เนตรนารีโรงเรียนดารา

เนตรนารีโรงเรียนดารา

เนตรนารีคณะแรกของภาคเหนือ เนตรนารีเป็นกิจกรรมของนักเรียนหญิง ซึ่งจัดกิจกรรมแบบลูกเสือชายนโยบายส่วนใหญ่ คือ การเน้นระเบียบวินัย การช่วยเหลือผู้อื่น การพัฒนาตนเองให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข คุณช่อทิพย์ ชินะโยธิน ได้กล่าวถึงการก่อตั้งคณะเนตรนารี ในระยะแรกไว้ในหนังสืออนุสรณ์ดารา 100 ปีว่า การก่อตั้งเนตรนารีของโรงเรียนดาราวิทยาลัย มีประวัติความเป็นมาคือเมือครั้งอาจารย์ Winnie A Burr ได้เล็งเห็นว่าประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ได้จัดตั้ง girl guide ขึ้นและมีประโยชน์ต่อการนำมาใช้สอนกับเด็ก ดังนั้นโรงเรียนของเราสมควรจะดำเนินตามแบบบ้าง อาจารย์ Winnie A Burr จึงได้ก่อตั้งลูกเสือหญิงกองแรกขึ้นเมื่อปี 2470 ซึ่งก่อต่อมารัฐบาลได้เรียกว่า “เนตรนารี” เดิมในจังหวัดภาคเหนือส่วนมากในโรงเรียนสตรีหลายแห่งจะมี อนุกาชาด (ยุวกาชาด) และลูกเสือ แต่มีโรงเรียนราษฎร์ในเครือมิชชันนารีเพียง 2 โรงคือ โรงเรียนดาราวิทยาลัย และ โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เท่านั้นที่ลงทะเบียน girl guide ณ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมี Lord Berden Powell เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น โดยในขณะนั้นจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารกันทุกปี กิจกรรมของเนตรนารีในระยะแรก ๆ ได้เปิดรับสมัครอาสาสมัครโดยไม่มีการบังคับนักเรียน มีการแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 หมู่ ในช่วงปีแรก ๆ มีนักเรียนประมาณ 40 กว่าคน แต่ละหมู่จะมีชื่อของตนเอง เช่น พลับพลึงไพร รสสุคนธ์ ฯลฯ ในแต่ละหมู่จะมีผู้หมู่ 1 คน มีธงประจำหมู่ ธงประจำกอง ผู้หมู่จะติดแถบสามสีไว้ที่บ่าซ้าย มีนกหวีดห้อยที่คอเพื่อใช้เรียกลูกแถว เครื่องแบบคือกระโปรงและหมวกปีกกว้างสีน้ำเงิน ถุงเท้ามีขาว และรองเท้าสีดำ

กิจกรรมที่จัดขึ้นจะดูตามความเหมาะสมของวัย เป็นประโยชน์แก่ตัวของเนตรนารีเอง เช่น การปฐมพยาบาล การตัดเย็บเสื้อผ้า การแสดง กิจกรรมบนเวที การออกร้านในวันจบชั้นของโรงเรียน

กิจการของเนตรนารีได้หยุดชะงักไปช่วงหนึ่งตามสภาวการณ์ของประเทศ ต่อมาสโมสรเนตรนารีเพชราวุธ ที่กรุงเทพฯ ได้รื้อฟื้นวิชาเนตรนารีขึ้นใหม่ให้สอดคล้องกับกิจการของลูกเสือชาย ทางสโมสรจึงได้เชิญตัวแทนจากโรงเรียนดาราวิทยาลัยไปรับการอบรมด้วย ในครั้งนั้นอาจารย์สมปรารถนา อาจารย์ใหญ่ได้ส่งอาจารย์ไปร่วมอบรมด้วย 3 ท่าน คือ

อ.วิสสุดา กระแสชัย , อ.ชุตินีย์ อรุโณทยานันท์ , อ. อนงค์ กติกา ต่อมาจึงได้จัดตั้งกองเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ขึ้นในโรงเรียนอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. 2521

