วันที่โพสต์: Nov 03, 2013 2:54:6 PM
นักเรียนประจำ สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
นักเรียนประจำจะมีครูแม่บ้าน หรือครูผู้ปกครองคอยดูแลโรงเรียน จะมีกฎ 2 อย่าง คือ กฎของโรงเรียน และกฎของหอพัก ซึ่งทุกคนต้องทำตามกฎทั้งสองโดยเคร่งครัด
ในที่นี้จะขอเลือกเฉพาะกฎของหอพัก ซึ่งนักเรียนที่ไม่ได้อยู่ประจำจะไม่ค่อยได้ทราบมากนัก
กฎในหอพักจะเริ่มตั้งแต่ 6.00 น. ครูเวรจะสั่นกระดิ่งเป็นสัญญาณ ทุกคนจะต้องรีบตื่นนอน จะมัวโอ้เอ้นอนบิดขี้เกียจต่อไม่ได้ บางคนจะก้มลงคว้ากระโถนใต้เตียงลงไปชั้นล่าง เข้าห้องน้ำ รองน้ำฝนจากแท้งค์ใหญ่ ล้างหน้า แปรงฟันตามสนามหลังตึก (ปัจจุบันเป็นราวตากเสื้อผ้า) หลังจากนั้นก็ไปแต่งตัว (ฟอร์ม) พอแต่งตัวเสร็จก็ไปเข้าแถว เพื่อขึ้นไปจัดที่นอนของตนเอง ทำที่นอนให้ตึง เรียบ ซึ่งทุกคนได้รับการอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี แล้งคลุมด้วยผ้าคลุมที่ปักคำว่า “ด.ว.” สีแดง ตัวใหญ่เต็มที่นอน ครูเวรจะมาตรวจดูความเรียบร้อย เตียงจะต้องจัดให้เป็นแนวตรงกัน เมื่อเป็นที่พอใจแล้วจึงจะปล่อยให้ลงไปได้
ส่วนชั้นล่างที่ห้องโถงทีโต๊ะใช้เป็นที่ทำการบ้าน-ดูหนังสือ และเป็นโต๊ะอาหารด้วย ปัจจุบันนี้ก็คงใช้อยู่ นักเรียนที่เป็นเวรจัดโต๊ะก็จะไปยกอาหารมาจากห้องครัวนำมาจัดวางไว้ ทุกคนจะเข้าแถวแล้วเดินเข้านั่งโต๊ะตามที่ของตัวเอง ก่อนจะลงมือรับประทานจะต้องอธิษฐานและร้องเพลงขอบคุณพระเจ้าก่อนทุกครั้ง ครูเวรจะคอยตรวจเพื่อให้นักเรียนอยู่ในระเบียบ มีมารยาทในการรับประทาน จะไม่มีเสียงพูดคุยดัง ๆ และเสียงช้อนส้อมกระทบกันอย่างเด็ดขาด
เมื่อทุกคนอิ่มก็จะช่วยกันเก็บจาน ชาม เอาไปวางที่ล้างจาน นักเรียนที่เป็นเวรล้าง ก็จะทำหน้าที่แล้วเช็ดจนแห้ง ส่วนเวรอื่นก็จะแยกย้ายกันไปทำ เช่น กวาดห้องนอน เช็ดโต๊ะ กวาดห้องอาหาร กวาดห้องแต่งตัว เก็บขยะรอบหอพักและสนามวงกลม ล้างห้องน้ำ ห้องส้วม พอทำเวรเสร็จ ก็จะพอดีกับโรงเรียนเข้าเรียน เป็นอย่างนี้ทุกวัน และการทำเวรจะมีการหมุนเวียน คือจะต้องผลัดเปลี่ยนหน้าที่ต้องทำเหมือนกัน ทุกคนจะต้องอดทนและปฏิบัติได้ทุกอย่าง ใครที่สุขภาพไม่ดีหรือไม่เคยทำงานบ้าน ก็จะรู้สึกลำบาก วันเสาร์เป็นวันที่มีงานหนักเป็นพิเศษ เวลาเช้าไม่ต้องทำเตียง แต่หลังจากรับประทานข้าวแล้วต้องเอาที่นอนออกไปตากแดด