ความเป็นมาของทุน Mary Cambell
และประวัติย่อของ Mary Margaretta Cambell
เนื่องจากทางโรงเรียนดาราวิทยาลัย ได้รับทุนปีละประมาณ 1,500 เหรียญสหรัฐ ทุกปี จากกองทุน Mary Cambell ดิฉันได้เรียนถามฝ่ายประวัติศาสตร์สภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้ความว่า ท่านผู้นี้เคยเป็นครูอยู่โรงเรียนดาราวิทยาลัย ท่านเดินทางไปกรุงเทพฯ และในระหว่างการเดินทางกลับเชียงใหม่ท่านตกน้ำตายที่นครสวรรค์ในตอนเย็น วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1881 เราจึงน่าจะรู้ว่าผู้ที่เริ่มก่อตั้งโรงเรียนในระยะแรก ๆ ทำงานอย่างทุ่มเท เสียสละทุกอย่างแม้ชีวิต เพื่อโรงเรียนของเรา
นางสาวแมรี มากาเรตต้า แคมแบล เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1858 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่ออายุได้ 4 ขวบ เธอเกือบจะเสียชีวิต เพราะความเจ็บป่วย ต่อมาภายหลังได้ฟื้นจากการเจ็บป่วย สุขภาพดีขึ้น จนสามารถสมัครเข้าเรียนที่ Western Female Seminary เมืองอ๊อกฟอร์ด รัฐโอไฮโอ ในปี ค.ศ. 1875 เธอเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ชอบเรียนรู้ มีคุณธรรม และมีความรับผิดชอบ มีกิริยามารยาทงดงาม มีความเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ มีอารมณ์ขันร่าเริงแจ่มใส ฉลาดช่างคิด รู้จักเห็นใจ และเข้าใจผู้อื่น เธอสมัครมาทำงานกับคนลาว (หนังสือชีวประวัติของ Mary Cambell เรียกคนล้านนาว่า ลาว) ในประเทศไทยพร้อมกับนางสาว Edna S.Cole ในปี 1878 ด้วยความยินยอมของบิดามารดา และด้วยความสำนึกว่าเธอได้ถวายทั้งร่างกาย จิตใจ และพลังของเธอทั้งหมด แก่พระเจ้า ยินดีและเต็มใจ รับใช้พระองค์ ไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ เป็นการตัดสินในที่สุขขุม รอบคอบ ไม่มีการลังเล ไม่มีการเสียใจ แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจในการเสียสละครั้งนี้
การเดินทางไปไกลครั้งแรกในชีวิตของ แมรี่ แคมเบล เธอออกจากเดนเวอร์ไปซานฟรานซิสโก จากซานฟรานซิสโก ไปญี่ปุ่น ฮ่องกง จากฮ่องกงไปกรุงเทพ และจากกรุงเทพฯ ไปสู่ดินแดนลาว (ชื่อที่มิชชันนารีเรียกแดนล้านนาไทยในขณะนั้น) เธอออกจากซานฟรานซิสโกวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1878 และถึงประเทศไทยในวันที่ 6 ธันวาคม 1878 คุณแมรี่ได้เล่าถึงเมืองไทยให้ครอบครัวของเธอทราบในจดหมายว่า ประเทศสยาม (ชื่อในขณะนั้น) เป็นดินแดนที่งดงาม แปลกตา ยากที่หาได้ เต็มไปด้วยดอกไม้ และต้นไม้เมืองร้อนที่สวยงาม อากาศที่แจ่มใสดี เธอรู้สึกรักเมืองสยามและชาวสยามเสียตั้งแต่ต้นแล้ว และยังได้พบคนลาวอีกด้วย เพราะคณะมิชชันนารี และคนลาวจากภาคเหนือได้เดินทางมาต้อนรับเธอที่กรุงเทพฯ โดยออกเดินทางจากลาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1878 ใช้เวลาเตรียมเรือเพื่อเดินทางกลับเชียงใหม่ถึงสองเดือน ได้ออกเดินทางจากกรุงเทพ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1879 คณะมิชชันนารีเดินทางด้วยเรือ 3 ลำ แต่ละลำยาว 20 ฟุต กว้าว 8 ฟุต คุณเอ็ดน่า อธิบายไว้วา เธอ และแมรี่ ใช้ด้านหลังเรือเป็นที่อยู่อาศัย มันสูงท่วมหัวเธอ และใช้ม่านกั้นไว้เมื่อต้องการพักผ่อน หัวหน้าคณะเดินทางคือ Mr.Wilson มีหนานอินตา เป็นผู้ช่วย เธอได้พรรณนาความงามของทิวทัศน์ริมฝั่งน้ำ แก่งต่าง ๆ ไฟไหม้ป่ายามค่ำคืน มีคณะคนไทยมาต้อนรับก่อนถึงเชียงใหม่ 8 วัน คณะมิชชันนารีเดินทางถึงเชียงใหม่วันอังคารที่ 18 เมษายน 1879 คณะมิชชันนารีที่อยู่เชียงใหม่ มี ดร.แมคกิลวารี และภรรยา คุณหมดชีด และภรรยา ออกมาต้อนรับถึงนอกเมือง ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงเชียงใหม่ รวมทั้งสิ้นสองเดือนสองวัน
