13. เมื่อโรงเรียนหญิงแห่งแรกมีนักเรียนชาย

วันที่โพสต์: Nov 03, 2013 3:12:17 PM

เมื่อโรงเรียนหญิงแห่งแรกมีนักเรียนชาย

นับประวัติการก่อตั้งของโรงเรียนดาราวิทยาลัยย้อนหลังไป 120 ปี เมื่อครอบครัวแมคกิลวารี ได้ก่อตั้งโรงเรียนดาราวิทยาลัยขึ้นจากบ้านพักของมิชชันนารี เริ่มจากนักเรียนหญิง 6-8 คน ที่มาพักรวมกับท่านที่บ้านพักและศึกษาวิชาการเย็บปักถักร้อย อ่านพระคัมภีร์ ร้องเพลง และศึกษาเรื่องการเป็นแม่ศรีเรือนที่ดี ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ปกครองในสมัยนั้นเป็นอย่างดี มีการนำลูก ๆ มาเข้าเรียนเพิ่มขึ้นรวมเป็น 20 กว่าคน จนมิชชันนารีต้องเดินทางจากกรุงเทพมาช่วยสอนเพิ่มขึ้น

เจ้าอินทวิชยานนท์ได้ยกที่ดินซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งโบสถ์คริสจักรที่ 1 เชิงสะพานนวรัฐเป็นที่ตั้งโรงเรียนแห่งแรก เริมต้นด้วยการสร้างเรือนไม้ขึ้น 2 หลัง หลังที่ 1 เป็นที่พักของครอบครัว มิชชันนารีและนักเรียนที่เข้าเรียนเริ่มแรก 6-8 คน ต่อมาได้อาศัยเรือนไม้อีกหลังหนึ่งเป็นที่อยู่และห้องเรียนของนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น

โรงเรียนดังกล่าวเดิมได้ชื่อว่าโรงเรียนสตรี ต่อมาพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ทรงขอพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ใช้ชื่อตำแหน่งพระราชชายามาเป็นนามของโรงเรียนว่า “โรงเรียนพระราชชายา”

ปี 2450 ในบริเวณเดียวกันมิชชันนารีได้จัดตั้งโรงเรียนแพรนเนอร์ขึ้น ซึ่งได้รับนักเรียนชายและหญิงโดยจัดการสอนเพียงระดับประถมศึกษา ซึ่งมีจำนวนนักเรียนมากพอสมควร ต่อมาได้ย้ายนักเรียนทั้งหมดมารวมกับนักเรียนของโรงเรียนพระราชชายา เมื่อปี 2466 โรงเรียนในระยะแรก ๆ จึงมีทั้งนักเรียนระดับประถมทั้งชายและหญิง

ต่อมากิจการของโรงเรียนได้รับความนิยมจากผู้ปกครองส่งบุตรหลานไปศึกษาเป็นจำนวนมาก มิชชันนารีจึงมาซื้อที่ดินเพิ่มเติมขึ้นที่ตำบลหนองเส้ง นักเรียนที่มาเรียนจากชนบท และต่างจังหวัด จึงต้องมาอยู่เป็นนักเรียนประจำมากขึ้น สภาพโรงเรียนก็คับแคบ มิสยูเรีย แฮซ จึงจอร้องให้สภามิชชันนารีช่วยเหลือ โดยคณะสตรีอเมริกาได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินเป็นจำนวน 57 ไร่ 1 งาน 8 ตารางวา และสร้างตึกขึ้น 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นที่พักของอาจารย์ฝรั่ง (ปัจจุบันคือบ้านเขียว) อีกหลังหนึ่งเป็นที่พักนักเรียนประจำและห้องเรียนโดยสร้างขึ้นเมื่อปี 2464

เมื่อมาตั้งที่แห่งใหม่ได้ย้ายนักเรียนบางส่วนมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ และได้ขออัญเชิญพระนามของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี มาเป็นชื่อของโรงเรียนว่า “โรงเรียนดาราวิทยาลัย” ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยม ส่วนโรงเรียนพระราชชายาเดิมเปิดเฉพาะนักเรียนอนุบาล (ดินเนอร์การเด้นท์) และระดับประถม 1-4 เท่านั้น (แต่รู้จักกันในนามของดาราได้ส่วนโรงเรียนใหม่เรียกดาราเหนือ)