ในระยะแรก ๆ ได้เปิดรับสมัครนักเรียนในระดับมัธยมปลายมีนักเรียนสนใจร่วมกิจกรรมเนตรนารีเป็นจำนวนมากเครื่องแบบคือกระโปรงและเสื้อสีเขียว ผ้าผูกคอสีบานเย็น ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดเชียงใหม่ สวมหมวกสีเขียว ถุงเท้าสีขาว รองเท้าดำ กิจการเนตรนารีได้ก้าวหน้าต่อไป

กิจกรรมต่าง ๆ ของเนตรนารีเกิดความสนุกสนาน มีความสามัคคีกันในหมู่คณะ รู้จักการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีระเบียบวินัยในตัวเอง จึงนับเป็นความภาคภูมิใจที่โรงเรียนได้เปิดกิจการเนตรนารีขึ้นเป็นโรงเรียนแรกของเชียงใหม่

ต่อมาเนื่องจากระดับมัธยมต้นมีการสอนวิชายุวกาชาด จึงเปิดกองเนตรนารีวิสามัญขึ้นในระดับมัธยมปลาย โดยยึดนโยบายของเนตรนารีวิชาสามัญในเรื่องการ “การบริการ” สมาชิกทุกคนให้ความร่วมมือบริการต่อสังคม ผู้กำกับเนตรนารีที่ได้รับผิดชอบต่อมาคือ อ.ทิวา นิลุบล, อ.นภาภรณ์ วงศ์ทิพย์, อ. ทับทิม ชมทวีวิรุตม์ โดยได้รับความร่วมมือจากคณะครูร่วมกิจกรรมอย่างดี

ปัจจุบันเนตรนารีได้บรรจุเป็นกิจกรรมตามหลักสูตร ที่ทางโรงเรียนได้เปิดสอนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงระดับมัธยมต้น ปี 2540 โรงเรียนให้เลือกเรียนวิชาเนตรนารีแทนวิชายุวกาชาด นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น การออกไปสังคมสงเคราะห์ การปฐมพยาบาล การร้องเพลง เกม การเข้าค่ายคุณธรรม กิจกรรมเหล่านี้ทำให้นักเรียนกล้าแสดงออก มีความรับผิดชอบ ก่อให้เกิดความผูกพันระหว่างเพื่อน ๆ และโรงเรียน จนเมื่อสำเร็จการศึกษาออกไป ก็ยังระลึกถึงกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อครั้งที่เคยร่วมกันในโรงเรียน

กิจกรรมเด่น ๆ ที่กองเนตรนารีมีส่วนร่วมกับกองเนตรนารีอื่น ๆ เช่น

· ร่วมกิจกรรมชุมนุมลูกเสือเนตรนารีแห่งชาติครั้งที่ 9 ณ ค่ายวชิราวุธ

· ร่วมชุมนุมเนตรนารีวิสามัญแห่งชาติ ณ หนองฮ่อ เชียงใหม่

· ร่วมชุมนุมเนตรนารีวิสามัญแห่งชาติ ณ ค่ายระยอง

· ร่วมชุมนุมเนตรนารีวิสามัญแห่งชาติ ณ ค่ายพิษณุโลก

ฯลฯ

ในวาระที่โรงเรียนครบ 120 ปี ของการต่อตั้งโรงเรียนดาราวิทยาลัยจึงนับเป็นความภาคภูมิใจที่กิจการของเนตรนารีได้เป็นส่วนหนึ่งของทางโรงเรียน ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นเวลานาน และถือว่าเป็นโรงเรียนแรกของจังหวัดเชียงใหม่ภาคเหนือ ผู้มีส่วนร่วมทุก ๆ คนจะพยายามพัฒนากิจการให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

**************************************************

ที่มา : หนังสือ 120 ปีดาราวิทยาลัย

คำปฏิญาณตนของเนตรนารี แห่งดาราวิทยาลัย

" ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่า จะกระทำหน้าที่ของข้าพเจ้าต่อประเทศชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์ ด้วยดี จะช่วยเหลือผู้อื่นทุกโอกาส และจะปฏิบัติตามกฏข้อบังคับเป็นนิจ"