แม่ประยูร จันทรประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2460 เป็นบุตรของคุณตามิ่ง คุณยายสิม โถเล็ก เป็นหลานของหลวงชัยอาสา (นายไซร) กรมการหัวเมืองฝ่ายตะวันตก ขึ้นต่อเมืองขุขันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องท้องเดียวกัน 6 คน คือ 1. นายพิมพ์ โถเล็ก ซึ่งถึงแก่กรรมตั้งแต่วัยหนุ่ม 2. นายเพม โถเล็ก ถึงแก่กรรมแล้ว 3. คุณแม่ประยูร จันทรประเสริฐ ผู้มรณะที่กำลังทำบุญฌาปนกิจในวันนี้ ลำดับที่ 4 คือ คุณปราณี นพเก้า หัวหน้าคณะเจ้าภาพในวันนี้ ลำดับที่ 5 พลสมัครรัน โถเล็ก ซึ่งถึงแก่กรรมในระหว่างรับราชการตำรวจ และลำดับที่ 6 คือ นายบุญเรือน โถเล็ก ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทกิจรุ่งเรืองสุรินทร์ จำกัด ของนายกอบชัย สืบนุการณ์ ที่ อ.สังขะ แม่ประยูร ขณะอยู่ในวัยเยาว์ได้ศึกษากิจการบ้านเรือนงานฝีมือ ถักทอ สืบต่อจากบรรพบุรุษและมารดาจนมีความรู้ความสามารถประกอบกิจการได้ดีเด่นกว่าสาวๆ ในรุ่นเดียวกัน มีความคล่องตัว เข้าสังคม และต้อนรับข้าราชการอำเภอที่ไปมาติดต่อบ้านเรือน เพราะคุณพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก และคนเดียวจึงได้ทำหน้าที่ช่วยคุณแม่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองได้เป็นอย่างดีเด่นในสังคม ในระยะแตกเนื้อสาวเนื่องจากเป็นผู้มีพรสวรรค์โดยมีผิวขำเนียนสวย เป็นที่ติดตาต้องใจหมายปองของบรรดาหนุ่มๆ ในยุคนั้น จึงเมื่ออายุได้ 19 ปี ก็ได้สมรสกับนายกิมแซ แซ่จ๊ก ครูประชาบาล ซึ่งมีบิดาเป็นจีน เมื่อปี พ.ศ. 2480 หลังจากนั้น นายกิมแซก็เข้ารับราชการทหารประจำการครบ 2 ปี จึงกลับเข้ารับราชการครูประชาบาลตามเดิม และนายกิมแซ แซ่จ๊ก ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลเป็น นายกระแสร์ จันทรประเสริฐ แล้วถูกเรียกระดมพลเข้าปฏิบัติราชการทหารเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อต้นปี พ.ศ. 2485 ปฏิบัติการรบร่วมกับกองพลที่ 3 อยู่ที่นครเชียงตุง ประเทศพม่า เป็นเวลา 3 ปี จึงปลดเป็นกองหนุนกลับเข้ารับราชการครู ดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านตรึม ตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ ปี พ.ศ. 2488 อำเภอได้คัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลยาง แต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. 2513 ขณะอยู่ในตำแหน่งกำนันตำบลยาง โดยมีแม่ประยูร จันทรประเสริฐ เป็นศรีภรรยา ทำหน้าที่แม่บ้านผู้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองตลอดทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน โดยตลอดมาเป็นเวลาอันยาวนานร่วม 25 ปี มีบุตรด้วยกันรวม 9 คน คือ
1. จ่าสิบเอกยงยุทธ จันทรประเสริฐ สมรสกับ นางสาวจำลอง อินทอง บ้านตรึม มีหลานให้คุณย่า 5 คน
2. นายบรรจงศักดิ์ จันทรประเสริฐ พนักงานสุขาภิบาลระแงง สมรสกับ นางสาวยุพิน ใจงาม บ้านปราสาทระแงง มีหลานให้คุณย่า 5 คน
3. อาจารย์กำแหง จันทรประเสริฐ สมรสกับ คุณบุญประเสริฐ พุ่มพัดตุน ที่กรุงเทพฯ มีหลานให้คุณย่า 2 คน
4. นายสุพจน์ จันทรประเสริฐ สมรสกับคุณจุรี พลศรี ที่อำเภอสังขะ มีหลานให้คุณย่า 3 คน