ในระยะแรกการเปิดโรงเรียนดาราวิทยาลัย (ดาราเหนือ) จะมีการรับนักเรียนชายจากโรงเรียนเพรนเนอร์และนักเรียนชายที่อยู่ใกล้โรงเรียน ระดับอนุบาลจนถึงประถม 1 แล้ว นักเรียนชายจะแยกย้ายไปเรียนต่อที่อื่น เพราะการศึกษาในสมัยนั้นยังนิยมการแยกเรียนระหว่างนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ซึ่งต่อมาประมาณปี 2505 โรงเรียนก็เลิกรับนักเรียนชายในระดับอนุบาลถึงประถม

กิจการของโรงเรียนได้เจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และภาวะเศรษฐกิจยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงผู้ปกครองได้มองเห็นความสำคัญของการศึกษาและนิยมส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนที่ดี ๆ เพราะหวังผลดีในอนาคตของบุตรหลานได้มีผู้เสนอแนะขอให้โรงเรียนดาราวิทยาลัยรับชายให้ร่วมกับนักเรียนหญิง เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปมีหลาย ๆ โรงเรียนได้จัดการศึกษาแบสหศึกษา และสภาพสังคมที่ยอมรับและทางโรงเรียนจึงได้ประชุมทบทวน วิจัย หาข้อเสนอแนะจากหลาย ๆ ฝ่าย เช่น ผู้ปกครอง ครู และนักเรียนเก่า ด้วยเหตุผล แวดล้อมที่น่าเห็นใจผู้ปกครองที่ส่งเด็กไปเรียน โรงเรียนจึงเป็นที่ชื่นชอบต้องกการแก้ปัญหาจราจรที่พ่อแม่จะต้องเสียเวลาไปส่งลูกชาย และหญิงในหลายๆ โรงเรียนในภาคเช้าซึ่งจราจรติดขัด โรงเรียนดาราเองก็มีความพร้อมในด้านอาคารสถานที่ บุคลากรที่จะสามารถรับเด็กชายได้ แต่เดิมเราก็แค่มีศิษย์เก่าชายตัวเล็ก ๆ มาก่อน ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอยากให้นักเรียนชายหญิงรู้จักการปรับตัวในการเรียนร่วมกัน เมื่อปรึกษาหารือผลดีผลเสียแล้ว ก็ได้ขออนุญาตจากสภาคริสตจักร ตามขั้นตอนให้เป็นการศึกษาของเด็กชายในโรงเรียนดาราอย่างเป็นทางการเมื่อปีการศึกษา 2534

โดยเริ่มรับตั้งแต่ระดับอนุบาล 1-3 และส่งต่อขึ้นไปเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการปรับตัวของครูและนักเรียนในระดับอื่น ๆ จนปัจจุบันปี 2542 นักเรียนชายได้ขึ้นมาศึกษาถึงชั้น ม.2 ของโรงเรียนและจะส่งต่อไปถึงระดับ ม.6 ในปี 2547

นับเป็นบรรยากาศที่ดีของโลกยุคใหม่ที่เปิดโอกาสให้เด็กชายและหญิงได้เรียนร่วมกัน โรงเรียนได้เตรียมความพร้อมด้านอาคารสถานที่ ห้องน้ำห้องส้วม และจัดกิจกรรม มีสนามฟุตบอล สนามตะกร้อ ฯลฯ เพื่อรองรับกิจกรรมของนักเรียนชาย โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากแรงงานเด็กชายในกิจกรรมต่าง ๆ และนักเรียนทุกคนก็ปฏิบัติกิจอยู่ในกรอบตามวัยที่ดีรู้จักการวางตัวเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลืองานของหมู่คณะ ของเพื่อน ของครู เป็นตัวชูโรงในโรงเรียนดารา เป็นสีสันที่ดีของดาราในรอบ 120 ปี และจะเป็นการช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนในด้านการเรียนและการกีฬาหลังจากที่เราเคยครองความมีชื่อเสียงจากกลุ่มนักเรียนหญิงมาแล้วเป็นเวลานาน

********************************************

ที่มา : หนังสือ 120 ปีดาราวิทยาลัย