เมื่อถึงเชียงใหม่แล้ว ก็ได้เข้าเฝ้าเจ้าเชียงใหม่ แจ้งให้ท่านได้รับเรื่องที่จะเปิดโรงเรียนซึ่งท่านเห็นชอบด้วยเป็นอย่างยิ่ง คุณแมรี่ และคุณเอ็ดน่าพักอาศัยอยู่กับครอบครัวแมคกิลวารี ที่บ้านพักของท่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งคริสตจักรที่ 1 ปัจจุบัน และโรงเรียนดาราวิทยาลัยก็เริ่มเปิดทำการที่บ้านหลังนี้ เริ่มต้นด้วยนักเรียน 6 คนและเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในเวลาอันรวดเร็ว ในระยะเริ่มต้น แหม่ม Edna Cole สอน คณิตศาสตร์ และภูมิศาสตร์ แหม่ม Mary Cambell สอน คณิตศาสตร์ และดนตรี ในระยะเริ่มต้นมีเด็กชายมาเรียนด้วย 3 คน ท่านบรรยายคุณสมบัติของนักเรียนของท่านว่า นักเรียนสุภาพ มีความตั้งใจจริง เชื่อและไว้ใจได้ มีความสัตย์ซื่อ และจริงใจ จึงเป็นการเริ่มงานที่ดี ภาษายังเป็นอุปสรรคจึงมีครูจันตาผู้ช่วยของท่าน เป็นผู้ช่วยเหลือ Mary Cambell ได้บรรยายลักษณะคนลาวไว้ว่า คนลาวน่ารักดี สังคมดี มีพลัง ชอบดนตรี และไว้ใจได้
เมื่อครูฝรั่งทั้งสองท่านมาถึงเชียงใหม่ได้ 1 สัปดาห์ พระชายาเจ้าเมืองเชียงใหม่ส่งรถม้ามารับท่านไปเฝ้าที่คุ้มหลวง และหลังจากนั้นก็ได้เข้าเฝ้าอีกหลายครั้งเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ตั้งแต่ต้น
ภายใน 5 เดือน นักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 30 คน เป็นนักเรียนประจำ 18 คน นักเรียนไปกลับ 12 คน มิชชันนารีมาเปิดโรงเรียนชาย เพราะมีเด็กชายต้องการเรียนเป็นจำนวนมาก มิสเตอร์วิลสัน ยกบ้านของท่านให้ใช้เป็นที่เรียน ตัวท่านเองไปสร้างกระท่อมไม้ไผ่อยู่ แหม่มแมรี แคมแบล และแหม่มโคล สามารถพูดภาษาลาวได้อย่างคล่องแคล่ว ในปี 1879
เดือนพฤศจิกายน ปี 1880 สุขภาพของแหม่มแมรี่ แคมเบล ทรุดโทรมลง ประจวบกับถึงเวลาที่มิชชันนารีจะไปกรุงเทพฯ เพื่อรับของที่ส่งมาจากต่างประเทศเป็นประจำทุกปี คณะมิชชันนารีเห็นว่าแหม่มแคมแบล ควรจะไปด้วย เพื่อรักษาตัว และพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง และปีต่อไป แหม่มโคล ก็น่าจะได้ไปพักผ่อนด้วย เธอเดินทางจากเชียงใหม่วันที่ 23 พฤศจิกายน 1880
เธอได้ลงพบกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ และเพชรบุรี มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด ได้พักผ่อน และเดินทางกลับในวันที่ 17 มกราคม 1881 พร้อมกับคุณหมอชีด (Dr.Cheek) และมี คำทิพย์ คนลาวซึ่งติดตามไปดูแลเธออย่างใกล้ชิด รวมทั้งสาวชาวลาวอีก 1 คน
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1881 ในขณะที่เรือจอดพักที่นครสวรรค์ แหม่มแคมเบล ลงอาบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนเธอจะลงไปในแม่น้ำ คุณหมดชีด ซึ่งเอาใจใส่ดูแลเธออย่างดีเสมือนหนึ่งเป็นน้องสาวของท่าน ได้ลงไปสำรวจบริเวณนั้น เห็นว่าน้ำไม่ลึก และปลอดภัย จึงให้เธอลงไปอาบน้ำได้ เมื่อเธอเดินลงไป ก็จมหายไปต่อหน้าคนเป็นจำนวนมาก คนเหล่านั้นว่ายน้ำไม่เป็นไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ คงมีแต่คุณหมอชีด ที่ได้พยายามงมหา จนพบ และนำตัวเธอขึ้นมาได้ แต่ก็สายเกินไป คุณหมอชีด ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ มิชชันนารีได้นำศพของเธอลงไปกรุงเทพฯ ไปถึงกรุงเทพฯ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1881 เวลาเที่ยงคืน และมีพิธีฝังศพเธอ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1881 เวลา 16.30 น. ที่สุสานในกรุงเทพฯ รวมอายุ 22 ปี 10 เดือน 12 วัน
แหม่มแมรี่ แคมเบล อุทิศตัวมาทำงานในประเทศไทยด้วยความรักของพระเจ้า แม้ว่าเวลาทำงานของท่านจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แต่เป็นผลงานที่ประมาณค่ามิได้ เป็นการเริ่มต้นการตั้งโรงเรียนในระบบแห่งแรกของภาคเหนือ เป็นแรงจูงใจให้มิชชันนารีหลายท่านที่อุทิศตน ทำงานรับใช้พระเจ้าตลอดชีวิตในประเทศไทย ศพของท่านเหล่านั้นยังคงอยู่ในประเทศไทย จนกระทั่งทุกวันนี่ และ Miss Mary Margaretta Cambell เป็นบุคคลที่ชาวดารา ควรจะจดจำรำลึกถึงท่านในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนของเราคนหนึ่งเป็นที่รัก “รักพระเจ้าด้วยสุดใจสุดจิต และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” อย่างแท้จริง เป็นคนที่จะอยู่ในดวงใจของเราตลอดไป..
สมศรี ไชยเศรษฐ
รวบรวมจากเรื่อง “Mary Margaretta Cambell”
ที่มา : หนังสือ 120 ปีดาราวิทยาลัย