5. นางเครือจิตร (บุตรสาวคนเดียว) สมรสกับ นายธานินทร์ คำงาม มีหลานให้คุณยาย 2 คน
6. นายนิคม จันทรประเสริฐ (นายออม) สมรสกับ คุณสุนับ นิสัยกล้า บ้านกะลัน มีหลานให้คุณย่า 2 คน แล้วถึงแก่กรรม
7. อาจารย์ทรงศักดิ์ จันทรประเสริฐ โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย สมรสกับ คุณสมสมัย ศิลาชัย มีหลานให้คุณย่า 2 คน
8. นายศรศักดิ์ จันทรประเสริฐ (นายปรัง) สมรสกับ คุณปราณี ทองหล่อ เจ้าหน้าที่อนามัย อำเภอสังขะ มีหลานให้คุณย่า 2 คน
9. นายชาญขวัญ จันทรประเสริฐ ประจำสำนักงานหนังสือพิมพ์มติชน กรุงเทพฯ สมรสกับคุณจารุวรรรณ กาแก้ว มีหลานให้คุณย่า 1 คน
คุณแม่ประยูร จันทรประเสริฐ เป็นแม่บ้านคู่ชีวิตของคุณพ่อกระแสร์ จันทรประเสริฐ ที่ดีและประเสริฐยิ่ง เมื่อสามีดำรงตำแหน่งเป็นครูอาจารย์ ก็ทำหน้าที่แม่บ้านครู มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในวงการครูจนสามีได้เลื่อนตำแหน่งเป็นครูใหญ่ เมื่อสามีรับราชการทหารและออกศึกสงคราม ก็ทำหน้าที่แนวหลังที่ดี อดทน เลี้ยงดูบุตรตามลำพัง จนสามีกลับจากราชการสงคราม เมื่อสามีดำรงตำแหน่งเป็นกำนัน ก็ทำหน้าที่แม่บ้านกำนัน มีมนุษย์สัมพันธ์ในแวดวงของนักปกครองท้องที่ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ได้รับการยกย่องจากบุคคลทั่วไป จนมีผู้ให้สมญานามเปรียบเทียบว่าเสมอด้วยท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ศรีภรรยาของอดีตนายกรัฐมนตรีตลอดกาลของไทยในสมัยนั้น นับว่าคุณแม่ประยูรเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม คุณงามความดีที่มีคุณค่าแก่ประเทศชาติบ้านเมืองชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งที่ผู้คนจะต้องจดจำอยู่คู่กับแผ่นดินชั่วนิรันดรนั้นก็คือ คุณแม่ประยูร และคุณพ่อกำนันกระแสร์ได้พร้อมใจกันบริจาคที่ดิน 13 ไร่ อันเป็นทรัพย์สินสมรสที่ท่านทั้งสองทำมาหาได้นั้น ให้เป็นที่สร้างโรงเรียนบ้านกะลัน (กระแสร์วิทยานุเคราะห์) ที่สถานีรถไฟบ้านกะลัน ซึ่งไม่มีผู้ใดในละแวกนี้จะเป็นผู้เสียสละได้ จนปรากฏคุณความดีให้นายกระแสร์ จันทรประเสริฐ กำนันตำบลยาง ได้รับรางวัลแหนบทองคำจากรัฐบาลเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติอยู่ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากการสิ้นบุญของนายกระแสร์ จันทรประเสริฐ ที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่งกำนันตำบลยาง เมื่อปี 2518 แล้ว คุณแม่ประยูร ตกอยู่ในพุ่มหม้าย เลี้ยงดูบุตรธิดาที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ตามลำพัง จนกระทั่งเติบโตมีครอบครัว แยกย้ายกันไปประกอบอาชีพตามที่ต่างๆ และหัวเมืองกัน จนหมดสิ้นแล้ว คุณแม่ประยูรได้ครองตนครองบ้านอยู่โดยลำพัง ทำสวนเป็นงานอดิเรก ต้องประสพกับความว้าเหว่ สุขภาพจิต สุขภาพกายเสื่อมโทรมไปตามวัยชรา มีการเจ็บป่วยเป็นครั้งคราว ญาติและบุตรหลานผู้ดูแลอุปการะได้ช่วยกันรักษาพยาบาลโดยดีตลอดมา จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2532 ได้ล้มป่วย อาการของไตพิการ ญาติสนิท บุตรหลานได้ช่วยกันดูแลรักษานำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์รักษาพยาบาลหลายครั้งหลายหน จนล่วงเข้าปี พ.