16. ดาราวิทยาลัย ... ไปเยือนโรงเรียนเก่า

วันที่โพสต์: Dec 19, 2013 4:0:51 AM

ดาราวิทยาลัย ... ไปเยือนโรงเรียนเก่า

ตั้งชื่อ ตามพระนามของ "เจ้าดารารัศมี" ในปี 2466

นางโซเฟีย บรัดเลย์ แมคกิลวารี ... ลูกสาวหมอบรัดเลย์ ก่อตั้ง ในปี 2418

โดย American Presbyterian Church

ศาสนา คริสต์ นิกาย โปรแตสแตนท์

ส่ง ศาสนาจารย์ ดร.ดานิเอล และ นาง โซเฟีย บรัดเลย์ แมคกิลวารี

มาทำงานเผยแพร่ศาสนาที่เชียงใหม่ มณฑลพายัพ

เจ้าอินทวิชยานนท์สุริยวงศ์ เจ้าหลวงเชียงใหม่ประทานที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิงให้

ปัจจุบันคือ คริสตจักรที่หนึ่ง เชียงใหม่

ปี พ.ศ. 2418 นางโซเฟียบรัดเลย์ แมคกิลวารี

เปิดสอนการเย็บปักถักร้อย ภาษาอังกฤษ และพระคัมภีร์ แก่เด็กผู้หญิง ที่บ้านพัก

เมื่อผู้ปกครองส่งบุตร หลานไปเรียนมากขึ้น

องค์กรมิชชั่นส่งมิชชันนารีสาว 2 คน มาช่วยจัดโรงเรียนให้เป็นระบบ

" โรงเรียนผู้หญิง (Chiengmai Girls’ School) "

เป็นโรงเรียนสตรีแห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่

ชาวบ้านเรียกว่า "โรงเรียนสตรีสันป่าข่อย"

ปี พ.ศ. 2452 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้เสด็จเยี่ยมโรงเรียน

ผู้บริหารโรงเรียนได้ ทูลขอพระราชทานชื่อของโรงเรียน

พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้มีโทรเลข

ถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ปรึกษาเรื่องชื่อของโรงเรียนผู้หญิง

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชโทรเลขตอบกลับ

ควรให้เรียกชื่อโรงเรียนผู้หญิงว่า

" โรงเรียนพระราชชายา (Prarachaya School) "

ปี พ.ศ. 2466 เปลี่ยนชื่อ " โรงเรียนพระราชชายา "

เป็น " โรงเรียนดาราวิทยาลัยแผนกประถม "

และ

ตั้งโรงเรียนอีกแ่ห่งที่บ้านหนองเส้ง

เปิดรับเฉพาะนักเรียนผู้หญิงอายุตั้งแต่ 5 – 20 ปี

มีทั้งประถมและมัธยมซึ่งรับจากแผนกประถมมาเีรียนรวมด้วย

ชื่อ " ดาราวิทยาลัย "

ตามพระนาม " เจ้าดารารัศมี "

ช่วงสงครามโลก โรงเรียนดาราวิทยาลัยทั้งสองแห่งถูกรัฐบาลยึด

เพราะถือว่า เป็นทรัพย์สินของชนชาติศัตรู

เมื่อสิ้นสุดสงครามได้เปิดขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2489

ปี พ.ศ. 2511 ปิดโรงเรียนดาราแผนกประถม

มาที่โรงเรียนดาราวิทยาลัยที่เดียว

ปี พ.ศ. 2534 เปิดสอนระบบสหศึกษา

ปี พ.ศ. 2549 เปิดสอนตามโครงการ Native Speaker Program

*****

ตั้งแต่ออกจากโรงเรียนดารามาครบรอบสี่สิบปีพอดี

เพิ่งได้กลับเข้าไปเดินชมโรงเรียนเก่าอีกครั้งหนึ่ง

สมัยเราตึกนี้ตรงกลางชั้นล่างคือห้องผู้จัดการ , ห้องครูใหญ่ และห้องรับแขก

ชั้นบนเป็นห้องสมุด

ปีกซ้าย ขวาทั้งสองชั้นคือห้องเรียน

แผนผังโรงเรียนตอนสี่สิบปีก่อน

แถวนี้เป็นที่ตั้งของตึกอนุบาล 1 คุณครูจินดา

และอนุบาล 2 คุณครูพรรณี

ภายในตึก อนุบาล 1 พื้นไม้ ผนังตึก ด้านบนเป็นรั้วตะแกรง

งานประจำปีของโรงเรียนจะจัดราว ๆ ต้นเดือนธันวาคม เป็นเวลา สองคืน

การแสดงของนักเรียนจะตั้งเวทีที่หน้าตึกนักเรียนประจำ

ตรงส่วนที่วางตัวหนอน ... ตอนนั้นเป็นสนามหญ้า

ตึกหลังเวทีคือตึกข้างบน

นักเรียนชั้นอนุบาลเท่านั้นที่จะไว้ผมยาวได้

อาคารบางหลังอาจถูกแทนที่

แต่นี่คือต้นเดิม ต้นฉำฉาบิ๊กเบิ้ม หน้าห้อง ป. 1 ที่เล่นของพวกเรา

ตำแหน่งนี้เคยเป็นอาคารไม้ชั้นเีดียว ใต้ถุนสูงที่ต้องขึ้นบันได 4-5 ขั้น

มีห้องเรียนห้าห้อง ( ป 2 ก,ข ป.3 ก,ข ป 4ก ) ห้องพักครูหนึ่งห้อง รูปตัวยู

ตรงกลางเป็นระเบียงรวม ...

