วันที่โพสต์: Nov 03, 2013 2:57:10 PM
บุคคลที่นักเรียนรุ่นหลังไม่รู้จัก
เล่าโดย : ศิษยเก่าร่วมหอพัก
พวกข้าพเจ้า ซึ่งร่วมกันเป็นนักเรียนประจำอยู่ในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2485 นับว่ามีประสบการณ์ และรู้เรื่องราวของโรงเรียนดาราฯ เป็นอย่างดี อยากจะเล่าถึงชีวิตในครั้งนั้น เพื่อให้ลูก-หลาน-เหลน รุ่นต่อมาได้มีโอกาสรับฟังไว้เป็นความรู้
ประการแรกขอแนะนำอาจารย์ฝรั่งก่อนความจริงถ้าอ่านประวัติโรงเรียนมาก่อนก็จะรู้จักท่านเหล่านี้ได้ดีกว่านี้ แต่พวกเราก็อยากกล่าวถึงท่านอีก
- ท่านอาจารย์ เฮเลน เอฟ แมคคลัวร์ ท่านเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
- ท่านอาจารย์ ลูซี่ นิปบล๊อค เป็นฝ่ายธุรการดูแลการก่อสร้างอาคารสถานที่
- ท่านอาจารย์ วินนี่ สตีวาท (สจ๊วต) เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ดูแลกิจกรรรมเนตรนารี
ท่านอาจารย์ บาบารา แมคคินเล่ย์ เป็นครูช่วยสอนภาษาอังกฤษ ตอนหลังนี้อาจารย์แมคคลัว และอาจารย์นิปบล๊อกกลับไปแล้ว อาจารย์แมคคินเล่ย์ เป็นผู้หาทุนให้นักเรียนบ้าน A และอีกหลาย ๆ คน ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นสมาชิกของโบสถ์ไทยใน LA ท่านอาจารย์ เจน อี อาร์ฟ ท่านช่วยสอนภาษาอังกฤษ และเป็นผู้ริเริ่มจัดห้องสมุดโรงเรียนระบบของ จอห์น ดูอี้ เวลานั้นคุณครูปราณี คุณานุสรณ์ เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด ห้องสมุดโรงเรียนเราได้รับ ยกย่องเป็นตัวอย่างของโรงเรียนในเชียงใหม่ นับได้ว่าทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม และยังได้ดูแลเกี่ยวกับคริสตเตียนศึกษาของโรงเรียนด้วย
ทุกท่านทำงานเพื่อพระเจ้าโดยแท้
อาจารย์ไฝคำ พันธุพงศ์ นับว่าท่านเป็นครูใหญ่ที่สำคัญมาก ท่านเป็นผู้ต่ออายุให้โรงเรียน คือ ตอนที่เกิดสงคราม โรงเรียนของเราถูกทหารไทยยึดเอาไปเป็นกองบัญชาการ หมายความว่าโรงเรียนถูกปิด นักเรียนทั้งโรงเรียนต่างกระจัดกระจายไปเรียนต่อในโรงเรียนอื่น อาจารย์ไฝคำ ได้พยายามกอบกู้ไว้ โดยไปสร้างโรงเรียนเล็ก ๆ ห้องเรียบแบบง่าย ๆ มุงใบตองตึง มี 4 ชั้น เรียน คือ ป.1 – ป.4 มีครูเก่าบางท่าน และนักเรียนเก่าที่เรียนจบไปช่วยสอน ต่อมาจึงย้ายไปสอนที่ โรงเรียนดาราใต้ (อยู่หลังโบสถ์ปัจจุบัน) และย้ายกลับมาที่เดิมหลังจากสงครามเลิก
