ภาพวาด พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (บุญจันทร์) เจ้าเมืองขุขันธ์ลำดับที่ ๓ (พุทธศักราช ๒๓๒๕ - ๒๓๖๙) สมรสกับอำแดงกระโอม ธิดาพระสีมาปัจจิมเขตต์ กองนอก เมืองขุขันธ์
ที่มาภาพ: สภาวัฒนธรรมเมืองขุขันธ์ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ http://www.mueangkhukhanculturalcouncil.org/2014/07/blog-post_56.html
โดย อาจารย์สัมฤทธิ์ สหุนาฬุ ปราชญ์ศีขรภูมิ
รวบรวมโดย ศาสตราจารย์ ดร.พงษ์ศักดิ์ สหุนาฬุ
เรียบเรียง และจัดทำโดย ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ คำงาม
อำแดงกระโอม เป็นบุตรีลำดับที่ 8 ของพระสีมาปัจจิมเขตต์(ดวง)กับอำแดงอำไพ ท่านผู้นี้ได้สมรสเป็นภรรยาของพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (บุญจันทร์) เจ้าเมืองขุขันธ์ลำดับที่ 3 ทำให้พระสีมาฯ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) เจ้าเมืองขุขันธ์คนแรกมีสถานะกลายเป็นพ่อตาของเจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ 3 ไปด้วย
พระยาขุขันธ์ฯ (บุญจันทร์) เมื่อครั้งยังมีบรรดาศักดิ์เป็นพระไกร ผู้ช่วยเมืองขุขันธ์ ได้ติดตามพระยาขุขันธ์ภักดีฯ (เชียงขันธ์)เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ 2 ผู้เป็นบิดาเลี้ยงมาช่วยราชการได้เกิดความสนิทสนมชอบพอกับ “อำแดงกระโอม” บุตรีของพระสีมาฯ ที่บ้านยาง เนื่องจากได้ติดตามบิดาเลี้ยงไปมาระหว่างเมืองขุขันธ์กับกองนอกยางอนันต์ปีละหลายครั้งมิได้ขาด ต่อมาพระไกร(บุญจันทร์)ได้กล่าวหา พระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) บิดาเลี้ยง ในข้อหากบฏคบคิดร่วมกับญวน จนพระยาขุขันธ์ฯ บิดาเลี้ยงถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองขุขันธ์ ทำให้พระไกร(บุญจันทร์)ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ เป็นท่านที่ 3 ในราชทินนามเดียวกันกับบิดาเลี้ยง ทำให้ท้าวอุ่น หรือพระภักดีภูธรสงคราม ปลัดเมืองขุขันธ์ ในขณะนั้นไม่พอใจ (ท้าวอุ่นผู้นี้เป็นบุตรพระยาไกรภักดีฯ (ตากะจะ) ปฐมวงศ์เจ้าเมืองขุขันธ์ และมีศักดิ์เป็นพี่ชายของท่านบ้านใหญ่ บิดาพระสีมาฯ (ดวง) นอกจากนี้ยังมีศักดิ์เป็นหลานของพระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ 2) อีกทั้งเกิดความระแวงเกรงกลัวว่าตัวท่านอาจจะไม่มีความปลอดภัย ในชีวิตตนเองและครอบครัวในฐานะที่อยู่ในตำแหน่งปลัดเมืองขุขันธ์ จึงต้องตัดสินใจเดินทาง เข้ากรุงเทพฯ เพื่อกราบบังคมทูลขอแยกพื้นที่เมืองขุขันธ์บางส่วนแยกตั้งเป็นเมืองใหม่ โดยกราบบังคมทูลขอแยกบ้านโนนสามขา สระกำแพง และทูลขอเป็นเจ้าเมืองด้วยตนเอง พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะบ้านโนนสามขา สระกำแพง ขึ้นเป็น “เมืองศรีษะเกษ” และโปรดเกล้าฯให้พระภักดีภูธรสงคราม (ท้าวอุ่น บุตรตากะจะ) ปลัดเมืองขุขันธ์ ขึ้นเป็นเจ้าเมืองศรีษะเกษ เป็นท่านแรก ในราชทินนามใหม่ว่า “พระรัตนวงศา” ว่าราชการขึ้นต่อเมืองนครราชสีมา
พระยาขุขันธ์ฯ(บุญจันทร์) ได้สู่ขออำแดงกระโอมบุตรีพระสีมาฯ สำรองเจ้าเมืองปัจจิม ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นนายกองนอกยางอนันต์ ตกแต่งเป็นภรรยา ดังนั้นอำแดงกระโอมจึงเปลี่ยนฐานะเป็นคุณหญิงกระโอม และพระยาขุขันธ์ฯ (บุญจันทร์)ก็มีฐานะเป็นบุตรเขยของพระสีมาฯเป็นต้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นพระยาขุขันธ์ฯ ได้แต่งตั้งตำแหน่งกรมการเมืองไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว คือ
1.ตั้ง นายดวง เป็น “พระสีมาปัจจิมเขตต์” กองนอก ว่าที่เจ้าเมือง แต่ยังมิทันกราบบังคมทูลขอตั้งบ้านยางอนันต์เป็นเมือง ก็เกิดเหตุการณ์ปฏิรูปการปกครองเสียก่อน
2.นายสวาย (เคยเล่าประวัติก่อนหน้านี้ ติดตามอ่านโพสเก่าได้) เป็น “พระนรินทรภักดี” (สหุนาฬุ/สหุนาลุ)
3.นายเนียม (เคยเล่าประวัติก่อนหน้านี้ ติดตามอ่านโพสเก่าได้) เป็น “หลวงประเสริฐสรรพกิจ” (สหุนาฬุ/สหุนาลุ)
4.นายน้อม (ติดตามอ่านประวัติในโพสเก่า)เป็น “หลวงทิพยโอสถ” (#สหุนาฬุ/สหุนาลุ)
5.นายคำ เป็น “หลวงทรงวิชัย” (ต้นสกุลคำงาม)
6.นายเสาะ เป็น “หลวงวิจิตรอักษร” (ต้นสกุลทรงศรี)
7.นายแซร็ย เป็น “หลวงชัยอาสา” (ต้นสกุลศิริมาก และ ต้นสกุลโถเล็ก)
พระยาขุขันธ์ฯ (บุญจันทร์) กับคุณหญิงกระโอม ไม่มีบุตรธิดาสืบสกุล
ที่มา: หนังสือรวมผลงานชุดที่ 2 สายเลือด สายสกุล และอัตชีวประวัติของอาจารย์สัมฤทธิ์ สหุนาฬุ