในเรือน ปัตตนิ ราศีที่เกิดเรือนนั้นสามัญราศี การเงินเจ้าชะตาชอบสะสมเก็บดี ชอบออกดอกผล [ ก่อให้เกิดคู่สัญญา ] ... เกียรติหน้าที่ของเรือนศุภะนิยมในเรื่องเพศ เพราะใจฝักใฝ่ ...
... ข้อ ๓.ศุกร์เป็นเจ้าเรือน สหัชชะ และเจ้าเรือน มรณะ อาศัยในเรือนปุตตะ การพิจารณาตรงนี้จะพิจารณาได้สองทางคือ ...
ถ้าดูการสังคมเราก็ดูในแบบที่เจ้าเรือน สหัชชะ มาอาศัยเรือนปุตตะ ราศีหนึ่งสถิตราศีแต่เดินไปอยู่จรราศี แสดงถึงการสังคมมาก และรู้จักได้อย่างรวดเร็ว ...
... ก.เจ้าเรือน มรณะมาครองเรือน ปุตตะ ทำให้เรือนนั้นเสีย แสดงถึงการไม่มีบุตร หรือถ้ามีก็เลี้ยงไม่รอด หรือถ้ารอดก็สอนยาก ...
... ข.ระหว่างเรือนสหัชชะกับเรือนปุตตะนั้น ย่อมออกความหมายทำนายได้ว่า เจ้าชะตาจะชอบการพนันหรืองานสังคมแบบเสี่ยง เพราะเรือนปุตตะนอกจากพิจารณาในเรื่องบุตรแล้ว จะแสดงออกทางเสี่ยงโชคอีกด้วย ...
... ข้อ ๔. พุธ เป็นเจ้าเรือน พันธุ - ปัตตะนิ แต่ดาวดวงนี้เดินไปอาศัยในเรือน อริ ในเรือนทั้งสอง จึงตกอยู่กับเรื่อง อาภัพอีก
... ก.ท่านจะพิจารณาอะไร? ในเรือนพันธุ อ่านว่าเครือญาติมาก แต่ไม่มีใครนับถือสนใจ พึ่งไม่ได้ ทุกสิ่งในข้อนี้พิจารณา ...
" อาภัพหมด " ...
...ข.ท่านจะพิจารณาอะไร? ในเรือนปัตตนิ สามีมีมากแต่ไม่ยืดเป็นต้น ตกในเรื่อง " อาภัพ " ...
... ข้อ ๕.จันทร์เป็นเจ้าเรือน ปุตตะ อาศัยเรือนลัคนา ในราศีสามัญ ... เป็นเจ้าเรือนบุตร เจ้าชะตาถ้ามีจะต้องเป็นหญิง และพิจารณาเจ้าเรือนลัคนา ไปอาศัยควบไปเพื่อหาทางออกว่าเลี้ยงยากมักไม่รอด ต้องให้คนอื่นเลี้ยง ...
... ข้อ ๖.อาทิตย์ เป็นเจ้าเรือน อริ ดาวดวงนี้ได้เกษตร เจ้าชะตาต่อสู้อุปสรรคไปได้อย่างดี ชนะศัตรู สุขภาพดี มีความร่าเริง
อายุยืน ...
... ข้อ ๗.เสาร์ เป็นเจ้าเรือน วินาสนะ และ ลาภะ อาศัยเรือน ศุภะ ตามนัยนี้จะต้องพิจารณาแยกเป็นสองทาง คือทำให้เรือนที่อาศัยเสื่อม เพราะเป็นเรือนวิบัติ แต่ในบางคราวทำให้เรือนนี้ดีขึ้น แม้เรือน ศุภะ จะเป็นสถิตราศี อำนาจของจรราศีจะทำให้แสดงออกทางโชครวดเร็ว แต่ผลเสื่อมจะหนักแน่น เพราะเจ้าเรือนวินาสนะ กับ ศุภะ นั้นเป็นสถิตราศี จะแสดงออกทางหนักแน่น ถาวร ทำให้ไม่มีเกียรติ ถ้ามีก็เป็นคราวๆ ...
... ข้อ ๘. ราหู - เกตุ - มฤตยู ไม่มีเรือนครอง แต่มีทางอ่านได้จากอำนาจของพระเคราะห์ และกฏเกณฑ์จะกล่าวข้างหน้า
จึงยังไม่นำทางวิจารณ์ในที่นี้ ...
