... จากปูมโหรของท่าน อ. ส.ไชยนันท์ " ดวงกินผัว " ...
... หญิง เกิดวันที่ ๒๑ มิ.ย.๒๔๗๘ เวลา ๔.๒๓ น . พระนคร ...
... ลัคนาราศีพฤษภ ...
... ดาวเจ้าการแห่งสามีคือเรือนปัตนิเรือนที่ ๗ ... มี ๓ เจ้าเรือนปัตนิไปอยู่ราศีกันย์เป็นพินทุบาทว์ ...
... ๔ มีองศาเท่ากับ ๑ = " พุธดับ " ... ๔ + ๑ ถูก ๙ เล็ง ... ๑ หมายถึงสามีในดวงหญิง ...
... ๑ กับ ๔ จึงอับเฉา กระทบกระเทือน สามีถูกเบียน ถูกทำลายให้อ่อนกำลังลง ...
... ๓ เจ้าเรือนปัตนิส่งกระแสถึง ๐ ในเรือนที่ ๘ ของตัวเอง ...
... ๓ + ๐ หมายถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การบาดเจ็บ เลือดตก ยางออก เจ็บป่วย ...
... เนปจูนมีองศาเท่ากับ ๓ เจ้าเรือนปัตนิ ...
... เนปจูนคือ " การเจ็บป่วย " ... การสลายตัว ... ๓ คือ สามี ...
... ๓ + เนปจูน คือ สามี + การสลายตัว = สามีเจ็บป่วยแล้วสลายตัวไป ...
... ดวงชาตานี้ สามีป่วยแล้วก็ถึงแก่กรรมอย่างกระทันหัน ...
... ปรากฏว่า เจ้าชาตามีสามีมาแล้ว ๓ คน ตายทั้ง ๓ คน ไม่มีเหลือ ...
... ผมจะขอขยายความจากมุมต่างๆ ของดวงดาว ...
... เรือนปัตนิมี ๘ โยคหน้า ๓ โยคหลัง มี ๕ + ๙ บีบหน้า - หลัง ...
... ๓ เจ้าเรือนปัตนิโดน ๗ + ๐ ทำมุมปลายหอกทำร้าย ยังมี ๕ + เนปจูน บีบ หน้า - หลัง อีก ...
... ดาว ๖ ดาวแห่งความรักโดน ๕ มรณะ พลูโต วินาสน์ ๐ กัมมะ และ ๘ ทำมุมจตุโกณอยู่ ...
... ดาว ๑ หมายถึงคู่ครองโดน ๐ โยคหลัง เนปจูนโยคหน้า ๙ เล็ง จนย่อยยับอับปาง ...
... ดาว ๑ ยังตรีโกณกับ ๕ มรณะ และ ๗ พลัดพรากอีก ...
... ลองดูจากดาว ๖ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ อยู่ราศีกรกฏ ... ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ...
... จะเห็นว่า ดาว ๗ ปัตนิ ไปอยู่ราศีกุมภ์ภพ มรณะ ... ๘ มรณะมาอยู่ปัตนิ สลับเรือนระหว่าง ปัตนิ + มรณะ ...
... อ่านว่า ... คู่ได้ตายจาก คู่ได้จากไป ...
... ลองดูจากดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ ... ตั้งราศีมังกรเป็นลัคนาที่ ๓ ...
... ดาว ๒ ปัตนิเป็นประ [ อ่อนแอ ] ... มากุมลัคนาที่ ๓ ... เท่ากับดาว ๒ ปัตนิ โดน ๐ ,๘ ,พลูโต และ ๕ ทำมุม 4 ทำร้ายอยู่
... เนปจูน หมายถึงเรื้อรัง อยู่ที่ราศีสิงห์ภพมรณะ ดาว ๑ เจ้าเรือนมรณะไปกุมดาว ๔ อริ [ โรคภัย ] ... เกษตร [ เสมอๆ ] ...
... อ่านว่า ... คู่อ่อนแอและมีโรคภัยเบียดเบียนอยู่เสมอ ...
... ตอนนี้ยังเหลือตนุลัคน์ตัวที่ ๓ ดาว ๗ อยู่ที่ราศีกุมภ์ตั้งเป็นลัคนาที่ ๔ ...
... จะเห็นว่ามุมจากภพปัตนิคือราศีสิงห์จะมีดาว เนปจูน เรื้อรัง ... ๐ ภัยอาเพท ... ๙ ตัวซ้ำเติม ทำมุมตรีโกณอยู่ ... เหลือบไปดู ดาว ๑ ปัตนิ ก็กุมอยู่กับดาว ๔ มรณะ [ ตาย ] อยู่ภพปุตตะ [ การเกิดขึ้น ] ...
... ตกลงดาวปัตนิ ทั้งหมด ตั้งแต่ ดาว ๓ ,๗ ,๒ ,๑ ล้วนโดนเบียนด้วยกันทุกดวง ...
... ถ้าเราดูจากปัตนิลัคนาโลกคือราศีตุลย์ จะเห็นว่ามีดาว ๕ วินาสน์ [ การจากไป ] ... สถิตอยู่ มีดาว ๐ อาเพท เล็ง ดาว
เนปจูน โรคเรื้อรัง ... โยคหลัง และมี เกตุ ตัวแปรพักตร์ ... โยคหน้า ทำร้ายอยู่ ... ดูไปที่ดาว ๖ ความรัก ก็อยู่เรือนดาว ๒
ประ [ อ่อนแอ ] ... ซึ่งกุมกับ ๘ และมี ดาว ๗ กับเกตุ บีบหน้า - บีบหลัง ... ดาว ๑ หมายถึงสามีในดวงหญิงก็โดน ๐ โยคหลัง เนปจูนโยคหน้า ... มีดาว ๗ และดาว ๕ [ วินาสน์โลก ] ... ทำมุมตรีโกณอยู่ ...
... สรุปรวมความขับไปมุมมองไหน ... ดาวที่หมายถึงสามีทั้งหมด ก็ถูกทำลายอยู่ร่ำไปไม่รอด ... ท่าน อ.ส. ไชยนันท์จึงตั้งชื่อดวงนี้ว่า ... " ดวงกินคู่ " ...
... เมื่อนักศึกษาโหราศาสตร์ทุกท่าน จดจำรูปของดวงดาวต่างๆได้แล้ว ก็จะทำให้เกิดทักษะขึ้นมาเองได้โดยธรรมชาติ
เช่น ถ้าเห็น ดาว ๗ อยู่ที่เมษ ถ้าเป็นดวงหญิง ต้องเป็นเมียน้อยเขาแน่ๆ ... ถ้าเห็นดาว ๗ อยู่กรกฏ ก็จะรู้ว่าดวงนี้ย้ายบ้านบ่อยมาก ... หรือว่า ดาว ๔ อยู่เมษเขาเรียกว่า พุธนักเลง ๔ ปาก เรือน ๓ มีด = ปากคมเหมือนมีด ... อะไรทำนองนี้ ...
ส่วนมุม กุมกัน เล็ง โอบ โยคหน้า - หลัง มุมตรีโกณ มุมจตุโกณ มุมปลายหอก ฯ ... ต้องทำความเข้าใจให้แตกฉาน ...
... ก็จะทำให้การทำนายดวงชาตาง่ายดายขึ้นอย่างแน่นอน ...
... สวัสดีครับ ...
... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...