บริษัท เคเจเอซี จำกัด 061-859-8265 ที่ปรึกษา ISO9001 ISO13485 ISO22000 GMP GHP LEAN
Post date: Jun 21, 2017 10:53:13 AM
ในด้านการถือหุ้นของบริษัทนั้น สัดส่วนการถือหุ้น มีความสำคัญแตกต่างกัน (ซึ่งโดยทั่วไป หมู่เฮาจะไม่ให้ความสำคัญกันมากนัก) ตัวเลขที่สำคัญที่เกี่ยวข้อนั้น คือการถือหุ้นในสัดส่วน 1) 20% , 2) 50% 3) 25% และ 4) 75 % โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
1. 20% เนื่องมาจาก การเรียกประชุมผู้ถือหุ้น จะต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 20% ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญ (โดยเฉพาะกรณีพิพาท) เรียกประชุมไม่ได้บางทีก็เศร้าเลยนะ..
2. 51% เนื่องมาจาก การโหวตให้ผ่านในการดำเนินงาน (ในกรณีที่ต้องใช้การโหวต) จะต้องมีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุม (ถ้าเสียงเข้าประชุมไม่ครบ ก็อาจจะใช้ไม่ถึง 50%)
3. 25% และ 75% เนื่องจากการลงมติพิเศษ เช่น การเพิ่มทุน (หรือเรื่องอื่นๆ ที่ได้ตกลงกันไว้ว่าต้องเป็นมติพิเศษ) โดยปกตินั้น มติพิเศษจะต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของที่ประชุม (หรืออาจมากหรือน้อยกว่านั้น หากตกลงกันไว้ก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร) ซึ่ง 3 ใน 4 สูงสุดคือ 75% ซึ่งในกรณีที่ป้องกันการเกิดข้อพิพาทในการตีความว่า 3 ใน 4 คือเท่าไหร่ ยังไง และป้องกันเสียงขาดไปกระจึ๋งเดียวก็ไม่ได้ ผู้ถือหุ้นใหญ่จึงอาจจะถือหุ้นในอัตรา 76% ในขณะเดียวกัน ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยก็จะอยากถือที่ 26% จึงเป็นที่มาของ 76% 26% เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงก็คือว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ ขอมติพิเศษเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (private placement) ให้พวกเดียวกันเอง เพื่อเจือจางหุ้นส่วนน้อย หรือฉวยโอกาสเพิ่มทุนในช่วงที่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยไม่พร้อม เป็นต้น ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยก็เลยมักจะขอถือหุ้นให้ได้อย่างน้อย 25% เช่นกัน..
4. แล้วบางคนก็จะสงสัยว่า ทำไมเวลาถือหุ้นในบริษัทลูก มักถือที่ 99.99% ทำไมไม่ถือให้ครบ 100% ไปเลย อันนี้ก็เนื่องมาจากว่า การเรียกประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ต้องมีผู้เข้าประชุม 2 คนขึ้นไป (คนเดียวประชุมไม่ได้) เค้าจึงกระจายออกมาให้บางคนถือไว้เพิ่มเติม
5. ว่าด้วยการ "ซื้อหุ้นคืน" ด้วยเงินของบริษัท ถ้าเป็นบริษัททั่วๆไป จะ "ไม่สามารถทำได้" เพราะเป็นช่องทางให้ผู้บริหารนำเงินของบริษัท มาซื้อหุ้นคืนเพื่อเพิ่มอำนาจการบริหารของตนเอง แต่ถ้าเป็นบริษัทในตลาดฯ สามารถทำได้ "แต่ต้องขออนุญาต" โดยเหตุผลที่เค้าซื้อคืน เพราะเค้ารู้สึกว่าหุ้นของเค้ามันถูกเกินไป และถ้าสังเกตดู บริษัทที่ซื้อหุ้นคืนทั้งหลาย ผ่านไป 1-2 ปี ราคาวิ่งเป็นเท่าตัวตลอด...
6. สังเกตดูแล้ว สัดส่วนผู้ถือหุ้นก็ถือว่าสำคัญพอสมควรทีเดียวนะ แต่ทำไมบางบริษัท กลุ่มผู้บริหารไม่เห็นจะถือหุ้นกันเท่าไหร่เลย บางที่ถือแค่ 10-20% หรือว่าเป็นเพราะมันไม่ดี ไม่น่าสนใจเหรอ.. (แต่ก้อไม่แน่นะ อาจจะถือในแบบนอมินี)
อันนี้เล่าสู่กันฟังเป็น จะได้เข้าใจสัดส่วนการถือมากขึ้น ว่ามันอะไร ยังไงน่อ..
แหล่งที่มา https://www.facebook.com/mheesombook/