... ข้อ ๙ .เจ้าของเรื่องบอกว่า ไม่มีสามีเป็นล่ำเป็นสัน การวิจารณ์ว่า ทำไมดวงชาตานี้ จึงได้ชอบเรื่องกามารมณ์ แบบชอบอภิรมณ์กับเด็กวัยรุ่นคราวลูกหลาน นี่คือ จุดทางออกที่ควรสรุปได้เห็นว่า โหราศาสตร์ มีทฤษฎีที่อ่านผลกรรมได้ จากดาวพระเคราะห์ คือ ...
... ก.ระหว่างจันทร์กุมลัคนา อยู่ในเคล็ดที่ว่า ชะตาใครก็ตามถ้าจันทร์กับ อังคาร สัมพันธ์ถึงกัน [ พระเคราะห์สัมพันธ์จะกล่าวต่อไป ] ... บุคคลผู้นั้นเจ้าชู้ใฝ่ใจในเรื่องกามารมณ์ ... ชะตาดวงนี้ จันทร์กับ อังคาร เล็งกัน แสดงออกตามแนวทางที่ท่านสังเกตุกันมา และ ลัคนามีส่วนสัมพันธ์ถึงคือ ... กุมลัคนา และ เล็ง ตกอยู่กับกำลังบีบพระเคราะห์ให้เป็นคนมีจริต มายาเล่ห์เหลี่ยมเพื่อความใคร่ทางกามารมณ์ ...
... ข.ศุกร์อยู่ในราศี จรราศี มีส่วนเป็นตรีเกณฑ์ลัคนาจันทร์ โยคกับอังคารมีส่วนสัมพันธ์กัน อำนาจของพระเคราะห์ ศุกร์คือความกำหนัด ย่อมบีบบังคับให้เจ้าขะตามากด้วยกามราคะ ...
... ค.ในสาเหตุที่ " ไม่นิยมมีสามีเป็นล่ำสันนั้น " ... เพราะเจ้าเรือน ปัตตนิ ไปอาศัยเรือนอริสถานหนึ่ง และเจ้าเรือนลัคนาไปครองเรือนเดียวกัน จงพิจารณาพันหลักทางเรือนตามที่กล่าวมาแล้วเถิด ท่านจะทราบว่า กรรมอันหนึ่งที่ติดตามมานี้ ไม่
สามารถจะให้เจ้าชะตามีสามีเป็นตัวตนได้ ...
... ข้อ ๑๐.เรื่องที่เจ้าของบอกว่า " ตะโพกเป๋ " ... ให้พิจารณาว่า เจ้าเรือนพฤหัสบดีในราศีธนูนั้น ไปครองเรือน อริ นี่คือสิ่งบกพร่องแก่ร่างกายที่แสดงออกเพราะไปเกิดอาศัยเรือนนั้นเข้า ... ในราศีธนู แสดงถึงตะโพกขาอ่อนๆที่เป๋ได้ เพราะอย่างนี้จะไม้ใช่แต่ตะโพกอย่างเดียว ที่ข้อเท้าอาจมีตำหนิหรือบาดแผล มีส่วนผิดปกติเหมือนกัน บาดแผลจะปรากฏที่หน้าอกอีกแห่ง [ อังคารครองราศีกันย์ ] ... และอาจมีที่ท้องน้อยได้ นี่คืออ่านตามที่ปรากฏเพียงการนำทางเท่านั้น ...
... ถ้าท่านพบชะตาแบบนี้ เขาถามท่านว่า ดวงชะตาดวงนี้มีวาสนาหรือไม่? ในแบบใด? ประมวลบความจะตอบได้ทันทีว่า ... " อาภัพ " ...
... ฐานะจะพิจารณาได้จากเรือน กฎุมภะ - ลาภะ - กัมมะ ถ้าประมวลเจ้าเรือนทั้งสามนี้ครองเรือนดี ราศีที่ชอบ ฐานะต้องดี แต่ถ้ามีแรงสลับ อย่างชะตาดวงนี้ฐานะนับว่าพอมีพอกิน เพราะเจ้าเรือน กัมมะ มีทางตัดอยู่มากที่ไปครองเรือน อริ เสีย ...