บุคคลสำคัญที่พวกเราจะไม่มีวันลืม คือ ลุงลูน (นายอรุณ ศรีบูชา) ลุงลูนเป็นหัวหน้าคนงานที่รอบรู้สารพัด เป็นทั้งช่างไม้ ช่างปูน ช่างสี สมบัติทุกชิ้นของโรงเรียนลุงลูนจะเป็นผู้รักษา กุญแจทุกดอก ลุงลูนเป็นผู้ถือ ลูกหลานของลุงลูนได้ประสานงานต่อมาอีกหลายคน ปัจจะบันหลานของลุงลูนก็เป็นครูสอนโรงเรียนพวกเรานับถือและเป็นกันเองกับลุงลูนมาก บางครั้งลุงลูนจะเป็นยามถือไฟฉายเดินตรวจรอบ ๆ บริเวณหอพัก ทำให้พวกเรารู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย
คนงานอีกคนหนึ่ง ชื่อ ลุงสุข มีหน้าที่เฝ้ายามสมัยนั้น จะมีคนบ้า ๆ บอ ๆ อยู่คนหนึ่ง ชื่อ นายคำ ก่อด (ด้วน) ชื่อนี้เป็นที่หวาดเกรงของพวกเรมากและมักจะมีเรื่องที่ชวนให้ตกอกตกใจ อยู่บ่อยๆ เช่น มีตุ๊กแกหล่นจากเพดาน ลงมากลางโต๊ะที่พวกเรากำลังทำการบ้าน คืนหนึ่งเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นอีก พวกเราหวีดร้องขึ้นมาพร้อม ๆ กัน คนอื่น ๆ คิดว่า นายคำก่อด เข้ามาบนหอพัก จึงลุกขึ้นวิ่งหนีกันอย่างชลมุน ลุงลูนกับลุงสุขต้องวิ่งขึ้นมาดู ผลก็คือทุกคนต้องไปยืนเข้าแถวให้คุณครูอัมพร (ครูแม่บ้าน) เอาไม้บรรทัดฟาดน่องคนละทีสองที ตามโทษานุโทษ
คุณครูอัมพร อุดมใหม่ เป็นครูผู้ปกครองได้วางเกณฑ์อย่างเข้มงวด พวกเราต่างก็ซึ่งในความเจ้าระเบียบ และเด็ดขาดของท่าน ทำให้พวกเราไม่เคยลืมความหลังกันเลย
ต่อมาอาจารย์ สมพร เบญจวรรณ ได้ตำแหน่งนี้แทนท่านได้เริ่มนำเอาการปกครองระบอบประชาธิปไตยมาใช้ ทำให้พวกเราคลายเคลียดและมีความสุขยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่นั้นมา
ครูใหญ่ในสมัยต่อมา ก็คือ อาจารย์ มณี บล็อก อาจารย์ ประกาย นนทวาสี และอาจารย์ ศรีทอง อารีวงศ์
คุณครูที่สอนจนเกษียณ (อายุ 60 ปี) มีหลายท่าน คือ คุณครูไพทูรย์ รัตนัย คุณครูจันทรนวล สุวรรกุล คุณครูฟองแก้ว อารีหนู คุณครูประทุม คุณครูประหยัด ชุติมา คุณครูสวาท กีรติปาล คุณครูลำเจียก กระแสชัย คุณครูพรรณี ไชยรัตน์ คุณครูพาณี ชุติมา คุณครูสุนีย์ พณัคฆนัมพร มีคุณครูที่สอนเป็นเวลานาน แต่ได้ลาออกไปรับราชการหรือบางท่านก็ออกไปทำงานอย่างอื่นอีกหลายท่าน
บางท่านได้ฝากผลงานไว้ให้แก่โรงเรียนซึ่งสมควรจะเล่าไว้ เช่น อาจารย์สุภาพ สุจินดา ท่านได้ก่อตัวมูลนิธิดารารัศมีขึ้น โดยได้สละทุนทรัพย์ มีความคิดริเริ่มรวบรวมเงินจากนักเรียนเก่า และผู้มีจิตศรัทธา เพื่อสร้างโรงเรียนจะได้ดอกผลมาใช้จ่าย นับว่าเป็นประโยชน์มาจนทุกวันนี้
พวกเราต้องขออภัยเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถนำเอาคุณงามความดีของคุณครู อาจารย์ บุคลากรอีกหลาย ๆ ท่าน มากล่าวไว้ใที่นี้ได้หมด ขอให้ทุก ๆ ท่านได้รับพรจากพระเจ้าเบื้องบนทั่วหน้ากัน
**************************************
ที่มา : หนังสือ 120 ปีดาราวิทยาลัย