ไม้ปูเตียงนอนที่ปูเรียงเป็นแผ่น ๆ ต้องเอาออกมาเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำให้สะอาด รวมถึงโครงเหล็กของเตียงด้วย ตอนกลางวันต้องพลิกที่นอนอีกด้านหนึ่งให้ถูกแดดเช่นกัน ตกบ่ายจึงเก็บแล้วจัดเตียงให้เรียบร้อย ทำให้ที่นอนอุ่นไอแดดจะสะอาด ส่วนเวรตรงจุดต่าง ๆ ก็เป็นงานพิเศษ มีขัดพื้น ถูพื้น บางที่ต้องลงน้ำมัน ถูขัดให้เป็นเงา ทำให้ทุกแห่งสะอาดตา เวลาที่เหลือต้องไปซักผ้า รีดผ้า และจัดตู้เสื้อผ้า เสร็จแล้วจึงไปทำการบ้าน
วันเสาร์สิ้นเดือน อนุญาตให้ผู้ปกครองมารับไปข้างนอกได้ ส่วนผู้ไม่กลับ ครูเวรจะพาออกไปเที่ยวตลาดหรือตามถนนในเมือง นักเรียนประจำหอพักดาราเป็นจุดเด่นในสายตาชาวบ้าน หรือหนุ่ม ๆ สมัยนั้น คืนวันเสาร์จะได้เข้านอนเร็วกว่าวันปรกติ ทุกคืนก่อนท่องหนังสือ จะมีการร้องเพลง อ่านข้อพระคัมภีร์ และอธิษฐาน ฝึกให้นักเรียนนำนมัสการด้วย
เด็กชั้นประถมขึ้นนอน 20.00 น. ประถมปลายและมัธยมต้นขึ้นนอน 21.30 น. มัธยมปลายขึ้นนอน 22.00 น.
พอถึงวันอาทิตย์ ก็ทำเวรกันตามปรกติ แต่หลังอาหารเช้าจะแต่งฟอร์ม แล้วไปตั้งแถวที่หน้าอาคารหอพัก เมื่อพร้อมแล้วครูเวรจะพาเดินแถวไปตามถนนบำรุงราษฎร์ เลี้ยวเข้าถนนเจริญประเทศ และเลี้ยวไปถนนลำพูน เพื่อเข้าตัวโบสถ์คริสตจักรที่ 1 ปัจจุบันเป็นโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน เราไปร่วมนมัสการพระเจ้าที่นั่น โดยนั่งเก้าอี้ด้านซ้ายมือของผู้เทศนา ส่วนนักเรียนปริ้นส์รอยจะนั่งเก้าอี้ด้านขวามือ เมื่อนมัสการเสร็จ ก็จะเดินแถวกลับ จากนั้นก็จะขึ้นไปนอนพักบนเตียง เวลา 15.00 น. จะมีกระดิ่งปลุกให้ตื่น ลงไปอาบน้ำ แต่งฟอร์มใหม่ และคงเข้าแถวอย่างเดิม เพื่อเดินไปร่วมนมัสการที่โบสถ์ปริ้นส์รอยแล้วจึงเดินกลับ หลังรับประทานอาหารเย็นก็พักผ่อน เตรียมบทเรียนที่จะใช้ในวันจันทร์ นี่คือชีวิตของการเป็นนักเรียนหอพัก เป็นเช่นนี้จนโรงเรียนปิดเทอม
จะสังเกตว่า คนงานในครัวไม่กี่คน เพราะส่วนมากจะให้นักเรียนช่วยกันทำเองทั้งนั้น ขอให้เปรียบเทียบดูว่า สมัยนั้นกับสมัยนี้ ไหนน่าสนุกตื่นเต้นกว่ากัน ท่านผู้อ่านคิดอยากจะเกิดไปเป็นนักเรียนประจำของโรงเรียนดาราวิทยาลัยสมัยโน้นบ้างไหมคะ
กลุ่มนักเรียนประจำตลอดกาล
และรักโรงเรียนดาราตลอดไป
**************************************
ที่มา : หนังสือ 120 ปีดาราวิทยาลัย