ร่มรื่น ..ร่มเงาใน ร.ร. ดาราวิทยาลัย กับการประกวดต้นไม้ใหญ่ ปี 2552
คอลัมน์ : คนกับป่าเมืองเชียงใหม่
เรื่องโดย : เทศบาลนครเชียงใหม่
ภาพ : โรงเรียนดาราวิทยาลัย
“โรงเรียนดาราวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญของการดำรงรักษาต้นไม้ใหญ่ เพื่อเป็นสื่อของความผูกพันในอดีตระหว่างนักเรียนเก่าและโรงเรียน เป็นการประกาศถึงความต่อเนื่องของเวลาในอดีตที่ทุกคนภาคภูมิใจในการเป็นนักเรียนดาราวิทยาลัย เป็นความภาคภูมิใจในอาณาบริเวณที่เคยเป็นสถานที่หล่อหลอมให้นักเรียนเก่าทุกคนได้เป็นคนดีเป็นพลเมืองดีของชาติมาตลอดเวลาร้อยกว่าปีที่ผ่านมา..”
นางสาวพัชริดา บุญโคตร นักเรียนโรงเรียนดาราวิทยาลัย เล่าถึงการให้ความสำคัญกับต้นไม้ของโรงเรียนดาราวิทยาลัย และได้ส่งต้นลั่นทมอายุกว่า 50 ปีในโรงเรียนเข้าประกวดต้นไม้ใหญ่จนได้รับรางวัลจากเทศบาลนครเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2549
ต้นลั่นทมต้นประวัติศาสตร์คู่โรงเรียนดาราวิทยาลัยจะเป็นพันธุ์ขาวพวงกลีบสีขาว กลางดอกเป็นสีเหลือง ส่งกลิ่นหอมแรงมาก นักเรียนมักจะเก็บมาเล่นกันและหลงใหลในความหอมและความงาม ในสมัยก่อนเด็กมักจะปีนเล่นบนต้นลั่นทมเพราะเป็นต้นไม้ที่กิ่งก้านกว้างใหญ่และแข็งแรงไม่หักง่าย เด็กผู้หญิงสามารถปีนได้ง่ายไม่เหมือนพันธุ์ไม้ประเภทอื่นที่เด็กหญิงปีนลำบาก ดร. รัศมี แดงสุวรรณ ผู้อำนวยการของโรงเรียนท่านเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียน เป็นผู้หนึ่งที่มีความผูกพันกับดอกลั่นทม ท่านเล่าว่า ท่านมักไปนั่งเล่นใต้ต้นลั่นทมและนำดอกไม้ประดับผมเล่นกับเพื่อนๆ (ชั้น ม.ศ. 5 ปี พ.ศ. 2511 )
เด็ก ๆ ที่โรงเรียนดาราวิทยาลัยจะผูกพันกับต้นไม้ใหญ่ทุกต้น “พอช่วงพักทุกคนก็จะยึดร่มเงาใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นที่เล่น แล้วแต่ว่าใครจะอยู่ใกล้ต้นอะไร เมื่อก่อนชอบเก็บดอกลั่นทมมาร้อยเป็นมงกุฎใส่แล้วเล่นเป็นเจ้าหญิง” คำ ผกา นักเรียนเก่าผู้เคยกระโดดโลดเต้นเป็นเจ้าหญิงใต้ต้นลั่นทมเล่าให้เราฟังถึงความทรงจำเก่า ๆ ที่เธอยังรำลึกถึงอยู่เสมอ ว่าต้นไม้และดอกไม้ในโรงเรียนเป็นโอกาสให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกลางแจ้ง ได้สัมผัสกับหิน ดิน ทราย เถาวัลย์ และผูกพันกับธรรมชาติ
นอกจากต้นลั่นทมแล้ว ใน ร.ร. ดาราวิทยาลัย ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่อีกจำนวนมาก เช่น ต้นฉำฉา ต้นโอ๊ค ต้นมะหาด ต้นสมอพิเภท ต้นกะท้อน ต้นมะกอก รวมทั้งต้นมะขามอายุกว่า 100 ปี สูงถึง 12 เมตร ซึ่งได้รับรางวัลจากการประกวดต้นไม้ใหญ่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ.2548
“ต้นมะขามในโรงเรียนดาราวิทยาลัยในปัจจุบัน มีมาตั้งแต่ก่อนที่มิชชั่นนารีจะเข้ามาพัฒนาโรงเรียน..เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่นักเรียนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่เล่นปิงปอง เล่นวอลเล่ย์บอล .....เมื่อยามใบมะขามลอยคว้างปลิวลงมา เด็ก ๆ ก็พากันวิ่งไปเก็บแล้วอธิษฐาน เพราะเชื่อว่าถ้าจับใบมะขามได้ในขณะที่ยังลอยในอากาศ ถ้าอธิษฐานแล้ว สิ่งที่อธิษฐานนั้นจะเป็นความจริง....”
นักเขียนสาวคนหนึ่งเล่าความประทับใจต่อต้นมะขามต้นนี้ว่า “เห็นต้นมะขามมาก็มาก แต่ไม่เคยเห็นมะขามต้นไหนใหญ่เท่าต้นตรงหน้านี้เลย ใบเล็กปลิวไปตามลมหนาว มะขามเป็นฝักแล้วแปลว่าถึงเวลาใกล้สอบของนักเรียน ต้นไม้นอกจากให้ร่มเงาแล้วยังเป็นนาฬิกาปลุกสำหรับความทรงจำอีกหลาย ๆ เรื่อง”
เช่นเดียวกับ คำ ผกา นักเขียนศิษย์เก่าที่เล่าย้อนกลับมาเมื่อครั้งเป็นนักเรียน ร.ร.ดาราฯ “ตอนเด็ก ๆ ชอบเล่นจับรางวัลใต้ต้นมะขาม เวลาใบร่วงพลิ้วลงมา เรากับเพื่อน ๆ จะกระโดดจับใบมะขาม เล่นเหมือนเราจับรางวัลเวลาชิงโชคแล้วเขาโกยสลากขึ้นมา สำหรับเด็ก แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
ความผูกพันใต้ร่มไม้นานาพันธุ์ซึมซับเป็นความทรงจำของนักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่า และไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนกี่ปี หากศิษย์เก่าทั้งหลายได้มีโอกาสได้ย้อนกับไปเยือนโรงเรียนอีกครั้งก็ยังเห็นต้นไม้หลากหลาย ให้ร่มเงาเคียงคู่สถานศึกษาแห่งนี้ รวมทั้งช่วยให้ความร่มรื่นแก่เมืองเชียงใหม่ จวบจนปัจจุบัน
ด้วยความสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียว ความหลากหลายของชนิดต้นไม้ การดูแลใส่ใจให้คุณค่า ปี พ.ศ. 2551 เมื่อ ร.ร. ดาราวิทยาลัยส่งเข้าประกวดในประเภทพื้นที่สีเขียวหรือสถานที่ที่มีต้นไม้ขึ้นจำนวนมาก จึงได้รับโล่รางวัลจากเทศบาลนครเชียงใหม่ไปในที่สุด