นิพพาน คืด จิตที่ดับกิเลส ดับทุกข์ได้ เป็นสภาพจิตที่มีความสุขล้วน ๆ ไม่มีทุกข์เจอปนอยู่เลย
การบรรลุนิพาน คือ สภาวะที่ปราศจากโลภ โกรธ หลง จิตใจสงบ ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับอะไรอีก เป็นความสุขขั้นสูงสุดในพระพุทธศาสนา การบรรลุนิพพานนั้นเกิดได้โดยการปฏิบัติตามไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา
ศีล คือ การสำรวมกาย วาจา ระวังมิให้ทำสิ่งที่เป็นอกุศลเช่นไม่ทำลายชีวิต ไม่พูดปด เป็นต้น
สมาธิ คือ การฝึกฝนให้ใจสงบ แน่วแน่ ไม่คิดเรื่องโน้นที เรื่องนี้ที
ปัญญา คือ การเข้าใจ หยั่งรู้สิ่งต่าง ๆ ตามที่เป็นจริงมิได้เป็นไปตามโลภ โกรธ หลงของเรา
ภาพที่ 5.18 พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติวิปัสสนาญาณ
ที่มา: http://vipassanameditationthailand.blogspot.com/2014/02/blog-post_19.html
การรักษาศีลไม่ว่าจะได้ดีเพียงใดก็ตาม ไม่อาจทำให้บรรลุนิพานได้ การเจริญสมาธิไม่ว่าจะระดับสูงเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจให้ให้บรรลุนิพพานได้ อย่างมากก็ระงับกิเลสได้ชั่วคราว สิ่งที่ทำให้คนบรรลุนิพพานได้ คือ ปัญญา แต่ปัญญาจะเกิดมิได้ หากการเจริญสมาธิไม่ถึงระดับหนึ่ง และการเจริญสมาธิก็เป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่รักษาศีล ดังนั้นศีล สมาธิ และปัญญาจึงเป็นฐานเกี่ยวเนื่องกัน
การบรรลุนิพพาน ก็คือ การบรรลุอรหัตตผลนั่นเอง ผู้ใดทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน ผู้นั้นเป็นพระอรหันต์ การบรรลุนิพพานนั้นต้องอาศัยการพิจารณาให้เป็นนิพพาน โดยมีวิปัสสนาญาณ 9 เป็นหลักการ และวิธีการใช้ปรีชาญาณสอดส่องค้นหาเหตุผลของสังขารให้รู้เห็นอย่างแจ่มชัดเป็นอย่าง ๆ ก็จะทำให้บรรลุนิพพานได้ ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสว่าการบรรลุนิพานเป็นมงคลอันสูงสุดของชีวิต เพราะเป็นเหตุทำให้เกิดความสงบ ความสุขและความเยือกเย็นในชีวิต
แหล่งที่มา(เนื้อหา) :
จรัส พยัคฆราชศํกดิ์และกวี อิศริวรรณ. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน พระพุทธศาสนา ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : วัฒนาพานิช, 2548
วิทย์ วิศทเวทย์ และเสถียรพงษ์ วรรณปก. พระพุทธศาสนา ม.6. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, 2548.