งานบูรณะพระธาตุเจ้าวัดลี ของครูบาเจ้าศรีวิชัย

เริ่มจากเมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยออกเดินทางมาเมืองพะเยา ในวัน พฤหัสบดี ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๖๕ ถึงเมืองพะเยา ในวัน อังคาร ที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๔๖๕ รวม ๔๘ วัน

เข้ามาบูรณะวัดลี ในวัน พุธ ที่ ๓๑ มกราคม ๒๔๖๖ ตรงกับ เดือน ห้า เหนือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ


เมื่อได้รับการตอบรับจดหมายในการมาบูรณะวิหารพระเจ้าตนหลวงทุ่งเอี้ยงเมืองพะเยา เมื่อ เดือน มิถุนายน ๒๔๖๕ ครูบาแก้ว คันธวังโส ก็มาสำรวจวัดเก่าในเมืองพะเยาที่ควรได้รับการบูรณะ เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัย มาถึงเมืองพะเยา ก็สามารถก่อสร้างได้ทันที ก็มาพบวัดลี ที่มีพระธาตุเจ้าวัดลี พระเจดีย์องค์ใหญ่ มีสภาพผุพัง จึงได้ปรึกษากับคณะศรัทธาวัดลี เพื่อหาทางบูรณะ ครูบาแก้ว คันธวังโส จึงกลับไปปรึกษากับพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา และแจ้งให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยรับทราบ จากนั้นครูบาแก้ว คันธวังโส ก็ได้รับมอบหมายจากครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ทำการปั้นอิฐ ดินกี่ ปูน ทราย ปูนขาว ช่าง สล่า เตรียมไว้ให้พร้อม

เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยมาถึงวัดพระเจ้าตนหลวง เพื่อสร้างวิหารพระเจ้าตนหลวงแล้ว ในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๔๖๖ จึงได้ไปนิมนต์ครูบาเจ้าศรีวิชัย มานั่งหนัก เริ่มการก่อสร้างองค์พระธาตุเจ้าวัดลี ซึ่งก็ตรงกับเดือน ห้า เหนือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ เป็นวันเป็งพุธ พอดี ในครั้งนั้นก็ได้มีคณะศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศ มาร่วมงานในการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายสินค้ากันจนเต็มบริเวณวัด มีเจ้าศรัทธาจากที่ต่าง ๆ ก็มาร่วมเป็นเจ้าภาพ ก้อนอิฐ หิน ดิน ปูน เป็นจำนวนมาก เหมือนทุกครั้งที่เมื่อครูบาเจ้าศรีวิชัยไปบูรณะวัดต่าง ๆ ย่อมมีคณะศรัทธามาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก

ส่วนเรื่องอัฐิธาตุของครูบาเจ้าศรีวิชัยที่วัดลี ที่น้อยคนจะรู้ เมื่อครูบาแก้ว คันธวังโส กลับไปวัดพระเจ้าตนหลวง ได้ไปขอแบ่งอัฐิธาตุส่วนศีรษะของครูบาเจ้าศรีวิชัย จากพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา มาไว้ที่วัดลีด้วย แต่ยังไม่ทันได้สร้างสถูปใส่ ก็ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระเจ้าตนหลวง จึงได้มอบให้ครูบาแก้วมูล ญาณวุฑฺฒิ ดำเนินการแทน ครูบาแก้วมูล ญาณวุฑฺฒิ จึงได้นำมาบรรจุไว้ในเจดีย์องค์เล็ก ที่สร้างครอบพระพุทธรูปหินทรายองค์ใหญ่ ด้านทิศตะวันออกขององค์พระธาตุเจ้าวัดลี พระเจดีย์องค์ใหญ่ พร้อมด้วยพระสารีริกธาตุที่ได้มาจากวัดพระเจ้าตนหลวงและพระพุทธรูป ของมีค่าต่าง ๆ บรรจุไว้ในพระเจดีย์ของเล็ก ที่สร้างเมื่อ ปี พ.ศ 2500 นั้นเอง เป็นการสร้างเพื่อฉลองที่พระพุทธศาสนาได้ดำเนินมาถึง 2500 ปี เหลืออีก 2500 ปี จะครบ 5000 ปี ของพระพุทธศาสนายุคพระศรีอริยเมตไตรยที่จะมาถึง

ดังนั้นพระธาตุองค์เล็กของวัดลี จึงไม่เรียกว่าสถูป หรือกู่ อัฐิธาตุของครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยตรง เหมือนวัดอื่น ๆ เพราะมีการนำพระสารีริกธาตุ จากวัดพระเจ้าตนหลวง และพระพุทธรูป และของมีค่าต่าง ๆ รวมบรรจุไปด้วย จึงไม่มีใครทราบ นอกจากคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเท่านั้น เมื่อผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเสียชีวิตลง ก็ไม่มีใครทราบอีก จนมีการสำรวจ วิเคราะห์ หาหลักฐานจากเรื่องราวการมาบูรณะวัดลี ของครูบาแก้ว คันธวังโส