ที่ ๆ นักเรียนพยาบาลฝึกหัดจาก รพ.แม็คคอมิค ต้องมาต้มเข็มโชว์

ก่อนให้พวกเรามาเข้าแถวฉีดวัคซีน

ปัจจุบัน เป็น

ห้องเรียน ป. 4 ข. อาคารเล้าไก่ของเรา เป็นตึกด้านซ้าย

มองผ่านประตูไปจนสุดรั้วติดแมคคอมิค เป็นกอไผ่

ใช้เป็นเวทีประกวดนางงาม ป.4

ตึกอำนวยการปีกซ้าย ก่อนห้องสุดท้าย ป.5 ค.

ใต้ต้นลั่นทมนี้คือที่เล่น

ข้างซ้ายหลังแนวต้นลั่นทม ...

ตอนนั้นไม่แน่ใจต้นลั่นทมว่าที่เป็นแนวมีหรือไม่ หรือเล็กอยู่ ?

เป็นเหมือง ( แปลว่าคลอง ) เล็ก ๆ

แยกตึกเตรียม ( อุดม ) ออกไปจากฝั่งเด็กเล็ก

เด็ก ๆ ถูกห้ามไปฝั่งโน้น

เพราะพี่ ๆ เขาต้องการความสงบ ดูหนังสือหนัก เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย

คุณครูท่านว่าอย่างนั้น

ตึกเตรียม

เพิงโรงอาหารซ้ายมือ เดิมคือ เล้าไก่ชั้น ป. 6

ใต้ต้นลำใย คือที่เล่นของชั้น ป.4 เอ ! ตอนป.6 เล่นอะไร ????

แต่ใต้ต้นมะขามนี้ ด้านซ้ายมือ เป็นสนามวอลเล่ย์บอล

ปีกขวาของตึกอำนวยการ ชั้น ป. 7 ง.

ได้นั่งแถวที่สองจากหลังห้อง ตรงกับหน้าต่างบานนี้

นั่งข้างหลังคือเพื่อนสนิทสองคน เกษร กับ สิรี

ที่ไม่ได้เจอเลยหลังออกจากโรงเรียนมา

ตอนนั้นทำไมสูงแท้นั่งเกือบหลัง พอย้ายโรงเรียนนั่งหน้าตลอดเลย

ทางลงหลังตึกอำนวยการ ไปโรงอาหาร

แถวนี้เป็นโรงอาหาร ... นักเรียนจะมีเวรไม่ต้องเรียนไปเป็นลูกมือทำกับข้าว

ทุกวันศุกร์จะเป็นก๋วยเตี๋ยว ... อร่อยที่สุดเลย

อาหารที่เกลียดมาก แกงเทโพ จะมาคู่กับปลาซิวทอด

เวลาซื้อขนมจะต้องมุดให้ใกล้ที่สุด ยื่นแขนให้ยาวที่สุด ตะโกนให้ดังที่สุด

เวลาซื้อไอติม ถังใส่ไอติมอยู่สูงจัง ต้องปีนคอกเล้าไก่ เพื่อเลือกรสไอติม

คอกเล้าไก่จะปีนก็ต้องตะแคงเท้าสอดเ้ข้าไป

เมื่อก่อนเรียกว่าบ้านแหม่ม เป็นที่เรียนพิเศษเปียโน

เดี๋ยวนี้เป็นพิพิธภัณฑ์

ต้นฉำฉาหลังบ้านแหม่ม เมื่อก่อนใต้ต้นจะเป็นสนามหญ้ามาเลย์

ห้องประชุม

เวที

เวที งานประจำปี ตอน ป. 5

ภายในห้องประชุม จะเข้ามาเพื่อฟังเทศน์ สวดมนต์ เช้า 15 นาที

ถ้าไม่ได้เข้า จะเรียนพระคัมภีร์ที่ห้องเรียน

หลังหอประชุม

เคยถ่ายรูปหมู่ชั้น ป. 2 ก. คุณครูจันทร

มุมทางตะวันออกเฉียงใต้

เคยถ่ายรูป ชั้น ป. 3 ข. ครูฝึกสอน จากวิทยาลัยครูเชียงใหม่

ใกล้ประตูโรงเรียน แถวนี้เดิม

เป็นสนามบาส

เป็นที่แอบซื้อก๋วยเตี๋ยวหน้าโรงเรียน ... เพื่อนเล่ามางั้น

และ

ในวันที่ 9 ธันวาคม 2554 นี้

ขอเชิญศิษย์เก่าทุกท่าน

แม้ว่าจะไม่ได้ไปแต่ก็ส่งใจมาถึงโรงเรียนค่ะ

Read more:http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tuk-tukatkorat&month=12-2011&date=08&group=38&gblog=26#ixzz2ntFBY16W

เครดิต : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tuk-tukatkorat&month=12-2011&date=08&group=38&gblog=26