ศ. 2533 ในเดือนตุลาคม อาการป่วยก็ทรุดหนักลง บุตรธิดาและญาติได้นำส่งโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ให้แพทย์ทำการรักษาจนสุดความสามารถ จนในที่สุด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2533 เวลา 03.30 น. ในท่ามกลางแวดวงของแพทย์ผู้พยาบาล บุตรธิดา หลานๆ และญาติสนิทที่เฝ้าไข้อยู่พร้อมหน้ากัน แม่ประยูรก็ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการของโรคไตวาย ยังความโศกเศร้าเสียดาย อาลัยรัก แก่บุตรหลานด้วยอาการอันสงบ ชีวิตของแม่ประยูรก็สิ้นสุดลงตั้งแต่เวลานั้นที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ บรรดาบุตรหลานญาติมิตรได้รับศพนำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านกะลัน หมู่ 16 ตำบลยาง อันเป็นนิวาสสถาน ซึ่งจะได้ทำการฌาปนกิจในวันนี้ รวมอายุได้ 73 ปี
คุณแม่ประยูร จันทรประเสริฐ ขณะมีชีวิตอยู่ได้ประกอบคุณความดีไว้มากมาย อาทิเช่น เป็นพุทธศาสนิกชนที่ประกอบการบุญกุศลอยู่เนืองนิตย์ ทำบุญตักบาตร อังคาดพระสงฆ์ เข้าวัดฟังธรรม ประกอบกิจการบุญตามเทศกาลต่างๆ ในฐานะผู้นำฝ่ายสตรี ภรรยาของกำนันโดยไม่มีบกพร่องเลี้ยงดูอบรมบุตรชายหญิงให้อยู่ในกรอบของคนดี ให้บุตรธิดาได้รับการศึกษาสูงๆ โดยควรแก่อัตภาพและความสามารถของแต่ละบุคคล จนสำเร็จได้เป็นข้าราชการหลายคน ได้มีอาชีพการงานเป็นปึกแผ่นมั่นคงกันทุกคน ปฏิบัติหน้าที่แม่ศรีเรือน เป็นแม่บ้านที่ดีให้แก่สามีทุกสถานะได้อย่างดี ไม่มีบกพร่อง ขยันประกอบกิจบ้านการเรือน ทำสวน ทำนา ปลูกไม้ยืนต้นไม้ผลไว้ให้ลูกหลานได้เก็บกิน ทิ้งไว้เป็นสมบัติและอนุสรณ์แก่ลูกหลานจำนวนมาก เป็นคู่คิดคู่ปรึกษาแก่สามีสร้างสมความดีให้แก่แผ่นดิน ในระหว่างทำหน้าที่แม่บ้านกำนัน ซึ่งได้มีการตัดถนนหนทางในเขตตำบลยางกุดหวายก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ๆ เช่น หมู่บ้านกระแสร์อุดม แก่นเมธี ศรีสวัสดิ์ บ่อน้ำคำ โคกสนวน ดงถาวร หนองแสง มีส่วนในการก่อตั้งก่อสร้างโรงเรียนกระแสร์วิทยานุเคราะห์ เป็นต้น อันเป็นคุณความดีที่ถาวรเป็นอนุสรณ์แห่งชีวิตที่ควรแก่คุณค่าไว้มาก ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ รวมทั้งคุณความดีอื่นๆ อีกมาก บัดนี้ร่างกายของคนดีคือแม่ประยูร ได้นอนสงบนิ่งอยู่ภายในโลงทองอันอำไพ ประดับด้วยมาลัยดอกไม้สด และพวงหรีดประจงแต่งอย่างงดงามสุดฝีมือ ที่ลูกหลานจัดทำขึ้นตั้งตระหง่านบน เชิงตะกอนภายในเมรุมาศอันงดงาม กำลังจะสูญสลายหายไปต่อหน้าต่อตาด้วยอำนาจของพระเพลิง ที่กระทำฌาปนกิจในวันนี้ เป็นปริศนาธรรมเตือนใจให้ผู้อยู่เบื้องหลังได้คิดคำนึงถึงหลักธรรมะของพุทธองค์ ทรงกล่าวไว้ เป็นคติแก่โลกว่าทุกสิ่งทุกอย่างทุกชีวิตเป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตา มีการดับ สูญสลาย จะคงจีรังยั่งยืนอยู่ก็แต่ชื่อเสียงคุณงามความดีที่ประกอบมาแล้วเท่านั้น วัวตายได้หนัง ช้างตายได้งา นกยูงตายได้หาง เนื้อเก้งกวางได้เขาไว้เป็นอนุสรณ์ ชีวิตมนุษย์นั้นความดีเท่านั้นที่จะเหลือเป็นอนุสรณ์ให้ลูกหลานรำลึกถึง
ที่มา: หนังสือรวมผลงานชุดที่ 2 สายเลือด สายสกุล และอัตชีวประวัติของอาจารย์สัมฤทธิ์ สหุนาฬุ