เมื่องานไม่ราบรื่นแล้วจะเอาดีอย่างไร? เพราะงานเป็นที่มาแห่งฐานะ ชะตาแบบนี้จึงดีเป็นคราวๆ ไม่ตลอดไป บางคราวก็ดี บางคราวก็อับ จึงให้อยู่ในฐานะพอมีพอใช้ ไม่โลดโผนมากนัก เรือนกฎุมภะเป็นธาตุไฟ อยู่ในประเภททรัพย์ร้อนเหมือนกัน
ชอบสะสมเพราะเรือนลาภะเป็นธาตุดิน แต่ก็มีทางให้ละลายไปเพราะลัคนาครองราศีธาตุน้ำ ใจนั้นรวนเร แต่มีใจเมตตา ใจอ่อน ขี้สงสาร แต่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน เพราะเจ้าเรือนไปครองธาตุไฟ ...
... ท่านผ่านการวิจารณ์มา ท่านจงใช้ความสังเกตุว่า ดาวพระเคราะห์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ จะครองเรือนใน ๑๒ ราศีสองเรือน ส่วนอาทิตย์กับจันทร์ครองเรือนเดียว ในการพิจารณาอาจสับสนบ้าง ที่ในบางเรือนครองเรือน ... อริ - มรณะ
- วินาสนะ ... แต่อีกเรือนหนึ่งเป็นเรือนดี อาจทำให้การพิจารณาไขว้เขว อย่างกรณีในข้อ ๓. ที่วิจารณ์นี้จะต้องพิจารณาเป็นสองทาง อยู่ที่เราจะพิจารณาเรื่องอะไร? ก็มุ่งไปอ่านที่ความหมายของเรือน เรือนมรณะมาตัดที่เรือนอาศัยเท่านั้น หาได้ตัดถึงเรือนสหัชชะด้วย ดังนี้พึงกำหนดให้ดี ถ้าเจ้าเรือนเป็นเกษตรเสีย เรือนเสียก็กลับฟื้นขึ้น เช่น ศุกร์ในดวงชะตานี้ ถ้าครองราศีพฤษภ แสดงถึงเรือนสหัชชะจะเด่นขึ้น จะเอาเรือนมรณะมาพิจารณาไม่ได้ ให้ถือว่า หายไปดังนี้ ... เป็นตัวอย่าง ... หรือศุกร์ครองราศี ตุลย์ เรือนคือมรณะ ... จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่า เจ้าชะตามีความสามารถทางจิตวิทยา สมาธิดี ... เป็นตัวอย่าง ... เจ้าเรือนสหัชชะก็เป็นกลางไป ไม่ดีไม่เสียเป็นต้น ... การพิจารณาเรือนอริ วินาสนะก็เช่นกัน ... ขอเรียนให้ทราบเพียงสั้นๆว่า " เรือนมรณะ " ... อริ - วินาสนะ ถ้าเป็นเกษตรให้ถือว่าไม่แสดงโทษ อีกเรือนหนึ่งก็มีสภาพเช่นกัน แต่หย่อนกว่าเพียงเล็กน้อย จะอ่านว่าเสียไม่ได้ ...
... ดวงดาวในดวงชาตาทุกดวงสามารถบอกถึงลิขิตของฟ้าที่ซ่อนเร้นอยู่ ...สามารถ ขุด เจาะ ล้วง ลึกลงไปในดวงชาตาแต่ละดวงได้ ... อย่างในดวงตัวอย่างนี้ ... ถ้าเรานำเอาลัคนาโลก และ ลัคนาคนมารวมกันก็จะเกิดคำแปลที่ชัดเจนกระจ่างออกมาได้ เช่น ...
... อ่านจากดาว ๕ = ตนุ [ เจ้าชาตา ] + วินาสน์ [ ปิดบัง,ซ่อนเร้น ,ลัคนาโลก ] ... + กัมมะ [ การกระทำ ] + ศุภะ ...
[ ฝักใฝ่, ความสุข , ลัคนาโลก ] ...
... ดาว ๕ ไปสถิตอยู่ราศีสิงห์เรือนอริ [ ชู้ ] + ปุตตะ [ ความรัก, อ่อนวัย ,ลัคนาโลก ] ... เป็นเกษตร [ ทำอยู่เสมอๆ ] ...
... เท่านี้ก็แปลได้ว่าเจ้าชาตามีการกระทำที่ปิดบังซ่อนเร้นไม่เปิดเผย ในเรื่องฝักใฝ่ในกามกิจกับชู้รักที่อ่อนวัยอยู่เสมอๆ ...
... หรือจะอ่านเสริมจาก ดาว ๕ ตนุ+กัมมะ กุมดาว ๑ + ๔ = ชายหนุ่ม,เด็กหนุ่ม ...
... อ่านได้ว่า ... เจ้าชาตามักชอบที่จะพัวพันกับเด็กหนุ่มอยู้เสมอๆ ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...